คนถูกถามก้มหน้าหลุบตามองต่ำ เขาละอายใจเกินกว่าจะสู้สายตา ภายในห้องปกคลุมไปด้วยความเงียบ ปุณณดาเอาแต่กอดเข่าตัวเองร้องไห้อยู่อย่างนั้น โดยข้าง ๆ เธอก็มีคนเป็นสามีนั่งอยู่ ไม่มีคำปลอบใจ ไม่มีอ้อมกอดที่อบอุ่นอีกแล้ว หญิงสาวหลับตาลงนิ่ง นึกถึงคำพูดของผู้มีพระคุณเสมอ
‘แม้มันจะมืดมนจนหนทาง แต่แสงสว่างมีอยู่ทุกที่แค่เราใช้สติ’
เธอหวังว่าพรุ่งนี้มันจะดีกว่าวันนี้ ถ้าให้ดีขอให้วันนี้และวันที่ผ่านมาเป็นแค่ความฝันจะได้ไหม เธอขอมากไปหรือเปล่า
ปุณณดาตื่นขึ้นมาเกือบสิบโมง มองไปรอบ ๆ ภายในห้องมีแค่เธอนอนอยู่คนเดียว เขาคงไปแล้ว หญิงสาวพลิกตัวเข้าหาแสงสว่าง อ่างแก้วกับผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะกลมใกล้เตียงคงเป็นฝีมือของสามี เธอยกมือขึ้นจับตามเนื้อตามตัวนึกดีใจที่อาการตัวร้อนทุเลาลง ปุณณดาวาดขาลงจากเตียงแต่ยังไม่ลุกขึ้นยืนทันที ด้วยเกรงว่าจะทำให้หน้ามืดไปได้ ตอนนี้เธอต้องรักตัวเองให้มากที่สุดเพื่อเป้าหมายที่จะทำในวันนี้
“แม่ทำทุกอย่างก็เพื่อหนูนะลูก”
เธอลูบวนไปยังหน้าท้องแบนราบ ความคิดของปุณณดานั่นแน่วแน่เกินกว่าจะมีใครมาดึงรั้ง หญิงสาวจัดแจงกิจวัตรของตัวเองเรียบร้อย เธอหยิบเสื้อผ้าที่สวยที่สุดเท่าที่มี คอนซีลเลอร์และเมคอัพทุกชนิดที่มีอยู่บรรจงตกแต่งปิดรอยหมองเศร้าบนใบหน้าให้มีสีสันจนดูเป็นธรรมดา กระเป๋าหนังยี่ห้อหรูที่สามีซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้วถูกหยิบออกมาใช้ รองเท้ารัดส้นส้นเตี้ยเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยถูกวางลงบนพื้น ก่อนจะดันเท้าเล็ก ๆ เข้าไปด้านในสุด
“คุณปอยจะไปไหนคะ” ฉลวยออกมาจากในครัวมองเจ้านายสาวอย่างสงสัย
“ปอยจะไปหาหมอค่ะ ฝากบ้านด้วยนะคะ”
“คุณวีร์สั่งป้าให้บอกคุณปอยว่าจะมารับคุณปอยไปหาหมอตอนเที่ยงค่ะ”
“ถ้าพี่วีร์กลับมา ช่วยบอกให้เขาตามปอยไปที่โรงพยาบาลด้วยนะคะ"
เธอบอกชื่อสถานที่กับแม่บ้าน แต่ปุณณดาไม่ได้ตรงไปที่นั่นเป็นที่แรก เธอรออยู่บนรถแท็กซี่ที่เรียกมารับอย่างใจเย็นหน้าบริษัทของเขา แน่ใจว่าสามีของเธอขับรถออกมาแล้วจึงจ่ายค่าโดยสารแล้วเดินเข้าไปในตัวตึก จุดหมายวันนี้ไม่ใช่นรวีร์แต่เป็นใครอีกคน เธอไม่ได้คาดหวังว่าจะสำเร็จ แต่ลูกผู้หญิงด้วยกันน่าจะมีความเห็นใจกันบ้าง
“ฉันมาขอพบคุณนิชานาถค่ะ"
หลังจากตื่นขึ้นมาเธอก็ทำการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้อยู่เกือบชั่วโมง และนั่นก็ยิ่งทำให้เธอเจ็บใจ มีภาพที่หญิงสาวคลอเคลียอยู่กับนรวีร์มากมายเกลื่อนโซเชียล ทว่าเธอไม่เคยเห็นเพราะไม่เคยสนใจ โลกแคบ ๆ ของเธอเปิดกว้างอีกหลายขุม หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าขณะรอเจ้าพาหนะสี่เหลี่ยมหยุดสนิทบนชั้นที่ต้องการ เสียงสัญญาเตือนเมื่อถึงที่หมาย เท้าบอบบางค่อย ๆ ขยับออก สายตาเพ่งมองไปยังห้องทำงานของคนที่เธอตั้งใจจะมาพบเจอ ป้ายชื่อทองตัวอักษรทันสมัยโชว์อยู่หน้าห้องหนึ่งทางปีกซ้ายของชั้น เธอเดินตรงเข้าไปหาอย่างช้า ๆ
“มาพบใครเหรอคะ" สายตาเรียบเฉยมองคนที่ตั้งคำถาม เธอคนนี้คงเป็นเลขา
“มาพบคุณนิชานาถค่ะ ช่วยแจ้งเธอด้วยว่าฉันชื่อปอยค่ะ"
พนักงานคนดังกล่าวยกหูโทรศัพท์กดหมายเลขภายใน เธอจับสังเกตได้ว่าเหมือนเลขาหน้าห้องจะจำหน้าเธอได้ขึ้นมาจากเหตุการณ์เมื่อวาน
“เอ่อ... เอ่อคุณนิชาคะ คุณปอยมาขอพบค่ะ" คนในสายชะงักค้าง ดึงสายตาจากงานที่กองตรงหน้ามาให้ความสนใจกับโทรศัพท์ที่ถืออยู่
“ให้เธอเข้ามา อ้อ... ช่วยโทรบอกคุณวีร์ให้ฉันด้วย"
นิชานาถวางสายจากพนักงานหน้าห้อง รอคอยใครบางคนที่กำลังเดินทางเข้ามาหาเธอ หญิงสาวนั่งตัวตรงหลังตั้งฉากกับพนักเก้าอี้ ขาเรียวสวยยกขึ้นไข่วห้างในท่าที่สบายขึ้น สายตาเพ่งมองไปยังบานประตูบานใหญ่ที่ตอนนี้เปิดออกกว้างพร้อมกับร่างบอบบางของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
“เชิญนั่งค่ะ"
เธอผายมือไปยังเก้าอี้นวมตัวตรงหน้า ทว่าปุณณดาแค่ปรายตามอง แล้วดึงสายตากับมามองเจ้าของห้องด้วยสายตาอ่านยาก นิชานาถระวังตัวแจ เธอไม่อาจรู้ได้ว่าผู้หญิงตรงนี้คิดอะไรอยู่
“มีอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ" เมื่อเจอคำถามตรง ๆ เธอก็ไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทกับพวกแอบกินขโมยกินอีก
“คุณรู้ใช่ไหมว่าสามีของฉันแต่งงานจดทะเบียนสมรสแล้ว" เจอคำถามแรกก็ทำให้คนฟังถึงกับหน้าตึงเชิดหน้าขึ้น
“แต่เขาบอกกับฉันว่าเขากำลังจะหย่าจากคุณ"
“คุณก็เลยเชื่อและยอมเดินลงนรกไปอย่างนั้นเหรอคะ"
คนถูกต่อว่ากลาย ๆ ยิ่งโกรธ เธอจ้องมองปุณณดากลับ แม้วันนี้หญิงสาวจะบรรจงแต่งหน้ามาอย่างสวยงาม แต่ก็ปิดความเศร้าหมองในดวงตาไม่มิด
“คุณเอง... เป็นผู้หญิงที่สวยมาก"
แต่ยังสวยสู้เธอไม่ได้... นิชานาถนึกค้านในใจ ผู้หญิงที่สวยอย่างเดียวเหมือนเธอไม่สามารถมัดใครได้คงทนถาวร แต่ผู้หญิงสวยหวานและมีความสดใสอย่างปุณณดาต่างหากที่จะทำให้ผู้ชายทุกคนที่อยู่ใกล้รัก เธอจึงต้องรีบหาทางจัดการรวบหัวรวบหางนรวีร์ ก่อนที่เขาจะรู้ว่าระหว่างความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันก็แค่ความหลง ไม่ใช่ความรักเหมือนที่เธอรักเขาไปแล้ว