เข้าห้องนอน

1308 คำ
นิษฐาเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของรักษา จึงเห็นว่าเขานั่งพิงหมอนใบใหญ่อยู่บนเตียง ใบหน้าคมคายหันมองไปทางหน้าต่าง ผ้าม่านพริ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดผ่านเข้ามา ทิวทัศน์ข้างนอกคือภูเขาสูงไกลโพ้นออกไปนับสิบลูก "พ่อเลี้ยง วิวห้องนอนสวยจังเลยนะคะ เจียชอบภูเขามากเลย ยิ่งถ้ามีหมอกปกคลุมหน่อยยิ่งสวย" นิษฐาพูดขณะที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ารักษา ทว่าเขากลับไม่ยอมหันกลับมาหา ไม่ยอมพูดอะไร "พ่อเลี้ยงคะ ให้เจียทำข้าวซอยให้ทานนะคะ เจียทำอร่อยนะ อยากให้คุณได้ลองชิม" เธอเกลี้ยกล่อม เขาจึงหันกลับมาจ้องมองใบหน้าสวยละมุน รักษาจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวอยู่เช่นนั้น ยิ่งมองยิ่งสบายตา จนแทบไม่อยากละสายตาจากคนตรงหน้าเลย "แต่ฉันอยากออกไปทานที่ร้านข้างนอก" "ถ้าอยากออกไปทานที่ร้านเจียจะพาไป แต่ไม่ใช่วันนี้นะคะ เพราะวันนี้คุณต้องชิมฝีมือเจียก่อน" เธอต่อรอง จากนั้นจึงทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนอนของเขา ทว่านิษฐาลืมตัว ว่าพ่อเลี้ยงรักษาอยู่ในช่วงอารมณ์ร้าย เธอเห็นสีหน้าราบเรียบของเขาจึงรีบลุกขึ้นยืน แต่ชายหนุ่มกลับรั้งข้อมือเล็กไว้จนร่างอรชรเสียหลักนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง "พ่อเลี้ยง เจียขอโทษค่ะ" "ขอโทษเรื่องอะไร?" เขาเลิกคิ้วถามเสียงเรียบ แววตาประกายจับจ้องดวงหน้างามราวกับจะกลืนกิน "เรื่องที่เจียนั่งบนเตียงนอนของคุณไงคะ อย่าโกรธเจียเลยนะคะ" เธอคิดว่าเขากำลังโกรธ "แล้วถ้าฉันโกรธล่ะ?" รักษาเลิกคิ้วถาม นิษฐาไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร ได้แต่คิดในใจว่าชายหนุ่มเริ่มพูดมากขึ้นทุกวัน ผิดกับตอนที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นลิบลับ "แหม คุณไม่โกรธเสียหรอกค่ะ เพราะคุณต้องให้เจียพาไปทานข้าวซอยอาทิตย์หน้าไม่ใช่เหรอคะ" "อาทิตย์หน้า?" เขาขมวดคิ้วถามเสียงดุ สีหน้าสีแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ จึงปล่อยข้อมือเล็กและเมินหน้าไปทางอื่นอีกครั้ง "พ่อเลี้ยง อย่ามัวแต่โกรธกันสิคะ พรุ่งนี้เช้าเจียต้องกลับกรุงเทพฯแล้ว เจียมีธุระสำคัญต้องไปทำ แล้วจะรีบกลับมาหาภายในหนึ่งอาทิตย์ค่ะ" เธอยังไม่ได้บอกรักษาเรื่องนี้ จึงจำเป็นต้องบอกออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มอารมณ์เสียอีก "กลับไปทำไมอีก ก็รับปากคุณแม่แล้วไม่ใช่เหรอว่าจะมาอยู่ที่นี่เพื่อช่วยดูแลฉัน?" พ่อเลี้ยงถามเสียงดุ "เอ่อ..." นิษฐาอ้ำอึ้ง เพราะเธอยังไม่อยากเล่าให้เขาฟังเรื่องอาการป่วยของน้องสาว "เจียต้องกลับไปจัดการธุระส่วนตัวก่อนค่ะ แต่แค่อาทิตย์เดียวเองนะคะ" เธอพูดเสียงอ้อน ทว่ารักษาไม่ยอมตอบอะไร และเอาแต่ทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมหันกลับมาคุยกัน "อาทิตย์หน้าพอกลับมา เจียสัญญาว่าจะขอแม่นายพาคุณออกไปทานข้าวข้างนอกนะคะ เจียสัญญา" เธอให้สัญญา รักษาจึงยอมหันกลับมามองใบหน้าสวยอีกครั้ง "งั้นเธอต้องโทรหาฉันทุกวันจนกว่าเธอจะกลับมา" เขาพูดแล้วจึงเอื้อมมือไปหยิบเอาโทรศัพท์ของตนเองมาวางลงบนตักของนิษฐา "คะ?" คิ้วเรียวขมวดยุ่ง พลันก้มลงมองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนตัก "เธอต้องโทรมาหาฉันทุกวัน" รักษาพูดย้ำคำเดิม หญิงสาวจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ของตนให้กับเขา "แต่คุณต้องสัญญากับเจียก่อน ว่าคุณจะทำตัวดีขึ้น คุณต้องยอมคุยกับคุณแม่ของคุณให้มากขึ้น ท่านเป็นห่วงคุณมากนะคะรู้ไหม" เธอพูดเสียงดุเล็กน้อย ทว่ารักษากลับไม่ยอมตอบอะไร เพราะเขายังคงไม่สบายใจที่จะพูดคุยกับใคร แต่กลับรู้สึกสบายใจที่ได้พูดคุยกับนิษฐาเพียงคนเดียว ไร่สัก พ่อเลี้ยงต้นสักกลับมาถึงไร่ในช่วงเที่ยง แม่บ้านของเขาเข้ามาช่วยขนของที่ซื้อเข้ามาหลายอย่าง ขณะที่เจนจิราเดินออกมาหาสามีด้วยสีหน้าไม่พอใจ "ซื้อของอะไรมาเยอะแยะอีกแล้วพ่อเลี้ยง ลืมไปแล้วเหรอว่าไร่เราไม่ใช่โรงงานส่งออกใบชาพอจะได้มีเงินเป็นถุงเป็นถังแบบไร่ข้างๆ" หล่อนหมายถึงไร่รักษ์เขา แม้เสียงโวยวายของภรรยาจะทำให้พ่อเลี้ยงต้นสักเหนื่อยหน่าย แต่วันนี้เขากลับอารมณ์ดีจึงไม่อยากมีปากเสียงกับหล่อน "อยู่บ้านเฉยๆ งานการไม่เคยทำแล้วจะบ่นทำไมวะ ของพวกนี้ที่ฉันซื้อเข้าบ้านก็เพื่อให้เธอกินใช้ทั้งนั้น เธอควรจะขอบคุณฉันนะ" พ่อเลี้ยงต้นสักพูดเท่านั้นแล้วจึงเดินเข้าบ้าน เจนจิราจึงเดินตามหลังสามีเข้าไป "พ่อเลี้ยง ตอนนี้โรงงานของพ่อเลี้ยงรักษายังไม่เปิดไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเราถึงไม่ถือโอกาสนี้เปิดโรงงานผลิตใบชาส่งออกแข่งกับพวกมันไปเลยล่ะ เราจะได้รวยเหมือนพวกมันบ้าง" หล่อนแสดงความคิดเห็น ทว่ามันเต็มไปด้วยความโลภและความริษยา พ่อเลี้ยงต้นสักหันมาหาภรรยาด้วยรอยยิ้มเหยียดหยัน "สาเหตุที่ฉันไม่ยอมให้เธอทำงานหรือว่าออกไปพบปะผู้คนมันก็เป็นเพราะเธอโง่แบบนี้ไง มีปากก็เอาแต่พูดแต่ไม่ใช้สมอง โรงงานมันใช่จะเปิดได้ง่ายๆ ที่ไหน" "แล้วทำไมจะเปิดโรงงานบ้างไม่ได้ เราก็มีไร่ชาเหมือนกับพวกมัน ชาก็ชาแบบเดียวกันด้วย" "ไร่ชาสมบัติพ่อเธอมันก็แค่ที่ดินเศษเสี้ยวของไร่ไอ้รักษามัน แล้วจะเอาอะไรไปสู้กับมันได้ ไม่ต้องพูดไปถึงเปิดโรงงานหรอก เอาแค่หาตลาดใบชาที่มีอยู่ตอนนี้ให้ได้ก็บุญแล้ว" พ่อเลี้ยงต้นสักหมดความอดทน เขาอารมณ์เสียจึงเดินหนีหล่อนตรงไปยังห้องทำงาน แต่เจนจิราก็ยังคงเดินตามหลังไปอีก "ฉันก็แค่ออกความคิดเห็น ถ้าคิดว่าฉันโง่ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วพ่อเลี้ยงเอาฉันมาเป็นเมียทำไม และอีเมียน้อยคนนั้นเหมือนกัน ถึงฉันจะยังไม่รู้ว่ามันเป็นใคร แต่ฉันมั่นใจว่ามันไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าฉันหรอก!" หล่อนโวยวายเสียงดังลั่นบ้าน "แน่จริงก็รู้ให้ได้สิว่าเมียน้อยฉันเป็นใคร อ้อ แต่ไม่ต้องไปสืบเสาะหาหรอกว่าคนเก่าเป็นใคร เพราะว่าฉันกำลังหมายตาคนใหม่ที่ทั้งสาวทั้งสวย ส่วนเธอถ้ายังอยากมีเงินใช้และอยู่อย่างสบายแบบนี้ก็หุบปากไปซะ" พ่อเลี้ยงต้นสักพูดไม่อายปากว่าเขากำลังจะมีผู้หญิงคนใหม่ และเขาก็กำลังคิดไปถึงใบหน้าสวยของนิษฐา พ่อเลี้ยงเจ้าเล่ห์ยกยิ้มมุมปาก จากนั้นจึงเดินเข้าไปในห้องทำงานและปิดประตูเสียงดัง "อ๊าย! พ่อเลี้ยง! พูดแบบนี้กับฉันได้ยังไง อีนังผู้หญิงคนนั้นมันเป็นใคร บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ ออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง พ่อเลี้ยง!" หล่นทุบฝ่ามือลงบานประตูรัวๆ และกรีดร้องโวยวายอย่างบ้าคลั่ง "เขาเป็นผู้ดี ไม่กรีดร้องโวยวายเหมือนหมาบ้าอย่างเธอหรอก!" พ่อเลี้ยงต้นสักตะโกนออกมา ยิ่งทำให้เจนจิรากรีดร้องบ้าคลั่ง และอยากจะรู้ให้ได้ ว่าผู้หญิงหญิงที่สามีกำลังพูดถึง 'เป็นใคร?'
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม