“ถ้าเป็นที่อื่น ตกสัมภาษณ์ตั้งแต่เริ่มแนะนำตัวแล้ว แต่ไม่เป็นไร ในฐานะที่เราเป็นเด็กฝาก พี่จะรับเราเข้าทำงาน แต่...ไม่มีประสบการณ์ แถมยังเป็นเด็กจบใหม่ ให้ทำตำแหน่งธุรการทั่วไปก่อนก็แล้วกัน พี่ให้เงินเดือนขั้นต่ำ หนึ่งหมื่นหน้าพันบาท ทดลองงานสองเดือน ถ้าทดลองงานผ่านก็ค่อยมาคุยกันอีกทีว่าจะให้เปลี่ยนไปทำตำแหน่งไหน และจะเพิ่มเงินเดือนให้เท่าไร อืม...ไหน ๆ ก็มาแล้ว เริ่มทำงานวันนี้เลยก็แล้วกัน”
อคิณยิ้มบาง เขายกหูโทรศัพท์เรียกเลขาส่วนตัวให้เข้ามาหา
“คุณพรชัย ช่วยแนะนำเรนนี่ด้วยว่า ตำแหน่งธุรการต้องทำอะไรบ้าง”
“ครับ...ท่านรอง”
เรนนี่บีบมือที่ประสานกันอยู่บนตักแน่น เธอหันไปยิ้มให้คุณพรชัยที่ยืนรับคำสั่งเจ้านายอยู่ข้างโต๊ะ
ธุรการ !
เด็กฝาก !
ก็ได้...เธอจะทำให้เขาเห็นว่า ไม่ว่าจะตำแหน่งอะไร เธอก็ทำได้ และทำได้ดีด้วย เธอไม่จำเป็นต้องใช้เส้นเด็กฝากในการไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งอื่น เธอจะงานอย่างเต็มความสามารถ ทำให้เขาได้เห็นว่า เธอมีดี มีฝีมือ และได้เลื่อนตำแหน่งด้วยความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่ในฐานะเด็กฝาก
ตอนที่ 4
ไม้กันหมา
พรชัยพาเรนนี่ลงลิฟต์ไปยังแผนกธุรการที่ชั้นหนึ่ง ในแผนกมีพนักงานชายสองคน และพนักงานหญิงสามคน
พรชัยแนะนำเรนนี่ให้ทุกคนรู้จักในฐานะพนักงานคนใหม่ และพาไปนั่งที่โต๊ะทำงาน
“หัวหน้าแผนกจะเป็นคนแนะนำการทำงานให้คุณเรนนี่ทราบนะครับ ผมขอตัวกลับขึ้นไปทำงานก่อนนะครับ”
“ค่ะ...ขอบคุณมากค่ะ”
พรชัยกลับไปทำงานแล้ว เรนนี่หันไปยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร และทุกคนก็ดูเป็นมิตรกับเธอ
แจ่มศรี...หัวหน้าแผนกวัยกลางคน แนะนำและอธิบายรายละเอียดงานที่เรนนี่ต้องทำ ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรยากเลย เรนนี่ต้องเป็นคนรับเอกสารจากภายนอก เวลามีคนนำเอกสารมาส่งที่ตึก เธอจะต้องบันทึกข้อมูลรับ และบันทึกข้อมูลส่งต่อให้ใคร ชั้นไหน และแผนกอะไร แล้วก็จะมีพี่พนักงานนำเอกสารไปส่งต่อตามชั้นต่าง ๆ ที่เธอบันทึกข้อมูลไว้ในระบบ
เรนนี่สูดลมหายใจลึก บอกกับตัวเองว่า เธอจะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด
ด้วยความที่เรนนี่น่ารัก สดใส เข้ากับคนง่าย เธอจึงเข้ากับพี่ ๆ ในแผนกได้ไม่ยาก ทุกคนในแผนกน่ารัก คอยแนะนำเธอทุกอย่าง
การทำงานวันแรกก็ไม่ได้แย่เท่าไร แถมการทำงานแผนกนี้ ยังทำให้เรนนี่รู้เรื่องชาวบ้านแทบทุกชั้น แต่ที่ทำให้เรนนี่หูผึ่งคือ เรื่องของชาวบ้านที่เป็นรองประธานบริษัท
“เธอ...เมื่อกี้ฉันขึ้นลิฟต์ไปส่งเอกสารใช่ปะ เจอคุณนีราขึ้นลิฟต์ไปพร้อมฉันด้วย”
“ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า คุณนีราขึ้นไปชั้นผู้บริหาร ไปหาท่านรองประธาน”
“ถูกต้องค่ะ ! มาหากันแทบทุกสัปดาห์ ไม่รู้ว่าเมื่อไรท่านรองจะใจอ่อนสักที”
“ว่าไปนะเธอ...ฉันได้ข่าววงในมาว่า คุณนายแม่ของท่านรองหาสาวไว้ให้ลูกชายแล้ว งานนี้คุณนีราอาจจะวืด เพราะท่านรองรักและเกรงใจคุณนายแม่มาก ๆ”
แม้ไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่ก็ได้ยินเต็มสองหู เพราะเป็นแผนกเล็ก ๆ แถมยังอยู่ในห้องเดียวกันแบบนี้ด้วย เรนนี่ได้ยินที่พวกเขาพูดกันชัดแจ๋วเลยล่ะ
“อะแฮ่ม ! หยุดพูดเรื่องเจ้านายได้แล้วค่ะ !”
เสียงแจ่มศรีดังขึ้นมาแทรกบทสนทนาที่กำลังออกรสของพี่ ๆ ทั้งสอง พอถูกเอ็ดทั้งสองก็เงียบ
“เรนนี่คะ คุณพรชัยเมลมาบอกว่า ท่านรองประธานสั่งให้เรนนี่นำแฟ้มเอกสารขึ้นไปให้ที่ห้องค่ะ”
“ได้ค่ะ คุณศรี” เรนนี่รับคำ
แม้จะกังขาในใจนิดหน่อยว่า ทำไมต้องระบุว่าให้เธอเป็นคนเอาแฟ้มขึ้นไปให้ด้วย แต่เรนนี่ก็คิดว่า เขาคงอยากจะจับผิดเธอล่ะมั้ง ดังนั้น เธอต้องรีบนำแฟ้มเอกสารขึ้นไปให้เขาโดยเร็วที่สุด เพื่อที่เขาจะได้ไม่มีข้ออ้างมาตำหนิเธอ
เมื่อขึ้นไปถึงชั้นผู้บริหาร เรนนี่กระชับแฟ้มที่หอบแนบอกไว้ด้วยสองมือ เธอเดินไปยังห้องของท่านรองประธาน เท้าบางบนรองเท้าส้นสูงหยุดอยู่หน้าห้อง เธอสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเคาะประตูสองครั้ง รอครู่หนึ่ง แล้วจึงเปิดประตูเข้าไป
“ช้าไปสามสิบวินาที” เสียงเข้มดุดังขึ้นหลังจากที่เธอปิดประตูห้อง และหันหน้าไปทางโต๊ะทำงานของท่านรองประธาน
ฮะ ! สามสิบวินาที เขาเอาเกณฑ์อะไรมาวัดว่าเธอช้าไปสามสิบวินาที เธอรีบขึ้นมาขนาดนี้ ไม่ได้แวะชั้นอื่นเลย เอาอะไรมาบอกว่า เธอช้าไปสามสิบวินาที
“น่าจะเป็นสามสิบวินาทีที่เรนนี่ยืนรอลิฟต์อยู่ชั้นล่างค่ะ”
น้ำเสียงประชดประชันของพนักงานธุรการคนใหม่ ทำให้ท่านรองประธานยิ้มในหน้า แต่คนที่นั่งอยู่โซฟาในห้องกลับชักสีหน้าไม่พอใจ เธอกวาดสายตามองคนที่ยืนหอบแฟ้มอยู่หน้าโต๊ะท่านรองประธาน แล้วคิ้วเรียวสวยที่ถูกวาดมาอย่างงดงามก็ต้องขมวดมุ่น
ตั้งแต่หัวจรดเท้าของพนักงานสาวมีแต่แบรนด์หรูราคาแพงทั้งนั้น แค่พนักงานธุรการธรรมดาไม่น่าจะมีปัญญาซื้อได้ อีกอย่างที่เธอสังเกตได้คือ ปกติแล้ว คนที่เอาเอกสารเข้ามาให้ท่านรองประธานจะต้องเป็นพรชัย แต่วันนี้ ยัยพนักงานหน้าเด็กคนนี้กลับเป็นคนหอบแฟ้มเข้ามาให้เขา หรือว่า...ยัยนี่ใช้เต้าไต่จนได้เผยอหน้าขึ้นมาในห้องนี้