“ดีมากไรซ์” ปีเตอร์ยิ้มกว้าง ทันทีที่ปรียาภัทรตอบรับ
“งั้น…ฉันขอตัวเลยนะคะ”
“เชิญ”
ออกมาจากห้องของปีเตอร์แล้ว ปรียาภัทรก็ตรงดิ่งกลับมายังโต๊ะทำงานของตัวเอง ด้วยหน้าตาบูดบึ้งไม่สบอารมณ์ มาถึงหญิงสาวก็ทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้อย่างกระแทกกระทั้น
ตกเย็นหลังเลิกงานปรียาภัทรก็ตรงดิ่งกลับอพาร์ตเมนต์ย่านแพดดิงตัน เธอตั้งใจว่าจะใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลของอารอน เรมี่คร่าวๆ ก่อน หลังจากที่ไม่ได้ติดตามข่าวของเขามาเสียนาน แล้วพรุ่งนี้เธอคงต้องลงมือสัมภาษณ์เขาอย่างจริงจังสักที
“จ้ะวี”
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นจึงรีบกดรับ ซึ่งปลายสายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนรักของเธอเองวีรณาแต่งงานกับนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลกอย่างเดวิด แพทริก มอร์แกน จึงใช้ชีวิตอยู่ในลอนดอนเป็นการถาวร แถมตอนนี้เพื่อนของเธอก็ตั้งครรภ์ได้แปดเดือนกว่าแล้ว อีกไม่นานเธอก็จะได้เห็นหน้าหลาน ก่อนหน้านี้วีรณาก็ทำงานที่เดียวกับเธอ แต่พอหลังจากแต่งงานและเพื่อนของเธอตั้งครรภ์ สามีอย่างแพทริกไม่ยอมให้เพื่อนของเธอกระดิกตัวไปไหนเลย บอกให้ทำงานได้แต่ให้ส่งทางอีเมลเท่านั้น พูดง่ายๆ ก็คือให้ลาออกจากการทำงานแบบเต็มเวลาแล้วให้ทำแบบพาร์ทไทม์แทน
‘คิดถึงข้าวหอมจังเลย เย็นนี้มากินข้าวที่บ้านเราหน่อยสิ’
“อืม…ได้สิ แต่ว่าเราไม่มีรถไปนะ”
บ้านของวีรณากับแพทริก อยู่ค่อนข้างไกลจากอพาร์ตเมนต์ของเธอ อยู่ออกไปแถบชานเมืองลอนดอน ต้องรถส่วนตัวเท่านั้นถึงจะสามารถเดินทางไปได้
‘ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราให้คนไปรับ’
“โอเคจ้ะ” ปรียาภัทรคาดว่าคนที่จะมารับเธอคงไม่พ้นโรเจอร์ หรือไม่ก็อาจจะเป็นลูอิสลูกน้องของแพทริกสามีของวีรณา แต่จะเป็นใครมารับเธอก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ได้กินข้าวฟรีชีวิตดี๊ดี
ปรียาภัทรอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปรอคนที่วีรณาจะส่งมารับที่หน้าอพาร์ตเมนต์ ตามเวลาที่ได้นัดหมายกันไว้รอเพียงไม่นาน จากัวร์สีขาวคันตระหง่านก็มาจอดอยู่ตรงหน้า
“สวัสดี! ฮันนี่” อารอนลดกระจกด้านคนขับลง แล้วเสนอหน้าออกมาทักทาย
“อะไรของคุณ” ปรียาภัทรเบะปากใส่ ทำไมเธอต้องเจอเขาเกือบตลอดเวลาเลยนะ
“รอผมอยู่ไม่ใช่เหรอ ขึ้นรถสิ” ขยับปากบอกอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้มีทีท่าเดือดร้อนกับท่าทางฮึดฮัดของอีกฝ่าย
“ใครบอกว่าฉันรอคุณ”
“ถ้าคุณกำลังรอคนมารับเพื่อไปกินข้าวกับคุณวีล่ะก็…รีบขึ้นมาเถอะ เพราะคนที่คุณวีส่งมารับคุณก็คือผม”
“อะไรนะ!”
