Episode 04 คำเตือน

1247 คำ
Episode 04 คำเตือน ดวงตาคมกริบ แววตาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง สันจมูกโด่งคมรับกับริมฝีปากหยักได้รูป มองเพียงแค่แวบเดียวเธอก็จำได้ในทันทีว่าผู้ชายที่นั่งควงแก้วเหล้าอยู่ในมือบนโซฟาคือใคร “เป็นอะไรไปยัยมิน” เฟรินที่เห็นมินวาไม่ได้เดินตามมาจึงหันกลับมาดู และท่าทางตัวแข็งราวกับถูกสาปเอาไว้ของมินวายิ่งทำให้เธอสงสัยจนต้องเดินไปเขย่าตัวมินวาเบาๆ เนื่องจากไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกของเธอในตอนแรก “เรากลับกันเถอะ” มินวาพึมพำออกมาเสียงเบา เพิ่มความสงสัยให้เฟรินเข้าไปใหญ่ ที่เธอเอ่ยปากจะกลับทั้งที่ยังไม่ทันจะได้ขอดูหลักฐานด้วยซ้ำ “ทำไมล่ะ อุตส่าห์มาถึงนี่แล้วยังไม่ได้หลักฐานเลย” “หลักฐานอะไร?” อาคินแสร้งถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ถึงแม้บทสนทนาจะพูดคุยกับแดนเทพเพื่อนของเขา แต่สายตากลับจับจ้องไปที่มินวาอย่างไม่ละสายตา “พอดีคุณมินวาเจอโรคจิตตามรังควานน่ะเลยจะมาขอหลักฐานจากกล้องวงจรปิดไปแจ้งความ” แดนเทพตอบคำถามของอาคินเพื่อแสดงละครในบทของตัวเองได้อย่างแนบเนียนทำเหมือนกับเขาไม่เคยรู้เห็นเหตุการณ์มาก่อน “อย่างนี้นี่เอง แล้วทำไมรีบกลับซะล่ะยังไม่ได้หลักฐานเลยไม่ใช่เหรอ?” หัวคิ้วหนาเลิกขึ้นพร้อมกับปรายตามองรอฟังคำตอบจากอีกฝ่ายที่ตอนนี้ยืนสติหลุดออกจากร่างไปแล้ว “นั่นสิ” ขนาดเฟรินเพื่อนสนิทของเธอยังอดสงสัยตามไม่ได้ ถามเล้าหลือเอาคำตอบจากเพื่อนรักเช่นกัน “ไอ้โรคจิตที่ฉันเล่าให้ฟังก็นั่งอยู่ตรงหน้าพวกเรานี่ไง” มินวาตอบคำถามหลังจากถูกทุกคนรุมกดดันด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คุณมินวาจะบอกว่าอาคินเพื่อนผมคือโรคจิตที่คุณหมายถึงอย่างนั้นเหรอครับ!” แดนเทพแสร้งแสดงท่าทีตกใจหันไปมองหน้าอาคินเพื่อนของตัวเองตาโต “หมายความว่ายังไงฉันงงไปหมดแล้ว” เฟรินมองหน้ามินวากับอาคินสลับกันไปมาด้วยความงุนงง “กลับก่อนเถอะเดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง” มินวาโน้มตัวมากระซิบเบาๆ ข้างหูเฟรินให้พอได้ยินบทสนทนากันสองคน เธอรู้ตัวแล้วว่าที่นี่ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยจริงๆ ถึงแม้แดนเทพจะแสร้งทำเหมือนเต็มใจช่วยเหลือเธอ และไม่รู้เห็นเหตุการณ์มาก่อน แต่สายตาของเขมันต์ที่นั่งดูทุกอย่างอยู่เงียบๆ นั้นทำให้เธอรู้ว่าต่อให้อยู่ต่อก็ไม่มีประโยชน์อะไร “กลับก็กลับ” จากน้ำเสียงที่ฟังดูไม่ค่อยสู้ดีของมินวาทำให้เฟรินเลือกที่จะทำตามคำขอของเพื่อน คิดว่าเธอคงมีเหตุผลสำคัญเป็นแน่ “งั้นพวกเรากลับก่อนนะคะ” “แล้วหลักฐานล่ะครับไม่เอากันแล้วเหรอ” แดนเทพเอ่ยถาม “อืม คงไม่ต้องแล้วมั้งคะ ถ้าจะใช้วันหลังจะมารบกวนใหม่แล้วกันค่ะ” เฟรินหันไปมองหน้าเพื่อนก่อนจะเป็นคนสรุปออกมา ในขณะที่ทั้งสองสาวเตรียมตัวกลับออกจากที่นี่ อาคินก็ลุกขึ้นยืนเดินไปจับข้อมือมินวาเอาไว้ ทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งตัวโยนรีบดึงมือกลับในทันที “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” มาเฟียหนุ่มไหวไหล่เบาๆ ราวกับว่าเขาไม่ตั้งใจทำให้อีกฝ่ายตกใจ “ฉันไม่มีอะไรจะคุย” “แต่ฉันมี” เฟรินที่ไม่ได้เข้าใจสถานการณ์อะไรเลยในตอนนี้ขมวดหัวคิ้วสวยพร้อมกับพยายามสังเกตทั้งสองฝ่ายเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใจเย็น