Episode 05 ติดกับดัก

1328 คำ
Episode 05 ติดกับดัก ทางด้านอาคินเองก็ถูกกลุ่มเพื่อนของเขาเอ่ยแซวกันยกใหญ่ เนื่องจากปกติเขาไม่ใช่คนที่จะมาทำอะไรให้วุ่นวายแบบนี้ ถึงเขาจะชอบเอาชนะ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ชอบเล่นเกมยื้อไปมาให้เสียเวลา ผิดกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้ ดูก็รู้ว่าเขาตั้งใจยื้อเวลาเล่นสนุกกับมินวา เด็กศึกษาหน้าตาเฉิ่มๆ ที่คนอื่นมองดูไม่มีอะไรน่าดึงดูด แต่กลับดึงดูดคนอย่างอาคินเข้าเต็มๆ แต่นั่นคงไม่นับเป็นเรื่องดีในชีวิตของเธอเท่าไหร่นัก อาจจะเรียกว่าโชคร้ายมาเยือนชีวิตเธอเลยก็ว่าได้ “แล้วเพื่อนยัยเด็กเนิร์ดคนนั้นนี่มันยังไงวะ” เขมันต์เป็นคนเปิดคำถามหาแดนเทพ “ก็ไม่ยังไง น่าสนใจดีเห็นเรียกกูแดนนรกเลยอยากพาไปขึ้นสวรรค์สักหน่อยจะได้จำชื่อกูให้ขึ้นใจ” แดนเทพตอบอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก ทว่ารอยยิ้มของเขากลับดูเจ้าเล่ห์ทุกครั้งเมื่อพูดถึงเฟริน “แล้ววันก่อนมึงพาผู้หญิงคนนั้นออกไปไหน กูตามหลังออกไปแป๊ปเดียวก็ไม่เจอแล้ว” “ไม่มีอะไรหรอก แค่หยอกเล่นกับเหยื่อกูนิดหน่อย” แดนเทพตอบพร้อมกับคลี่ยิ้มมุมปากออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางด้านมินวาเองหลังจากได้รับคำเตือนที่สำหรับเธอไม่ต่างอะไรจากคำขู่ของเขาก็ทำให้เธอไม่กล้าที่จะบอก หรือปรึกษาอะไรกับเพื่อนของเธออีก เพราะจากเหตุการณ์ที่แดนเทพลากเพื่อนเธอออกไปต่อหน้าต่อตาครั้งนั้นทำให้เธอยิ่งมั่นใจว่าเขาคงมีความสามารถทำได้อย่างที่พูดจริงๆ แล้วเธอเองก็ไม่อยากเอาคนที่เธอรัก และห่วงใยมาเสี่ยงด้วย เธอจึงจำเป็นต้องพยายามทำตัวให้ร่าเริงเป็นปกติไม่ให้ทั้งเฟริน และเนยหอมสงสัย ทั้งที่ลึกๆ ในใจเธอตอนนี้กลับใช้ชีวิตอยู่บนความหวาดระแวง เวลาออกข้างนอกก็เลือกที่จะใส่แมสใส่เสื้อฮู้ดคลุมศีรษะปิดหน้าปิดตาเอาไว้ ใจเธอแทบไม่อยากออกจากห้องไปไหนเสียด้วยซ้ำ แต่ในชีวิตจริงเธอไม่สามารถทำอย่างงั้นได้ เพราะยังต้องใช้ชีวิตของเธอต่อไป ไหนจะต้องไปเรียน ไหนจะต้องออกสถานที่เพื่อหาข้อมูลทำโครงการของเธออีก มินวายืนมองตัวเองหน้ากระจกเธอสวมใส่เสื้อกับกางเกงวอร์มกีฬาสีเทาอ่อนเข้าชุด ทรงผมถูกมัดขึ้นเพราะยังไม่ได้สระเหมือนเคย วันนี้เธอจำเป็นต้องไปโรงแรมโบราณสไตล์ญี่ปุ่นที่ต่างจังหวัดเพื่อเก็บข้อมูลทำรายงานตามคำสั่งของอาจารย์ เนื่องจากเธอเรียนคณะอักษรศาสตร์เอกภาษาญี่ปุ่น แต่ก็นับว่ายังอุ่นใจพอสมควรที่ไม่ได้ไปคนเดียวเธอยังมีเพื่อนร่วมคณะที่อยู่กลุ่มโครงงานเดียวกันกับเธอไปด้วยอีกสองคน ซึ่งนัดไปเจอกันที่สนามบินวันนี้เพื่อเดินทาง ส่วนเฟรินกับเนยหอมเรียนคนละเอกกับเธอทั้งสองคนเรียนเอกภาษาอังกฤษด้วยกัน “รอนานไหม” หนูนาที่มาถึงคนสุดท้ายทักทายมินวากับ พายุ หรือลม ที่มาถึงก่อน และกำลังรอเธอไปขึ้นเครื่องพร้อมกัน “ไม่นานพึ่งถึงเมื่อกี้นี่เอง” มินวาบอกก่อนที่ทั้งสามคนจะพากันไปขึ้นเครื่องเพื่อไปยังปลายทางที่อยู่ทางภาคเหนือ ใช้ระยะเวลาในการเดินทางไม่นานทั้งสามคนก็เดินทางมาถึงสนามบินปลายทาง โดยทางโรงแรมมีรถมาคอยบริการรอรับพวกเธอทั้งสามคนที่สนามบินอยู่ก่อนแล้ว จริงๆ การได้หนีออกจากเมืองใหญ่ที่วุ่นวายมาอยู่กับบรรยากาศธรรมชาติก็ทำให้มินวารู้สึกผ่อนคลายอยู่สมควร ซึ่งมันดีกว่าที่เธอคิดเอาไว้แต่แรกเสียอีก “เราช่วยไหม” พายุอาสาช่วยมินวาถือกระเป๋าเดินทางของเธอ แต่เธอก็ปฏิเสธความช่วยเหลือให้ครั้งนี้พร้อมกับส่งสายตาไปทางหนูนาที่ยกสัมภาระของเธอด้วยความทุลักทุเลอยู่ด้านหลัง เพราะไม่ใช่คนชอบแต่งตัว