เช้าวันนี้ธีริญตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกแย่สุดๆ เธอแพ้ท้องหนักตั้งแต่เช้า ทั้งเวียนหัวหน้ามืดและคลื่นไส้จนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด กว่าจะลากสังขารมาเข้าห้องน้ำได้ก็เกือบอาเจียนเลอะตัวเอง พอถึงอ่างล้างหน้าก็โก่งคออย่างเอาเป็นเอาตาย
คุณแม่ท้องอ่อนอาเจียนจนไม่มีอะไรในท้องนอกจากน้ำย่อย มือที่จับขอบอ่างกำแน่น ตาพร่าน้ำตาเอ่อ ปากคอสั่นเพราะใจมันหวิวๆ คล้ายจะเป็นลมล้มพับไป ต้องยืนอยู่นิ่งๆ สักพักใหญ่รอจนกระทั่งอาการคลื่นเ**ยนวิงเวียนทุเลาลง ธีริญจึงลืมตาอย่างเบลอๆ ค่อยพาร่างกายที่อ่อนแรงเดินไปยังเตียงอย่างเชื่องช้า
“เฮ้อ...เช้านี้เล่นงานแม่หนักเลยนะตัวแสบ”
เธอลูบท้องคุยกับลูกน้อย แม้จะยังไม่รู้ว่าลูกเป็นเด็กผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะอายุครรภ์เพิ่งจะหกสัปดาห์ แต่ในหนังสือที่อ่านเจอบอกว่าลูกสามารถรับรู้ถึงความรักได้ผ่านการพูดคุยและสัมผัสตั้งแต่อยู่ในท้อง เธอจึงลองทำตามเพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่าขาดความรัก ในวันข้างหน้าถึงแกจะไม่มีพ่อ แต่ก็ยังมีแม่ที่รักแกล้นใจ
เธอจะเป็นทั้งแม่และพ่อให้กับลูกคนนี้เอง
หญิงสาวหันมองข้างเตียงที่ว่างเปล่าไร้ความอบอุ่น ในตอนที่ท้องและอยากได้กำลังใจจากสามี กลับเป็นตอนที่เธอเจ็บปวดที่สุด เพราะไม่มีเขาคอยเคียงข้างกันอยู่สักครั้ง เธอแค่นเยาะสมเพชตัวเอง ทั้งที่ควรจะเลิกหวังแต่ก็ยังหวัง คิดว่าพอลืมตาตื่นขึ้นมาจะได้เห็นเขานอนอยู่ข้างๆ เป็นคนแรกเสียอีก ถึงจะเป็นเสาร์ แต่พรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์แล้ว เธอแอบหวังว่าเขาจะใช้เวลาอยู่กับเธอมากขึ้น แต่ความจริงกลับตบหน้าเธออย่างจัง ทำให้ตื่นจากฝันลมๆ แล้งๆ
ไม่รู้ว่าหูแว่วไปเองรึเปล่า แต่ธีริญคล้ายได้ยินเสียงแตกหักดังมาจากข้างใน...
ใจเธอพังยับ
ตลอดสามปีที่ทนอยู่อย่างเดียวดาย ไม่มีวันไหนที่เธอรู้สึกเจ็บปวดมากเท่ากับวันนี้เลย น้ำตาที่ควรจะเหือดแห้งไปแล้วจากเมื่อคืนร่วงเผาะนองหน้า เธอเสียใจจนสุดจะกลั้นร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยน ปวดใจจนต้องยกมือกุมอกเอาไว้แน่น
ร้องไห้ไปนานแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ตอนนี้ตาเธอบวมจนจะปิดอยู่แล้ว รู้สึกปวดกระบอกตาร้าวไปถึงกระโหลก ธีริญจึงล้มตัวลงนอนขอพักสายตาสักครู่ แต่เพราะความอ่อนเพลียทำให้ผล็อยหลับไปจนถึงตอนบ่าย ตื่นมาอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงสมาร์ตโฟนแผดร้อง มือบางควานหาโทรศัพท์ กดรับด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า
“ฮัลโหล”
“วันนี้คุณว่างมั้ย ผมมีโพรเจกต์ใหญ่ ค่าคอมดี คุณสนรึเปล่า”
ธีริญที่ตาปิดอยู่ลืมตาโพลงทันที เซลล์อย่างเธอมีหรือได้ยินเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้วจะไม่สนใจ ยิ่งช่วงนี้ต้องหมุนเงินตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอต งานอะไรที่ทำแล้วได้เงินเธอรับเละหมดนั่นแหละ
“ว่างค่ะ”
หญิงสาวพูดคุยกับเกษมที่เป็นเจ้าของบริษัทสกาย - ไฮ จำกัด และหัวหน้าโดยตรงของเธออีกสองสามคำ ก็สลัดผ้าห่มลุกพรวด ไม่มีเวลาเสียใจแล้ว เธอเป็นผู้หญิงมีค่า ค่าน้ำค่าไฟ ค่ากินค่าอยู่ เพิ่มลูกเข้ามาอีกคน ไหนจะหนี้อีกสามล้านที่ต้องจ่าย ขืนมัวแต่ฟูมฟายเพราะผู้ชายคงได้อดตายกันพอดี ตอนนี้เธอคิดแต่เรื่องเงินก็พอ หายใจเข้าออกเป็นเงินเอาไว้
ธีริญกระวีกระวาดอาบน้ำแต่งตัวเดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมืองตามที่นัดหมาย
“งานนี้ผมตั้งใจให้คุณเลย ถ้าสำเร็จ คุณจะได้ปลดหนี้หมด” เกษมเอ่ยทันทีที่เธอหย่อนก้นนั่งลงในร้านกาแฟชื่อดัง
“โพรเจกต์ที่ว่านี่คืออะไรคะ”
“โกลบอล กำลังหาซัพพลายเออร์ประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้านคอมพิวเตอร์เจ้าใหม่อยู่ ผมอยากให้เซลล์มือหนึ่งอย่างคุณรับงานนี้ไป ทำยังไงก็ได้ให้เราได้ร่วมงานกับเขา”
ธีริญหน้าขรึมลงทันตา เจ้านายเธอขยันโยนงานยากระดับเอสมาให้เสียจริง หากพูดถึงอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีใครไม่รู้จักบริษัทโกลบอล เน็ตเวิร์ก แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด (มหาชน) เรียกย่อๆ ว่า โกลบอล ผู้ผลิตและส่งออกแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และยังผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ครอบคลุมทุกประเภท รวมถึงคอมพิวเตอร์และแอปพลิเคชันยอดฮิตในระบบมือถือด้วย แถมเธอแอบได้ยินแว่วๆ มาว่าเจ้าของบริษัทกำลังสนใจจะลงทุนด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
เล่าลือกันว่าผู้บริหารหนุ่มลึกลับที่ไม่ชอบออกสื่อใช้เวลาเพียง 5 ปีก็นำพาบริษัทให้เจริญรุ่งเรืองก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำในทวีปเอเชีย ใครๆ ต่างอยากร่วมงานกับ โกลบอล กันทั้งนั้น แต่ก็ยากแสนยากเพราะต้องผ่านขั้นตอนการคัดเลือกและตรวจสอบละเอียดยิบ บริษัทไหนที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดจะถูกดีดออกโดยไร้การต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น
“พูดตามตรงนะคะเจ้านาย ฉันไม่มั่นใจเลยว่าจะทำได้ คุณก็รู้ว่าทางนั้นโหดแค่ไหน”
“ผมเชื่อมือคุณ”
ธีริญยิ้มแห้ง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ฉันว่าคุณส่งคนอื่นที่เก่งกว่าฉันไปดีกว่ามั้ยคะ ฉันไม่อยากรับปากซี้ซั้ว” เพราะทำงานกันมานานหลายปี เธอจึงกล้าที่จะพูดกับเจ้านายตามตรง
“คุณนี่แหละตัวเลือกที่ดีที่สุดของผม ช่วยผมเถอะนะริญ ถ้าสำเร็จนอกจากคุณจะได้ค่าคอม 1 % แล้ว ผมจะแถมโบนัสให้อีกแสนหนึ่ง”
เจ้านายเธอที่เจ้าเล่ห์ชะมัด รู้ว่าเธอกำลังลำบากเลยชอบเอาเงินมาล่อ และใช่...เธอขาดเงินอยู่พอดี
“ก็ได้ค่ะ ฉันพยายามทำให้ดีที่สุด”
เกษมยิ้มรับ ยกกาแฟขึ้นดื่มอย่างพอใจ ก่อนจะส่งรายละเอียดต่างๆ ให้ลูกน้องสาวมือฉมังนำไปศึกษาเตรียมตัวก่อนล่วงหน้า