แต่ว่าหรือว่าตอนนี้อะไรเข้าสิงเขากันแน่?
ที่แน่ ๆ คือวันนี้รวิวรรณฟินแล้วหนึ่ง
“ผมอยากชิมครับหยี” นั่นคือประโยคบอกเล่าไม่ใช่ประโยคขออนุญาต เพราะคนที่นั่งคุดคู้เปลือยกายอยู่ตรงระหว่างขาของเธอก้มลงไปครอบครองกลีบดอกไม้ของเธอทันที ร่างเล็กกว่าดิ้นเร่าสองมือปัดป่ายไปทั่วเตียงนอนหลับตาพริ้มซึมซับความเสียวซ่านของเรียวลิ้นร้อนที่สัมผัสเธอ
“ทำไมหวานอย่างนี้” น้ำหวานของเธอหวานจริง ๆ ทั้งหวานแล้วก็รู้สึกมัวเมาไปในเวลาเดียวกัน
รวิวรรณหลับตาลืมตาสลับกำมือคลายมือจากผ้าห่มของเขา ยอมรับเลยว่ายามเขาละเลงลิ้นลงส่วนกลีบดอกไม้แล้วลามเลียไปยังเกสรจุดที่เสียวที่สุดส่วนนั้น ทำให้เธอแทบตายคาลิ้น เท่านั้นยังไม่พอเขายังคว้านลิ้นเข้าไปยังในส่วนสวาทลึกจนเธออึดอัดตรงกลางใจสาวอยากปลดปล่อย
“พี่แสง”
“บี๋” เขาแก้ให้
“บี๋...ช่วยรวิหน่อยสิ...เอาแรงอื้อ...ใจจะขาดแล้ว”
“...”
คนที่ตั้งใจละเลียดชิมแบบค่อยเป็นค่อยไปรู้สึกชะงักงันไปครู่หนึ่งก่อนจะถามเธออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“เอาจริงเหรอ” แม้จะถามแต่คนที่อยากชิมเธอกลับไม่ยอมละลิ้นจากสองกลีบสวย เขากวาดเกลี้ยงทุกซอกทุกมุมที่น้ำหวานของเธอเอ่อไหลบ่าออกมา ลิ้นที่สัมผัสแม้แผ่วเบาแต่ก็สร้างความรัญจวนใจไม่น้อย
“บี๋...ไม่ไหวแล้วเอาเลยเถอะ” หากเขายังไม่หยุดส่งลิ้นเข้าไปทักทายโพรงแคบ ๆ เธอต้องตายคาลิ้นแน่ ๆ
แต่เธอจะยอมแพ้ได้อย่างไร
ฮึบสู้ค่ะรวิวรรณเธอคือแสงที่จะเจิดจรัสแม้อยู่บนเตียงก็ตาม
“ได้โปรด...อื้อ...ขอร้องล่ะ”
“ถ้ายัดเข้าแล้วไม่ขอรอบเดียวนะ” แน่ล่ะใครมันจะรอบเดียวต้องหลาย ๆ รอบสิของดีแบบนี้
“ตะ...แต่นี่ครั้งแรกเองนะ” เธอรู้สึกประหม่าขึ้นมาเมื่อกี้วัดจากขนาดกับปากแล้วจัดว่าใหญ่ไม่น้อยเต็มปากจนสำลักแล้วถ้าส่วนนั้นยัดเข้าร่องสาวล่ะ?
“สัญญาว่าจะเบาที่สุด” เขาเอื้อมไปหัวเตียงหยิบถุงยางขนาด 56 ออกมาฉีกด้วยปากด้วยยี่ห้อดังกับความบางเฉียบแทบจะสัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อนั่นทำให้เขาตื่นเต้นจนมือไม้สั่นขณะที่สวมมัน
เพียงไม่กี่วินาทีเครื่องป้องกันก็ถูกสวมเข้าไปแล้วก็จับสองขาของเธอกดลงบนเตียงเป็นรูปตัวเอ็ม โดยให้ส่วนนั่นวาดขึ้นลงไปตามร่องสวาท
“อื้อ...สะ...เสียว...บี๋...ช่วยรวิด้วยนะ” เธอหายใจหอบเลือดในกายสูบฉีดรุนแรงราวกับออกกำลังกายมาหนักหน่วง ยิ่งลำกายใหญ่ของเขาขยี้ที่เกสรของเธอหนัก ๆ นั่นทำให้เธอคล้ายกับจะฉีแตกอยู่รอมร่อ แต่ทว่าเคยอ่านว่าอาการของคนที่ถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดนั้นคล้าย ๆ กันแต่ต่างตรงที่ไม่มีฉีออกมาเท่านั้น
“จะเอาเข้าแล้วนะครับ” เขาคิดว่ามันน่าจะยากลำบากไม่น้อยกับการที่จะยัดเข้าไปจนเต็มลำ นิ้วโป้งของเขาจึงขยี้เม็ดทับทิมสีหวานคลึงให้น้ำเชื่อมของเธอไหลออกมารองรับกับลำใหญ่ยาวของเขา แล้วก็ค่อย ๆ กดมันลงไปทีละนิดทีละนิด แต่ความคับแน่นและแรงตอดรัดของเธอทำเขาแทบระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อขยับเข้าลึกลงไป
“อ่าห์...แน่น” เธอร้องครางออกมา
“เจ็บไหม”
“พอทนได้...แต่มัน...คับ” เธอส่ายหน้าไปมาใบหน้าชื้นด้วยเหงื่อ ไม่คิดว่าครั้งแรกมันจะทรมานขนาดนี้ แต่หนังสือว่าไว้ว่า หากผ่านความเจ็บปวดไปเธอจะพบกับความสุขที่เรียกว่าบรมสุขเลยก็ว่าได้
แน่นอนว่าเธอศึกษามาไม่น้อย เหลือแค่ปฏิบัติของจริง และที่เริ่มมั่นใจอีกอย่างคือกลิ่นกีไม่ได้เหม็นแน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เลียเอาเลียเอาขนาดนี้
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ ก็เจ็บใจไอ้สารเลวนั่น แม่งเอาซะเธอไม่มั่นใจอยู่นานคิดว่าของเธอเหม็นทั้งที่สารพัดประโคมสิ่งที่ทำให้มันหอม จนกีจะหอมกว่าตัวอยู่แล้วมันก็ยังไม่เอา
ให้ตายเถอะ!
ขณะที่คิดเรื่องอดีตอย่างเพลิดเพลินนั้น เธอก็สะดุ้งอีกครั้งเมื่อเขาดันเข้าทีเดียวมิดลำลึงค์
“บี๋...เจ็บ” เพราะไม่ทันได้ตั้งตัวก็เขาอุตส่าห์รับปากดิบดีว่าจะทำเบา ๆ แล้วก็ดันเข้ามามิดพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ที่ลอยคลุ้งออกมาทำให้รู้ว่าเธอนั้นเสียซิงอย่างเป็นทางการแล้ว
ควรฉลองไหม?
แม้ว่าจะไม่ได้คิดถึงเรื่องที่เขาสอดตัวตนเข้ามาเลย แต่คนบนร่างที่โยกเข้ามาเหมือนจะรู้ว่าเธอไม่มีสมาธิใจจดจ่อกับเขาเลย จึงเรียกเธอให้ดึงสติกลับ
“หยี...สนใจผมหน่อย”
“อื้อ...ซี้ด” นั่นแหละเธอถึงได้กลับมาอยู่กับการกระทำของเขา บั้นท้ายที่เด้งขึ้นลงเป็นจังหวะตามเอวแกร่งที่สอบเข้ามาทำให้เธอได้ลิ้มรสสัมผัสซ่านหวิวในอก ทั้งในช่องท้องกำลังเบาโหวงเหมือนผีเสื้อกระพือปีกนับพันนับหมื่นตัวอยู่ในนั้น สองมือจิกเข้าแผ่นหลังแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าเนื้อ กับเสียงที่ครางหึ่มอยู่ในลำคอทำให้เขานั้นเร่งจังหวะขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่ได้หยัดสะโพกเข้าหาเธอแรง ๆ จนเกินไปกลัวกลีบสวย ๆ เธอจะชอกช้ำแล้วเขาจะอดกินอีกเท่านั้น
เสียงกรีดร้องผสานกับเสียงเนื้อที่เสียดสีร่องฉ่ำจนเกิดเสียงอย่างลามกทำให้คนที่เคลื่อนเข้าออกกัดฟันตั้งใจทำให้เธอประทับใจ
อุณหภูมิร่างกายของเขาสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนใบหน้าแดงก่ำกับลำท่อนที่สอดแทรกเข้าไปด้านในราวกับห่อหุ้มด้วยโพรงนุ่มที่อุ่นร้อนพร้อมจะปลดปล่อยลาวาแห่งรักทุกเมื่อ
สติของรวิวรรณหลุดลอยไปในห้วงสวาทอันร้อนฉ่า เส้นผมที่ยาวสลวยสวยสยายบนหมอน ทำให้คนที่มองภาพนั้นตรึงตราตรึงใจยิ่งนัก
รวิวรรณเป็นผู้หญิงที่สวยกลมกล่อมที่สุด เพราะเธอนั้นหวานซ่อนความเปรี้ยวยิ่งอยู่บนเตียงก็เผ็ดร้อนจนเขาแทบคลั่ง และอยาก ‘ฝังตัวตนให้ลึกตรึงใจที่สุด’
เขาถอนตัวตนแล้วกระแทกเข้าไปใหม่มิดด้าม ทั้งก้มลงประกบจูบที่ริมฝีปากหอมหวาน สอดประสานลมหายใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ยามนี้เขารู้สึกได้ว่าเธอใกล้จะแตะขอบสวรรค์ชั้นเจ็ดเป็นครั้งแรกแล้ว น้ำเมือกใสของเธอเคลือบส่วนปลายและลำท่อนจนมันวาวแม้มันจะถูกเคลือบด้วยถุงยางอีกที แต่ก็ทำให้เขาอยากขยับให้เร็วเพื่อปลดปล่อยน้ำแรกให้กับเธอ
เขาเร่งเร้าทันทีเมื่อเคลื่อนตัวขึ้นมานั่ง ทับน่องของตัวเองแล้วยกสะโพกของเธอขึ้นสูงแอ่นสะโพกเข้าหาส่วนที่อ่อนนุ่มที่สุดด้วยความเร็ว เสียงกรีดร้องพร้อมกับสติของเธอที่ล่องลอยเคว้งคว้างกลางอากาศ กับนิ้วมือนิ้วเท้าที่เกร็งแน่นเมื่อเขาปลดปล่อยเธอ
“อ่าห์...บี๋...รวิ...รวิ...ใกล้แล้ว”
“ปล่อยเลยหยี...ผมใกล้แล้ว” ยิ่งเธอเรียกได้สนิทสนมเช่นนี้ยิ่งทำให้เขาแทบคลั่งแล้วก็ตะบี้ตะบันกระแทกเข้าหาเธอ ก่อนจะปล่อยลาวาอุ่นร้อน เขาชักออกตอนที่เธอกระตุกเข้าหาเขาสามครั้ง แล้วดึงถุงยางสาวท่อนเนื้อให้ปล่อยน้ำลงมาที่หน้าท้องเนียนสวยของเธอ กับเสียงที่ครางกระเส่าเป็นสัญญาณว่าเขาก็เสร็จสมแล้วเช่นกัน
“รักหยีที่สุด” เขาเคลื่อนกายขึ้นมาด้านบน พร้อมกับจูบซับที่หน้าผาก คนที่สมองขาวโพลนไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น เพราะนี่คือครั้งแรกที่สุดยอดมาก เธอมีความสุขจนคิดว่าจะตั้งใจทำงานทีเดียว
“ขอบคุณค่ะบี๋...รวิสัญญาว่าจะตั้งใจทำงาน ค่ะ จุ๊บ!”
สิ้นคำของเธอคนที่สัญญาว่าจะให้เขาต่ออีกหลายยกก็ผล็อยหลับไปต่อหน้าต่อตา ทำเอาเขาเหวอแดกจนต้องหัวเราะออกมาจนปอดโยก
“ยายบ้า...ได้เขาแล้วจะตั้งใจทำงานคิดได้ไง” เขาบีบจมูกเล็กที่เชิดขึ้นจนน่ามันเขี้ยวนี้ แล้วก็ฟัดที่แก้มของเธอสองข้างก่อนจะไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวของเธอ แน่นอนว่าคืนนี้เขาเปลื้องผ้าเปลือยกายนอนแนบเนื้อกับคนที่เขาได้ครั้งแรกมา แล้วก็หลับไปด้วยกัน
ความรู้สึกหึงหวงแล่นเข้าสู่กลางอกโดยไม่รู้ตัว จนดึงร่างของเธอเข้ามากอดไว้แน่นพร้อมกับหยิบรีโมท์ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เย็นฉ่ำจะได้หลับสบาย