หรือรักสวยรักงามอะไรเธอเลยไม่ได้เอาสัมภาระมาเยอะมากนัก “ไม่ต้องหรอก ไปช่วยข้างหลังดีกว่ากระเป๋าเราเบามาก” มินวาตอบติดตลก ก่อนที่พายุจะหันไปช่วยหนูนาถือกระเป๋าใบใหญ่ของเธอโดยที่มือเธอยังคงจับกระเป๋าเดินทางสีชมพูเอาไว้ในมือ “เอาอะไรมาเยอะแยะเนี่ยมาแค่อาทิตย์เดียวเอง กะมาสร้างลากฐานที่นี่เลยปะเนี่ย” พายุเอ่ยแซวอีกฝ่าย ด้วยความสนิทสนมจึงไม่ได้ถือสาอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่าหนูนาเป็นลูกคุณหนูชอบแต่งตัวรักความเพอร์เฟคเอามากๆ แต่ก็จัดว่าเป็นเพื่อนที่นิสัยดีมากๆ คนหนึ่ง เช่นเดียวกับพายุที่ถึงแม้จะเป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม แต่ก็สามารถเข้ากับเพื่อนผู้หญิงที่บุคลิกแตกต่างคนละขั้วอย่างมินวา กับหนูนาได้เป็นอย่างดี “สวัสดีครับผมคีตะเป็นผู้จัดการที่นี่ยินดีต้อนรับนักศึกษาทุกคนที่จะมาศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นกับโรงแรมของเรานะครับ” ชายชุดดำในชุดยูคาตะสีดำบ่งบอกถึงความคงเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นดั่งเดิมของโรงแรมเอาไว้ “สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ” ทั้งสามคนกล่าวทักทายอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท ก่อนที่เขาจะอาสานำพวกเธอเข้าไปด้านใน ด้วยความที่อาจารย์ที่มหาลัยเป็นคนสั่งให้มามินวาเองจึงคิดว่าที่นี่คงปลอดภัยสำหรับเธอ โดยไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังของผู้จัดการที่เธอกำลังเดินตามอยู่นั่นเป็นมือขวาของมาเฟีย ที่ผันตัวมาทำหน้าที่ผู้จัดการโรงแรมชั่วคราวตามคำสั่งของเจ้านาย และเพราะไว้ใจมากทำให้เธอไม่ได้ทำใจรอเซอร์ไพสร์ที่กำลังรอเธออยู่ด้านใน “ส่วนนี่คุณอาคินเป็นทายาทของตระกูลเก่าแก่ที่เป็นเจ้าของโรงแรมนี่ครับ ซึ่งคุณอาคินให้เกียรติมาช่วยแนะนำเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ ของญี่ปุ่นด้วยตัวเองครับ” “ชื่อไม่เหมือนคนญี่ปุ่นเลยนะครับ” พายุถามขึ้นด้วยความอยากรู้ ในขณะที่หนูหน้ายืนเขินกับความหล่อเหลาของเขาจนแก้มแดงเป็นลูกตำลึง ผิดกับมินวาที่ยืนน้ำตาคลอตัวสั่นทันทีที่เห็นหน้าเขา “คุณตาทวดกับคุณยายทวดเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆ ส่วนคุณปู่เป็นคนไทย คุณย่าก็เป็นคนญี่ปุ่นแท้ลูกสาวคนเดียวของตาทวดกับยายทวด พ่อก็เลยเป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น แม่เป็นคนไทย ผมคงเหลือเสี่ยวญี่ปุ่นอยู่นิดๆ ล่ะมั้ง” อาคินอธิบายคำถามของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น ในขณะที่แอบเหลือบมองปฏิกิริยาคนตัวเล็กไปด้วย และเพราะสายตาของเขาทำให้พายุมองตามจนเห็นสภาพน่าเป็นห่วงของมินวาที่ยืนตัวสั่นน้ำตาคลออยู่ข้างๆ “เป็นอะไรหรือเปล่ามิน!” พายุถามทันทีด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับวางสัมภาระในมือเข้าไปประคองตัวร่างบางเอาไว้ ก่อนที่จะถูกอาคินตัดหน้าโดยการอุ้มร่างกายสั่นเทาไปไว้ในอ้อมกอดตัวเองแทน โดยไม่สนใจสายตามีคำถามของพายุเลยแม้แต่น้อย “คุณจะทำอะไร” พายุตั้งคำถามด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจต่อการกระทำของอาคินเท่าไหร่นัก “สงสัยจะไม่สบายเดี๋ยวผมพาไปที่ห้องพยาบาลเอง คีตะจัดการพานักศึกษาที่เหลือไปห้องพักตัวเองก่อน” เขาไขข้อสงสัยพายุ ก่อนจะหันหน้าไปออกคำสั่งกับลูกน้องตัวเอง ------------------------------------------------- เซอร์ไพรส์ฉ่ำมาก ช็อกไปแล้วลูกสาวฉัน55555
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม