นิษฐามีสีหน้ากังวลและสงสัย ทั้งเรื่องคดีความที่ตนไม่รู้เรื่องมาก่อน และเรื่องอดีตภรรยาของพ่อเลี้ยงรักษาที่กำลังรบกวนจิตใจในขณะนี้
"หนูเจีย ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อย"
"ค่ะแม่นาย" หญิงสาวเดินกลับมานั่งที่เดิมของตน
"ฉันรู้ว่าหนูกำลังสงสัยเรื่องคดีความที่เกิดขึ้น"
"ค่ะ แม่นายพอจะเล่าให้หนูฟังได้ไหมคะ?" เพราะเธอจะต้องมาดูแลพ่อเลี้ยงรักษา จึงต้องรู้เรื่องจำเป็นบางเรื่อง
"ได้สิจ๊ะ อาจจะเล่าไม่ได้ทั้งหมด แต่จะเล่าเรื่องสำคัญให้ฟัง" นางพูดแล้วจึงถอนหายใจเสียงเบา เพราะเรื่องราวนี้ทำให้ทุกคนเจ็บปวดหัวใจทุกครั้งที่พูดถึง
"แม่นายคะ ถ้ายังไม่พร้อมจะเล่าก็ไม่เป็นไรนะคะ"
"ฉันเล่าให้ฟังดีกว่า ถึงยังไงหนูก็ต้องรู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว"
"ค่ะแม่นาย"
"เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว โรงงานผลิตชาของเราถูกวางเพลิง วันนั้นพ่อเลี้ยงรักษายังคงอยู่ที่โรงงานจึงดับเพลิงได้ทัน ไฟไหม้แค่บางส่วนจึงได้รับความเสียหายไม่มาก แต่รักษานี่สิ..."
"วางเพลิง? แล้วเกิดอะไรขึ้นกับพ่อเลี้ยงรักษาคะ?" นิษฐาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อเลี้ยงหนุ่ม
"รักษาต่อสู้กับคนร้าย เป็นผู้ชายสามคน ปิดหน้ามิดชิด ต่อสู้กันรุนแรงจนศีรษะของพ่อเลี้ยงได้รับการกระทบกระเทือน สภาพก็เป็นอย่างที่เห็นตอนนี้แหละ หลังจากเกิดเรื่องร้ายๆ รักษาก็ไม่ค่อยคุยกับใครอีกเลย"
นางพูดพลันมองไปยังบุตรชายด้วยแววตาเศร้าหมอง เขายังคงนั่งนิ่งและเอาแต่จ้องมองเจ้าทิวาอยู่ที่เดิม
"แปลว่าต้องเป็นศัตรูของพ่อเลี้ยงใช่ไหมคะ ถึงได้กล้าบุกเข้าไปทำร้ายกันในโรงงานแบบนั้น อีกอย่างคงจะเป็นคนรู้จักกัน ถึงได้ปิดหน้ามิดชิด" นิษฐาสันนิษฐาน
"ตำรวจก็สันนิษฐานแบบนั้น แต่ทางเดียวที่จะรู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร คือต้องจับกมลดาวให้ได้"
"กมลดาว...อดีตภรรยาของพ่อเลี้ยงน่ะเหรอคะ?"
"ไม่ใช่อดีตภรรยาหรอก คนแถวนี้พอคบหาอยู่กินกันหน่อยเขาก็เรียกผัวเมีย แต่จริงๆ แล้วสองคนไม่ได้แต่งงานกัน แค่เคยเป็นแฟนกันเฉยๆ"
"แล้วเธอมาเกี่ยวอะไรเรื่องวางเพลิงคะ?"
"ตำรวจเข้าตรวจหลักฐาน ในกล้องวงจรปิดเห็นกมลดาวไปที่โรงงานในคืนนั้น แล้วก็ยังมีรอยนิ้วมืออยู่หลายจุด ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางเพลิง เลยต้องจับมาสอบปากคำให้ได้"
"แต่เธอจะไปเกี่ยวข้องกับพวกลอบวางเพลิงได้ยังไงคะ ในเมื่อเธอเป็นแฟนของพ่อเลี้ยงรักษา"
"ทั้งสองเลิกกันได้สามเดือนแล้วก่อนเกิดเหตุ แต่กมลดาวไม่ยอมจบ ยังคงมาตามง้อตามเอาใจพ่อเลี้ยงรักษาอยู่เรื่อยๆ"
พูดถึงกมลดาวแล้วก็เหนื่อยใจ เพราะหากรักษาจะเอาผู้หญิงคนนี้มาเป็นสะใภ้นางก็จะไม่มีวันยอม
"ก็เลยสันนิษฐานว่าเธออาจจะแค้นที่พ่อเลี้ยงไม่ยอมคืนดี ก็เลยจ้างคนมาวางเพลิงงั้นเหรอคะ?"
"ถูกต้อง รักษาคบกับกมลดาวเร็วเกินไป ฉันมองก็รู้ตั้งแต่แรกว่าผู้หญิงคนนี้แค่ต้องการความสุขสบายอยากเป็นนายหญิงของไร่ แต่รักษากลับมองไม่ออก เขาถึงบอกว่าความรักทำให้คนตาบอด แต่โชคดีหน่อยที่ไม่บอดนานถึงขั้นแต่งงานกัน พอรักษาเห็นธาตุแท้ของแม่กมลดาว จากนั้นไม่นานเขาก็เลยขอเลิกกับหล่อน"
"แบบนี้นี่เอง พ่อเลี้ยงตกหลุมรักคุณกมลดาวเร็วขนาดนั้น เธอคงจะเป็นคนสวยมากสินะคะ" นิษฐาอดไม่ได้ที่จะอยากรู้เรื่องของผู้หญิงคนนี้ เธอเองก็แปลกใจตัวเอง
"กมลดาวเป็นคนลำปางแต่ขึ้นมาทำงานที่เชียงราย มาเป็นพนักงานต้อนรับของรีสอร์ตของเรานี่แหละ หล่อนเป็นคนหน้าตาสะสวย แต่งตัวดีเปิดนิดเปิดหน่อย ผู้ชายคนไหนเห็นก็ชอบ หนึ่งในนั้นก็เป็นพ่อเลี้ยงรักษานั่นแหละ"
"นั่นน่ะสิคะ สิ่งแรกที่ผู้ชายชอบในตัวผู้หญิงก็คือความสวย" นิษฐานึกไปถึงคำพูดของพ่อเลี้ยงต้นสัก
"ใช่ เพราะฉะนั้นเราเป็นผู้หญิงจงอย่าหยุดสวยถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยากมีแฟน อ้อ พูดแล้วฉันก็ลืมถามหนูเรื่องนี้เลย หนูเจียมีแฟนหรือยังจ้ะ?"
นิษฐาคลี่ยิ้มเมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้ มันทำให้เธอนึกไปถึงเพทาย เพื่อนชายคนสนิทที่ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นประจำ แต่ทั้งสองก็ยังไม่เคยตกลงเป็นแฟนกัน ดังนั้นเธอจึงถือว่าตนยังเป็นสาวโสด
"หนูยังไม่มีแฟนหรอกค่ะ"
"ยังไม่มีแฟนก็ดี ใช้ชีวิตโสดให้คุ้ม หนูเองก็ยังดูเด็กๆ อยู่เลย อายุถึงยี่สิบหรือยังเนี่ย?"
"หนูอายุยี่สิบสี่แล้วค่ะแม่นาย" นิษฐาตอบด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องดีใจเสมอเมื่อมีคนชมว่าหน้าเด็ก ส่วนคุณรังสิมามีสีหน้าตกใจเล็กน้อย
"คุณพระ แต่หนูหน้าเด็กมากเลยนะ อายุห่างกับพ่อเลี้ยงรักษาเขาเกือบสิบปี พ่อเลี้ยงเขาอายุสามสิบสามปี อายุห่างกันเก้าปีเลขมงคลซะด้วย แถมยังโสดเหมือนหนูด้วยนะ"
นางพูดเสียงเบาในประโยคท้าย และยังยิ้มกรุ้มกริ่มมีความสุข จ้องมองใบหน้าสวยละมุนของนิษฐาด้วยแววตาแสนเอ็นดู
"เจีย" นิษฐาหันขวับไปยังต้นเสียงที่เรียกชื่อตน เธอแปลกใจระคนดีใจเมื่อได้ยินพ่อเลี้ยงรักษาเรียกชื่อตนเป็นครั้งแรก ส่วนคุณรังสิมาเองก็ปลื้มปริ่มและแปลกใจไม่ต่างกัน
"ค่ะพ่อเลี้ยง อยากได้อะไรคะ?" ร่างเล็กรีบลุกเดินไปหาเขา
"ฉันอยากเข้าไปพักในห้อง" เขาบอก เธอจึงหันมาหาคุณรังสิมา นางจึงพยักหน้าด้วยความดีใจ
"งั้นพาพ่อเลี้ยงกลับไปห้องนอนนะ" นิษฐาพยักหน้ารับ และหันกลับมาหารักษาอีกครั้ง
"ลุกขึ้นสิคะ เดี๋ยวฉันเดินไปส่งที่ห้องนอนของคุณเอง" เขายอมทำตามอย่างว่าง่าย ร่างกำยำลุกขึ้นจากเก้าอี้ และก้มลงมองใบหน้าสวยของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างกาย
"เอ่อ... มีอะไรหรือเปล่าคะ?" เขาไม่ตอบ และยังจ้องลึกดวงตาประกายคู่สวยของหญิงสาว
"ฉันอยากกินข้าวซอย" นิษฐาถึงกับฉีกยิ้มกว้าง เธอจำได้ว่าถามเขาเรื่องอาหารไปก่อนหน้านี้แต่ไม่ได้รับคำตอบ อยู่ๆ พ่อเลี้ยงรักษาก็พูดออกมาเอง คุณรังสิมาดีใจจนแทบไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง
"ได้สิคะ เดี๋ยวฉันทำให้ทาน" เธอทำอาหารได้หลากหลาย อาหารเหนืออีสานใต้ก็เคยลองทำมาหมดแล้ว
"ไม่ ฉันอยากไปกินที่ร้าน เธอขับรถพาฉันไปได้หรือเปล่า?" คุณรังสิมามีสีหน้าเครียดทันทีเมื่อบุตรชายพูดเช่นนั้น
นางยังไม่อยากให้รักษาออกไปที่ไหน เขายังจำใครไม่ได้มากนัก และไม่อยากให้ใครรู้อาการป่วยของบุตรชายด้วย
"เอ่อ..." นิษฐาหันไปหาคุณรังสิมาเป็นการขอคำปรึกษา นางจึงส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ
"ถ้าแค่พาฉันออกไปกินข้าวซอยที่ร้านข้างนอกไม่ได้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องจ้างเธอมาดูแลฉัน" รักษาพูดแทรกขึ้นทันทีหลังจากมารดาส่ายหน้า จากนั้นเขาจึงสืบเท้ายาวเดินกลับเข้าไปในบ้าน
"ทำยังไงดีคะแม่นาย" นิษฐารีบเดินมาหาคุณรังสิมา นางเองก็หนักอกหนักใจ และกำลังครุ่นคิดว่าควรจะทำอย่างไรดี
"หนูตามรักษาเข้าไปในห้องนอนนะ ลองพูดเกลี้ยกล่อมเขาดู เผื่อเขาจะยอมให้หนูทำให้ทานที่ไปบ้าน"
"ค่ะ หนูจะรีบตามไป" หญิงสาวพูดเท่านั้นแล้วจึงรีบเดินตามพ่อเลี้ยงรักษาไปยังห้องนอนของเขา