วีนะวี ทำไมต้องส่งเขามารับเธอด้วย ปรียาภัทรบ่นกระปอดกระแปดในใจ แต่ก็เดินขึ้นมานั่งรถของอารอนแต่โดยดี
เธอขึ้นมานั่งด้านข้างคนขับ มือเล็กพยายามจะคาดเข็มขัดนิรภัยแต่จนแล้วจนรอดก็ทำไม่สำเร็จสักที จนเจ้าของรถเกิดความรำคาญ
“พอๆ คุณ เดี๋ยวผมจัดการให้”
ไม่รอให้เธออนุญาต มือหนาเอื้อมมาจัดการคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธออย่างเรียบร้อย แต่ก่อนที่เขาจะถอยตัวออกห่างใบหน้าคมคายสบตาเธอเข้าพอดี ทั้งคู่ราวกับตกอยู่ในมนตร์สะกด ไม่สามารถละสายตาออกจากกันได้ ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ เคลื่อนเข้าหาเธอ หมายจะจุมพิตที่ริมฝีปากบาง แต่ปรียาภัทรได้สติขึ้นมาก่อน
“ขอบคุณนะคะ”
เสียงของเธอทำให้อารอนได้สติ ร่างสูงถอยห่าง แล้วหันไปทำหน้าที่ขับรถตามเดิมส่วนปรียาภัทรได้แต่เอามือทาบที่อกซ้ายที่จู่ๆ ก็เต้นกระหน่ำรัวขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง เกือบถูกเกย์จูบซึ่งๆ หน้าแล้วไหมล่ะ ตอนนี้หัวใจของเธอเต้นกระหน่ำรัวจนหัวใจแทบจะระเบิดออกมาอยู่นอกอก แค่เธอเสียตัวให้ผู้ชายที่เป็นเกย์ก็รู้สึกแย่มากพอแล้ว ได้โปรด อย่าให้เธอต้องตกหลุมรักเขาเลย นี่แหละ เหตุผลที่เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขา เพราะระยะหลังๆ เวลาที่เธอใกล้ชิดกับเขาทีไร ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงหัวใจของเธอดันทำงานหนักไปเสียทุกที แต่เธอแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะต้องการปกป้องหัวใจดวงน้อยๆ ก็เท่านั้นเอง
อารอนพาปรียาภัทรมาถึงบ้านของแพทริกกับวีรณาโดยสวัสดิภาพ พอรถจอดสนิทเธอก็เปิดประตูลงจากรถทันที โดยไม่คิดจะรอเจ้าของรถเลยสักนิด
“เฮ้! ฮันนี่ รอผมด้วยสิ” อารอนรีบลงจากรถ ปิดประตูดังปัง เมื่อเห็นสาวเจ้าจ้ำอ้าวไปโดยไม่รอเขารีบวิ่งตามมาจนทัน และเดินเคียงข้างเธอเข้าไปในตัวบ้าน
“ข้าวหอม” วีรณาเอ่ยทักเพื่อนรักอย่างดีใจพร้อมๆ กับเดินเข้ามาสวมกอดอีกฝ่ายอย่างคิดถึง
“ตัวเล็กเป็นไงบ้าง” ปรียาภัทรเอ่ยถามถึงหลานที่ยังอยู่ในท้อง
“ดิ้นเก่งเชียวละ” วีรณาตอบพร้อมเอามือข้างหนึ่งลูบหน้าท้องตัวเองไปด้วย
“วีจะคลอดเมื่อไรล่ะ”
“เดือนหน้าจ้ะ”
“ดีใจจังเลย เราจะได้เจอหน้าหลานแล้ว เย้ๆ” ปรียาภัทรกระโดดดีใจไม่ต่างจากเด็กเล็ก ซึ่งอารอนที่ลอบมองเธออยู่ถึงกับอมยิ้ม
“ไง อารอน ทำไมนายถึงมาที่นี่ได้ล่ะ”
