ธีริญหน้าขรึมลงทันตา เจ้านายเธอขยันโยนงานยากระดับเอสมาให้เสียจริง หากพูดถึงอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีใครไม่รู้จักบริษัทโกลบอล เน็ตเวิร์ก แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด (มหาชน) เรียกย่อๆ ว่า โกลบอล ผู้ผลิตและส่งออกแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และยังผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ครอบคลุมทุกประเภท รวมถึงคอมพิวเตอร์และแอปพลิเคชันยอดฮิตในระบบมือถือด้วย แถมเธอแอบได้ยินแว่วๆ มาว่าเจ้าของบริษัทกำลังสนใจจะลงทุนด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
เล่าลือกันว่าผู้บริหารหนุ่มลึกลับที่ไม่ชอบออกสื่อใช้เวลาเพียง 5 ปีก็นำพาบริษัทให้เจริญรุ่งเรืองก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำในทวีปเอเชีย ใครๆ ต่างอยากร่วมงานกับ โกลบอล กันทั้งนั้น แต่ก็ยากแสนยากเพราะต้องผ่านขั้นตอนการคัดเลือกและตรวจสอบละเอียดยิบ บริษัทไหนที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดจะถูกดีดออกโดยไร้การต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น
“พูดตามตรงนะคะเจ้านาย ฉันไม่มั่นใจเลยว่าจะทำได้ คุณก็รู้ว่าทางนั้นโหดแค่ไหน”
“ผมเชื่อมือคุณ”
ธีริญยิ้มแห้ง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ฉันว่าคุณส่งคนอื่นที่เก่งกว่าฉันไปดีกว่ามั้ยคะ ฉันไม่อยากรับปากซี้ซั้ว” เพราะทำงานกันมานานหลายปี เธอจึงกล้าที่จะพูดกับเจ้านายตามตรง
“คุณนี่แหละตัวเลือกที่ดีที่สุดของผม ช่วยผมเถอะนะริญ ถ้าสำเร็จนอกจากคุณจะได้ค่าคอม 1 % แล้ว ผมจะแถมโบนัสให้อีกแสนหนึ่ง”
เจ้านายเธอที่เจ้าเล่ห์ชะมัด รู้ว่าเธอกำลังลำบากเลยชอบเอาเงินมาล่อ และใช่...เธอขาดเงินอยู่พอดี
“ก็ได้ค่ะ ฉันพยายามทำให้ดีที่สุด”
เกษมยิ้มรับ ยกกาแฟขึ้นดื่มอย่างพอใจ ก่อนจะส่งรายละเอียดต่างๆ ให้ลูกน้องสาวมือฉมังนำไปศึกษาเตรียมตัวก่อนล่วงหน้า
ธีริญดูนาฬิกาข้อมือ เย็นมากแล้ว กำลังสองจิตสองใจว่าจะทานข้าวนอกบ้านหรือซื้อของสดกลับบ้านดี ปกติภิฌานจะกลับถึงบ้านช่วงเวลาราวๆ นี้ทุกวันเสาร์ แต่เมื่อวานเขากลับมาก่อนกำหนดแล้ว เธอเลยไม่แน่ใจว่าวันอาทิตย์นี้เขาจะกลับมาไหม
ไม่อยากเดาให้ปวดหัว เธอจึงค้นหารายชื่อเพื่อต่อสายถึงเขาโดยตรง ที่ต้องค้นหาก็เพราะว่าสามีที่ควรจะสนิทสนมใส่ใจภรรยาแทบไม่เคยโทร. หาหรือส่งข้อความถึงเธอเลย เธอเองใช่ว่าจะเป็นฝ่ายรออยู่อย่างเดียว เคยโทร. หาเขาหลายต่อหลายครั้ง ตามจิกเข้าขั้นหน้าด้านหน้าทนเลยเชียวละ แต่รอจนสายตัดก็ยังไม่ได้คุยกัน หรือถ้าเขารับสายก็จะบอกว่า
‘ยุ่งอยู่ แค่นี้นะ’
แล้วก็ไม่โทร. กลับหาเธอเลย ปล่อยให้เธอเป็นแม่สายบัวรอเก้อครั้งแล้วครั้งเล่า จนเธอตัดใจเลิกโทร. ไปเอง
ธีริญเห็นรายละเอียดการโทร. ครั้งล่าสุดแล้วถอนหายใจเศร้าๆ ดูเอาเถอะ...สามปีสามีโทร. และส่งข้อความรวมกันทั้งหมดไม่ถึงสิบครั้ง
ปีละสองสามครั้ง...พวกเธอช่างรักกันดูดดื่มหวานซึ้งเสียจริง!
ครั้งนี้ที่โทร. ไปก็ใจตุ๊มๆ ต้อมๆ ว่าเขาจะรับรึเปล่า สองครั้งแรกเธอรอจนสายตัดก็ยังไม่มีคนรับ ธีริญจึงตัดสินใจว่าหากครั้งนี้ยังไม่รับอีก เธอจะเลิกสนใจเขาแล้วไปหาข้าวกินให้อร่อย ทว่ารอไม่นานอย่างที่คิด สายติดทันทีที่กดโทร. ออก
“สวัสดีค่ะ”
ธีริญตัวชาวาบ ยกสมาร์ตโฟนออกดูว่าโทร. ผิดเบอร์หรือไม่ เธอถึงหูเพี้ยนได้ยินน้ำเสียงแว่วหวานของหญิงสาวรับสายแทนสามี
“ไม่ทราบว่าใครจะเรียนสายกับพี่ฌานคะ”
ปลายสายเอ่ยอย่างสุภาพ น้ำเสียงเป็นธรรมชาติราวกับรับโทรศัพท์ของสามีเธอบ่อยๆ ยิ่งทำให้ธีริญงุนงง ในหัวคิดเพียงอย่างเดียวว่า
ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?
เธอต้องใช้เวลาอยู่หลายอึดใจกว่าจะตั้งสติได้ พอคลำหาเสียงตัวเองเจอจึงถามกลับไปว่า
“คุณภิฌานอยู่มั้ยคะ”
“พี่ฌานไม่สะดวกรับสายตอนนี้ค่ะ จะให้แพทแจ้งว่าใครติดต่อมาดีคะ”
เธอไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือโมโห หรืออับอายกับคำถามนี้ดี เธอเป็นภรรยาของเจ้าของโทรศัพท์แท้ๆ แต่กลับถูกผู้หญิงคนอื่นถามว่าเป็นใคร ในขณะที่หล่อนรับโทรศัพท์ของสามีเธออย่างง่ายดาย เรียกว่าสนิทชิดเชื้อมากกว่าเมียตัวจริงของเขาเสียอีก
ที่เสียความรู้สึกมากกว่านั้นก็คือ อยู่กินกันมาสามปี แต่เขาไม่เคยเมมชื่อเธอในลงเครื่องเลย
เจ็บสุดๆ !!!