“ใครก็ช่วยเธอไว้ไม่ได้หรอกจ้ะสาวน้อย เฮ้ย! พวกมึงไปเชิญเสี่ยออกมาพิจารณาสินค้าหน่อยสิวะ”
ชายหน้าเหี้ยมคนเดิมพูดด้วยน้ำเสียงสะใจ นาทีนั้น เวทิกาเองก็รู้ตัวแล้วว่าอันตรายกำลังมาถึงตัวและเธอจะต้องหาทางหนีทีไล่ให้ได้
“เสี่ยครับ เชิญเสี่ยลงมาดูของดีนี่หน่อยสิครับ”
ไอ้พวกลูกน้องที่ทำตัวเป็นหมาเลียแข้งเลียขา พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้านายของพวกมันคงเป็นคนที่มีอำนาจพอตัว
“ของดีที่ว่า ถ้าไม่ดีอย่างที่พูดจริงๆ คงไม่ต้องบอกนะว่าพวกมึงจะเจอกับอะไร”
ทันทีที่เสียงของผู้ทรงอำนาจดังขึ้น ไม่นาน เขาก็เดินลงออกมาจากประตูรถหรู พร้อมกับมองมายังเบญจา และละสายตาไปจับจ้องที่เวทิกาอยู่นานสองนาน
“เป็นไงครับเสี่ย ถูกใจไหมครับ” พวกลูกน้องยังคงพูดจาเอาใจเจ้านาย โดยไม่สนว่า ตอนนี้ สามแม่ลูกกำลังอยู่ในท่าทีหวาดผวามากแค่ไหน
“ถูกใจ…ถูกใจกูมาก”
เสี่ยวาโยพูดด้วยความชอบใจ ปกติแล้ว เขามักจะซื้อเด็กสาวเพื่อให้มาบำเรอในยามค่ำคืนอยู่เสมอ แต่ก็ไม่มีใครมีรูปร่างหน้าตาที่ถูกใจเท่าสาวสวยคนนี้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีหุ่นที่เหมือนกับดารานางแบบ แต่ไม่อยากจะเชื่อว่าแววตารั้นๆ และใบหน้าหวานหยาดเยิ้มจะยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์ชวนให้อยากจะครอบครองเสียเหลือเกิน
“อย่ามามองฉันด้วยสายตาทุเรศแบบนั้นนะ” เวทิกาทนไม่ได้ที่ตนเองกำลังถูกลวนลามด้วยสายตา แม้จะผิดคาดไปบ้างที่เสี่ยวาโยที่พวกมันพูดถึงไม่ได้เป็นตาแก่พุงพลุ้ย แต่กลับเป็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี และน่าจะอายุราวๆ สามสิบปลายๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ดูดีจะมีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจเช่นนี้
“หึ ปากดีเสียด้วย เอาละ สาวน้อย ฉันว่าเราคงมีเรื่องต้องคุยกันสักหน่อยแล้ว” เสี่ยวาโยพูดอย่างชอบใจ ยิ่งหญิงสาวตรงหน้าดื้อรั้นและหยิ่งยโสแค่ไหน เขาก็ยิ่งอยากได้เธอมากเท่านั้น
“เสี่ยคะ อย่าทำอะไรฉันกับลูกเลย ฉันขอเวลาเสี่ยกลับไปแก้มือที่บ่อน รับรองว่า…”
“มึงคิดว่ากูโง่หรือไง!”
“แม่!” เวทิกาและเบญจาร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ เสี่ยวาโยก็กระชากผมพิสมัยอย่างแรง จนร่างอวบถลาไปพร้อมกับแรงกระชาก
“โอ๊ย! ฉันขอโทษค่ะเสี่ย ให้ฉันทำอะไรก็ยอม แต่อย่าฆ่าฉันเลยนะคะ” พิสมัยแทบจะร้องไห้ออกมา นาทีนี้ไม่มีหนทางแม้แต่จะร้องขออะไรอีกแล้ว หากเสี่ยวาโยให้ทำอะไร นางก็ยอมทุกอย่าง
“กูให้โอกาสมึงมาหลายรอบ ให้มึงกู้เงินก็แล้ว แถมยังยอมให้มาถอนทุนคืนที่บ่อนกูทั้งที่คนอย่างมึงไม่ควรได้มีโอกาสเหยียบบ่อนของกูด้วยซ้ำ มึงมันโง่และหาที่ตายเอง” เสี่ยหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ เขาไม่เคยยอมอ่อนข้อให้ใคร และเรื่องเงิน เรื่องธุรกิจไม่ควรต้องมีคำว่าใจอ่อน
“ฮือๆ อย่าทำอะไรแม่ของเบียร์เลยนะคะเสี่ย” เบญจาก้มลงกราบพร้อมกับร้องไห้อ้อนวอนขอร้องเสี่ยวาโย หากชีวิตนี้ขาดแม่อย่างพิสมัยไป ก็คงไม่มีใครปกป้องดูแลเธอได้อีกแล้ว
“หึ รักแม่กันดีนี่ แล้วเธอล่ะ ไม่รักแม่เลยหรือไง ลองมาอ้อนวอนฉันดูสิ เผื่อฉันจะยอมปล่อยแม่เธอไป” เสี่ยวาโยหันไปพูดกับเวทิกาด้วยน้ำเสียงยั่วโมโห
“นังไวน์ รีบก้มกราบเสี่ยเดี๋ยวนี้!”