แพทริกที่เดินออกมาภายหลัง แกล้งแซวอารอน ทั้งๆ ที่ รู้อยู่แล้วว่าภรรยาของเขารบกวนให้อารอนไปรับเพื่อนของเธอมากินมื้อค่ำด้วยกัน เขารู้ดีว่าภรรยาของเขาอยากจะจับคู่ให้เพื่อนรักของเธอ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่…ใจสั่งมา” ตอบแพทริกแต่สายตาคู่คมมองไปที่ปรียาภัทร ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้รู้ด้วยเพราะมัวแต่สนใจลูบหน้าท้องกลมโตของวีรณาอยู่
“ไปกินข้าวกันดีกว่าค่ะ” เจ้าของบ้านอย่างวีรณาเอ่ยชวนทุกคนไปกินมื้อค่ำ เพราะเห็นว่าตอนนี้ก็สมควรแก่เวลาแล้ว
ปรียาภัทรเดินเข้าห้องอาหารไปพร้อมกับวีรณา ส่วนอารอนกับแพทริกเดินตามเข้าไปทีหลัง
เมื่อทุกคนนั่งประจำที่เรียบร้อย อารอนนั่งข้างปรียาภัทร แพทริกนั่งข้างวีรณา โรเจอร์กับลูอิสลูกน้องของแพทริกที่ตามมาสมทบทีหลังนั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน โรเจอร์นั่งลงข้างแพทริก ส่วนลูอิสนั่งลงข้างอารอน
ตอนนี้แพทริกให้แม่บ้านจากคฤหาสน์มอร์แกนมาอยู่ช่วยจัดแจงเรื่องอาหารและทำความสะอาด เพราะวีรณาท้องโตมากขึ้นจะทำเองเหมือนแต่ก่อนก็คงไม่สะดวก
เมื่อทุกคนประจำที่ แม่บ้านก็จัดการตักข้าวใส่จานให้ทุกคนทันที วีรณาไม่ลืมที่จะหันไปขอบคุณแม่บ้านอย่างที่เธอทำเป็นประจำทุกวัน
หลังจากที่ทุกคนทานอาหารเรียบร้อยแล้ว โรเจอร์กับลูอิสขอตัวกลับเรือนหลังเล็กที่อยู่ด้านหลัง แพทริกกับอารอนพากันไปนั่งจิบไวน์ที่ศาลาริมน้ำที่อยู่หน้าบ้าน ส่วนวีรณาพาปรียาภัทรขึ้นไปดูห้องของลูกที่กำลังจะเกิด ที่คุณพ่อจอมเห่ออย่างแพทริกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย
“วี! ทำไมข้าวของถึงได้เยอะแบบนี้ล่ะ” ตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อเห็นข้าวของเด็กอ่อน ที่ดูราวกับว่าเหมาสินค้ามาทั้งแผนก
“ก็คุณพ่อจอมเห่อน่ะสิ หลังจากที่เราบอกว่ากำลังท้องอยู่เท่านั้นแหละ พาเราไปห้างสรรพสินค้า เหมาของมาเกือบหมดทั้งแผนก แล้วเอามาจัดไว้แบบนี้ เราห้ามแล้วฟังที่ไหน” วีรณาบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็อมยิ้มกับความน่ารักของสามี
“เชื่อเถอะ เยอะขนาดนี้ ใช้จนลูกโตก็ยังไม่หมดเลยนะเนี่ย” ปรียาภัทรบอกยิ้มๆ
“ไม่หมดก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจะเก็บไว้ให้ลูกของข้าวหอมก็แล้วกัน”
“จะบ้าเหรอวี พ่อของลูกเรายังหาไม่ได้เลย แล้วจะมีลูกได้ยังไง”
“ก็คุณอารอนไง”