ทุกคนต่างก็หมอบลงกับพื้น รวมถึงชาวเมืองที่ยืนมุงอยู่หน้าประตูก็นั่งลงเช่นกัน เมื่อพวกเขาเงยขึ้นก็เห็นว่าฮ่องเต้เดินมาหยุดที่ร่างเล็กของมู่เฟยเฟย ซึ่งก้มหมอบตามไปด้วย “เฟยเฟยลุกขึ้นมาให้น้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ” ประโยคนี้ทำเอาคนสกุลเฉินต่างก็ตัวสั่นงันงก เพราะน้ำเสียงฮ่องเต้ช่างอ่อนโยนยิ่ง สื่อให้รู้เลยว่าเอ็นดูมู่เฟยเฟยมากเพียงใด ใบหน้างามเงยขึ้นก่อนจะผูกคิ้วเป็นปม เมื่อเห็นบุรุษร่างสูงพอ ๆ กับชินอ๋องยื่นมือส่งมาให้นาง ดวงตาสวยกะพริบถี่เพราะไม่รู้ว่าตนควรจะส่งมือให้เขาหรือไม่ “แค่บอกให้ลุกเฉย ๆ ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ” อนุชาเดินมายืนข้างกัน พร้อมกับกระซิบกล่าวกับพระเชษฐาแผ่วเบา “หวงมากหรือ” แสร้งถาม และคำตอบก็คือสายตา ฮ่องเต้จึงได้แต่ถดมือกลับแล้วยืนเอามือไขว้หลังแทน “ฝ่าบาทต้องการพูดกับเจ้า ลุกขึ้นเถอะ” เอ่ยบอกเสียงเรียบ เพราะซีเหยียนไม่อยากให้ผู้คนสงสัยความสัมพันธ์เขากับนาง “เพคะ” คนตัวเล็กก็เล