พิสมัยออกคำสั่งเสียงดังลั่น เวทิกาจึงยอมก้มลงกราบเสี่ยวาโยด้วยความจำใจ
“ฮ่าๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ แต่คิดว่าเงินตั้งหนึ่งล้านบาทจะชดใช้ได้ด้วยการก้มกราบกันง่ายๆ แค่นี้น่ะเหรอ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ พร้อมกับหันไปมองเวทิกาอย่างหื่นกระหาย นาทีนั้น คนเป็นลูกหนี้รู้ได้ทันทีว่าเสี่ยวาโยกำลังต้องการอะไรอยู่!
“เสี่ยอยากได้อะไรบอกมาเลยค่ะ ฉันเต็มใจให้เสี่ยทุกอย่าง” พิสมัยรีบพูดขึ้นทันที หากเสี่ยอยากได้เวทิกา นางก็ไม่ขัดข้อง เพราะเวทิกาไม่ได้มีค่าอะไรมากมาย ต่างจากเบญจาที่เป็นลูกคนเดียวที่เธอรักและเป็นห่วง
“แน่ใจนะว่าทุกอย่าง ถ้าอย่างนั้น กูอยากได้ลูกสาวคนนี้ของมึงมาเป็นเมีย ตกลงไหม” เสี่ยวาโยพูดออกมาด้วยความพอใจ แม้มั่นใจว่าหญิงสาวที่เขาหมายปองจะต้องโวยวายและไม่ยอมแน่ๆ
“ได้ค่ะเสี่ย เอานังไวน์ไปเลยค่ะ นังนี่มันสวย รับรองถูกใจเสี่ยแน่นอน” พิสมัยพูดด้วยรอยยิ้ม เพราะไม่คิดว่าการใช้หนี้เงินหนึ่งล้านบาทจะง่ายดายเพียงนี้
“แม่บ้าไปแล้วเหรอ ไวน์ไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวนะ ฉันไม่มีทางขายตัวให้แกเด็ดขาด!” เวทิกาหันไปจ้องหน้าเสี่ยหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว แม้ลึกๆ จะหวั่นใจอยู่บ้าง หากเสี่ยวาโยฉุดกระชากไป เธอก็คงไม่สามารถต้านทานอำนาจของเขาได้
“นังไวน์ แกอย่ามาเล่นตัวนักเลย! เสี่ยคะ ลูกสาวฉันคนนี้ไม่ได้มีแค่ความสวยนะคะ แต่ยังสด ยังซิง รับรองเสี่ยไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ” พิสมัยรีบเข้าไปพูดด้วยน้ำเสียงประจบประแจงทันที เพราะหวังว่าเสี่ยวาโยอาจจะถูกใจเวทิกามากจนยอมเพิ่มเงินให้นางไปต่อทุนคืนที่บ่อนอีก
“ยังไม่เคยมีผัวอย่างนั้นเหรอ…” เสี่ยวาโยมองเป้าหมายด้วยสายตาแสดงออกถึงความต้องการอย่างไม่ปิดบัง ยิ่งได้รู้ว่าเวทิกาไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน ความปรารถนาที่จะได้ครอบครองสาวงามคนนี้ก็ยิ่งมากเป็นทวีคูณ
“ใช่ค่ะ ถ้าเสี่ยไม่เชื่อ เดี๋ยวฉันจะให้นังไวน์มันไปตรวจร่างกายเพื่อยืนยันว่ายังบริสุทธิ์มาให้เสี่ย แต่ว่า…เสี่ยอาจจะต้องมีรางวัลให้ฉันหน่อยนะคะ” หยิงร่างท้วมพูดอย่างหัวหมอ โดยมีเบญจาที่ยิ้มเยาะด้วยความสะใจอยู่ข้างๆ
“นี่มึงชักจะเอาใหญ่ละนะ กล้าต่อรองกับเสี่ยเหรอ” ลูกน้องพูดขึ้น แต่กลับถูกเสี่ยวาโยยกมือห้ามปรามเสียก่อน