แม่ของเธอและแม่ของพี่คิณ มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน
เรนนี่ยังไม่ทันได้พูดอะไร คุณป้าภาก็พูดขึ้นมาว่า
“น้องมาแล้ว บอกน้องไปสิว่า คิณจะรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยการแต่งงานกับน้องโดยเร็วที่สุด”
เรนนี่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม หญิงสาวกะพริบตาปริบ ๆ พยายามคิดทบทวนว่า วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง มีเรื่องไหนร้ายแรงถึงขั้นที่พี่คิณจะต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับเธอ หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องที่เขาให้เธอไปเป็นพนักงานธุรการหรอกนะ เรื่องแค่นี้ไม่ต้องถึงกับแต่งงานกันก็ได้
คนที่ถูกคุณแม่กดดัน หันมองหน้าคนที่เพิ่งเข้ามาในห้องของเขา อคิณถอนหายใจเฮือกใหญ่ และพูดด้วยเสียงดังฟังชัด ให้ทุกคนที่อยู่ในห้องได้ยินพร้อมกันว่า
“ผมจะแต่งงานกับน้องโดยเร็วที่สุดครับ คุณแม่ดูฤกษ์แต่งงานมาแล้วใช่ไหมครับ”
พอได้ยินคำตอบเป็นที่น่าพอใจ คุณประภาและคุณรสรินก็มองหน้ากันแล้วยิ้มสมใจ คุณประภาหันไปบอกกับลูกชายว่า
“แม่ดูมาให้แล้ว ฤกษ์ดีสำหรับงานแต่งของคิณกับน้องก็คือเดือนหน้า”
“เดือนหน้า !”
เพื่อนทั้งสามประสานเสียงขึ้นมาพร้อมกันทันที เมื่อเรนนี่บอกให้เพื่อนทราบผ่านการวิดีโอคอลกลุ่มว่า เธอกับพี่คิณจะแต่งงานกันเดือนหน้า
เรนนี่ถอนหายใจทำหน้าเซ็ง ๆ เธอขยับไปนั่งพิงหัวเตียง แล้วเอาหมอนมาวางบนตัก ถือโทรศัพท์ไว้ในมือ
“อือ…เดือนหน้า”
พอเรนนี่ยืนยันว่าเธอจะแต่งงานเดือนหน้าจริง ๆ พราวฟ้าก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะพูดว่า
“ฉันควรเปิดสำนักดูดวง ฉันจะต้องได้รับการยอมรับ และมีชื่อเสียงในวงกว้าง ทุกคนจะยอมรับฉันในฐานะแม่หมอเปิดไพ่อันดับหนึ่งของประเทศไทย”
อลิสเบ้ปาก “ฟลุกมากกว่ามั้ง”
“นี่แกยังกล้าท้าทายอำนาจแม่หมออย่างฉันอีกเหรออลิส ในเมื่อแกก็เคยพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่า ฉันทำนายแม่นจริง ๆ และครั้งล่าสุดนี้ ฉันก็ทำนายแม่นเสียยิ่งกว่าแม่น ยัยเรนนี่ดวงเด่นเรื่องผู้ชายสุด ๆ”
“จ้า…แม่นก็แม่น เปิดสำนักเมื่อไร ฉันขอสมัครเป็นลูกศิษย์นะ”
“ย่อมได้”
ใบเตยส่ายหน้าระอากับเพื่อนสองคน ทั้งสองมัวแต่พูดถึงเรื่องดูดวงแม่น ไม่ได้ดูหน้าคนที่จะต้องแต่งงานเดือนหน้าเลยว่า หน้ามุ่ยหน้าเซ็งเพียงใด ใบเตยคิดว่า น่าจะมีเรื่องราวที่ทำให้เรนนี่ต้องแต่งงานกับพี่คิณกะทันหัน เธอจึงถามเรนนี่ว่า
“เกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้นหรือเปล่าเรนนี่ แกกับพี่คิณถึงต้องแต่งด่วนขนาดนี้”
พอใบเตยถามถึงสาเหตุที่เรนนี่ต้องแต่งงานสายฟ้าแลบ พราวฟ้ากับอลิสก็เงียบ และรอฟังคำตอบจากปากว่าที่เจ้าสาว
เรนนี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า
“ก็วันนี้ ฉันไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทของพี่คิณ แล้วพี่คิณก็ให้ฉันเริ่มทำงานวันนี้เลย เขาให้ฉันทำงานตำแหน่งธุรการ”
“ธุรการ !” เพื่อนสาวทั้งสามพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน
“อือ…แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหาหรอก ตำแหน่งไหนฉันก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ ปัญหามันอยู่ที่ ระหว่างที่ฉันทำงานอยู่ พี่คิณก็สั่งให้ฉันเอาแฟ้มเอกสารไปให้ที่ห้องทำงานของเขา ฉันก็เอาไปให้ เพราะมันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว แต่พอเปิดประตูเข้าไปในห้องของเขา ฉันก็ไปเจอผู้หญิงคนหนึ่ง”
เรนนี่เว้นจังหวะการพูด เธอมองหน้าจอมือถือ ก็เห็นว่าเพื่อนทั้งสามคน ที่อยู่ในจอเล็ก ๆ คนละช่อง พากันพยักหน้า ตั้งใจฟังที่สุด หญิงสาวจึงเล่าต่อว่า
“ฉันก็ไม่ได้อะไรกับผู้หญิงคนนั้นหรอก ฉันไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ แต่พี่คิณน่ะ เอาฉันไปเป็นไม้กันหมา ไม่ใช่กันสิ เรียกว่าเอาฉันไปเป็นไม้ไล่หมามากกว่า พี่คิณใช้ฉันเป็นเครื่องมือ ไล่ผู้หญิงคนนั้นออกจากห้องแบบเนียน ๆ พี่คิณบอกผู้หญิงคนนั้นว่า ฉันเป็นคู่หมั้นของเขา และจะแต่งงานกันในเร็ววันนี้ ผู้หญิงคนนั้นดูจะไม่พอใจกับสิ่งที่พี่คิณพูด แล้วเขาก็เดินออกจากห้องไปเลย ส่วนฉันก็กลับไปทำงานที่แผนกตามเดิม”
พราวฟ้าพยักหน้าและพูดว่า “เรื่องแค่นี้ ไม่เห็นต้องรีบแต่งงานเลย”
เรนนี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง “มันไม่ใช่แค่นี้สิแก ยัยคุณนีราอะไรนั่นน่ะ บุกไปหาคุณป้าภาถึงบ้าน หาว่าป้าภาน่ะจับพี่คิณคลุมถุงชน โดยที่พี่คิณไม่เต็มใจ และหล่อนก็ยังบอกว่า ฉันน่ะเป็นแค่เด็กกะโปโล ไม่เหมาะสมกับพี่คิณสักนิด และก็ยังกล่าวหาว่า ฉันน่ะ เข้าไปอ่อยพี่คิณถึงห้องทำงานด้วย”
อลิสทำหน้าไม่พอใจคนที่มากล่าวหาว่าเพื่อนเธออ่อยพี่คิณ “ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจจริง ๆ”
“พอเขาพูดมาแบบนั้น คุณป้าภาก็เลยไม่ยอม หาว่าคุณนีราพูดให้ฉันเสียหาย คุณป้าภาก็เลยโทรหาหม่ามี้ของฉัน แล้วก็พากันบุกไปหาพี่คิณถึงบริษัท กดดันให้พี่คิณรับผิดชอบฉัน”
ใบเตยขมวดคิ้วมุ่น เธอเอ่ยถามเรนนี่ว่า
“แกก็เลยยอมให้เขารับผิดชอบ ด้วยการแต่งงานกับแก”