และสายตาจริงจังของเธอนั้นทำให้แดนเทพแอบอมยิ้มด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเดินเข้ามาคว้ามือเฟรินไปจับเอาไว้แล้วพาเธอเดินออกไปจากห้องท่ามกลางเสียงโวยวายของเธอ “จะพาฉันไปไหน! ปล่อยนะนายนรกส่งมาเกิด!” หลังจากแดนเทพจัดการเพื่อนสนิทของมินวาออกไปได้สำเร็จอย่างง่ายดาย เขมันต์ที่นั่งอยู่ด้านในก็ลุกขึ้นเดินมาตบบ่าอาคินเบาๆ สองทีก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทำให้ภายในห้องตอนนี้เหลือเพียงแค่เธอ กับ เขา...เท่านั้น “ทำไมรีบหนีกลับขนาดนั้นล่ะ ฉันบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยไม่ได้ยินเหรอ?” ทันทีที่มีโอกาสร่างหนาก็เดินตรงเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร่างบาง ระยะที่ใกล้จนปลายจมูกชนเข้ากับแผงอกแกร่งจนได้กลิ่นน้ำหอมแบรนด์หรูอ่อนๆ ทำให้มินวาเผลอกลั้นหายใจไปโดยไม่รู้ตัว “ทำไมต้องหนี ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” มินวาพยายามทำใจดีสู้เสือเอาไว้ ถึงแม้มือของเธอตอนนี้จะชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อก็ตามที “ฉันจำได้ว่าที่เราเจอกันครั้งก่อนเธอบอกว่าที่นั่นไม่ใช่ที่อโคจรฉันทำอะไรเธอไม่ได้อย่างนั้นใช่ไหม แล้วตอนนี้ล่ะมีแค่เธอกับฉัน ฉันควรทำอะไรดี” ใบหน้าหวานเบี่ยงหลบมือหนาที่ยื่นมาสัมผัสกรอบหน้าเธอด้วยความหวาดกลัว และขยะแขยงเขาในคราเดียวกัน “ยิ่งเธอรังเกียจมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งอยากเล่นสนุกกับเธอมากเท่านั้น” “ฉันไม่ได้อยากเล่นกับคุณ ฉันไปทำอะไรให้คุณนักหนาถึงต้องตามรังควานกันแบบนี้ด้วย ทำแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ” เธอพยายามเอากฎหมายเข้ามาช่วย แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะออกมาราวกับสิ่งที่เธอพูดช่างน่าขันนักหนา “ถ้าตำรวจมันอยากช่วยเธอ เธอคงไม่ต้องมาหาหลักฐานเองถึงที่นี่หรอก จริงไหม?” “คุณต้องการจะสื่ออะไรกันแน่” “แค่อยากเตือนเธอเอาไว้ว่าอย่าพยายามดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ถ้าไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะเธอ” ถ้อยคำข่มขู่ทำเอาคนตัวเล็กกำหมัดแน่นด้วยความโกรธเคืองที่เขาเอาคนรอบตัวเธอมาข่มขู่ “เธอจะไม่เชื่อที่ฉันพูดก็ได้นะ แต่ฉันสามารถพิสูจน์ให้เธอเห็นได้ว่าฉันทำอะไรให้เธอยอมแพ้ได้บ้าง” “ฉันจะหลีกเลี่ยงทุกทางที่มีโอกาสเจอคุณ” “คิดว่าเธอจะหนีฉันพ้นได้จริงๆ อย่างนั้นเหรอ แต่ถ้ามั่นใจว่าทำได้ฉันก็หวังว่าเธอจะไม่เป็นฝ่ายพาตัวเองมาเจอฉันให้ได้อย่างที่ปากว่าก็แล้วกัน เพราะฉันมีลางสังหรณ์ว่าเราจะได้เจอกันอีก” ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปาก พร้อมกับใช้มือบีบปลายคางมนให้หันกลับมามองหน้าเขา ดวงตาคมจ้องมองริมฝีปากบางด้วยสายตาหื่นกระหายที่ปิดซ่อนเอาไว้ไม่มิด ปลายนิ้วหัวแม่มือเกลี่ยไปมาบนริมฝีปากอ่อนนุ่มจนคนตัวเล็กสั่นสะท้านไปทั่วร่าง “ฉันไม่มีทางพาตัวเองมาเจอคุณอีกแน่” มินวาตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะรวบรวมสติผลักร่างสูงให้ออกห่าง “ถ้ามั่นใจอย่างนั้นก็ดี” อาคินคลี่ยิ้มบางๆ ตอบกลับไป ยิ่งเธอมั่นใจมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสนุกมากเท่านั้น ถ้าเธอซ่อน เขาจะเป็นฝ่ายออกล่าเธอด้วยตัวเขาเอง...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม