เหมือนเป็นส่วนเกิน

1221 คำ
ตอนที่ 6 เหมือนเป็นส่วนเกิน เช้าวันต่อมาหมอคีรินทร์ก็ขับรถจากบ้านเวลาเดิม ขณะขับผ่านบ้านของยายศรีจันทร์ก็เจอคุณยายยืนโบกรถอยู่เขารีบลดกระจกลงแล้วทักทายเหมือนทุกครั้ง “สวัสดีครับคุณยายมีอะไรหรือเปล่าหรือจะไปโรงพยาบาลครับ ถ้าจะไปพร้อมผมก็ขึ้นรถมาได้เลย” “ไม่ใช่หรอกค่ะคุณหมอยายแค่จะบอกว่ายายหาคนมาทำความสะอาดบ้านให้คุณหมอได้แล้วนะคะ” “จริงเหรอครับแล้วเขาจะมาเริ่มงานได้เมื่อไหร่” “ยายนัดให้เขามาเจอคุณหมอวันเสาร์ คุณหมอว่างไหมคะ” “ผมว่างครับคุณยาย ว่าแต่เขาเป็นใครเหรอครับคุณยายไว้ใจได้ใช่ไหม” “คนนี้ไว้ใจได้เลยยายเห็นมาตั้งแต่เด็ก” “เห็นมาตั้งแต่เด็กคือยังไงครับคุณยาย” “ก็คนที่จะมาเป็นแม่บ้านให้หมอคีรินทร์น่ะเป็นเพื่อนกับหลานสาวยายไงล่ะ” “อะไรนะครับคุณยายถ้าเป็นเพื่อนกับน้องบิวก็ยังเด็กมากเลยนะครับ แล้วจะไหวเหรอ” คีรินทร์ตกใจเพราะพอจะรู้ว่าเด็กวัยรุ่นบางคนก็แทบจะทำงานบ้านไม่เป็นเลย “ไหวสิหมอ ยายการันตีได้เลยเด็กคนนี้ทำความสะอาดบ้านเป็นทำกับข้าวก็ได้ หมอลองให้โอกาสหน่อยนะ” ยายศรีจันทร์รีบบอกเพราะกลัวหมอจะไม่ยอมเจอกับขวัญนภัส “เอางั้นก็ได้ครับ ผมจะลองเชื่อยายดู” “วันเสาร์ตอนบ่ายยายจะให้เธอไปเจอกับหมอที่บ้านนะคะ หมอสะดวกไหม” “สะดวกครับยาย ตอนบ่ายวันเสาร์เจอกัน แล้วผมจะดูหน่วยก้านอีกทีนะครับ” “ได้เลยหมออยากให้เธอทำอะไรบ้างก็คุยกันเลยนะ” “แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องขอโทษยายไว้ก่อนเลยนะครับ เพราะถึงผมจะอยู่คนเดียวแต่ผมก็อยากให้คนมาช่วยดูแลบ้านแล้วก็ดูแลแมวด้วย” เขาไม่อยากรับเด็กวัยรุ่นมาทำงานแต่ก็เพราะเกรงใจยายศรีจันทร์เลยต้องรับปากไว้ก่อน “ค่ะหมอ ยายเข้าใจถ้างั้นยายไม่กวนคุณหมอแล้ว” “ขอบคุณมากนะครับยาย ผมไปก่อนนะ” ยายศรีจันทร์เดินเข้ามาในบ้านก็เจอกับหลานสาวที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่บนโต๊ะ “ว่าไงคะยายเจอคุณหมอหรือยัง” “เจอแล้วล่ะ หมอบอกว่าวันเสาร์บ่ายให้มาคุยได้เลย” “ยายว่าหมอเขาจะรับเฟิร์นเข้าทำงานไหมคะ” ชุติมณฑ์ถามอย่างเป็นกังวลเพราะเธออยากให้เพื่อนได้ทำงานนี้ “ยายก็ไม่รู้เหมือนกันนะบิว แต่ก็พอมีหวัง ถ้ายังไงวันนี้หนูก็ลองคุยกับเฟิร์นดูนะลูกว่าแม่เขาให้ออกมาอยู่ข้างนอกได้หรือเปล่า แต่จริงๆ ยายก็อยากให้หนูเฟิร์นย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้นนะ บ้านเล็กคับแคบและอยู่กับพ่อเลี้ยงอีก ถ้าออกมาอยู่กับคุณหมอน่าจะสบายกว่า งานที่บ้านหลังนั้นไม่หนักเท่าไหร่จะได้มีเวลาอ่านหนังสือด้วย” “หนูก็คิดแบบนั้นแหละค่ะยาย ถ้าให้เฟิร์นย้ายมาอยู่ใกล้ๆ หนูกับเพื่อนจะได้ติวหนังสือตอนที่ว่างด้วย” “ยายก็ว่าดีนะ ถ้ายังไงก็อย่าลืมคุยกับเฟิร์นนะลูก” คุณยายศรีจันทร์กำชับกับหลานสาวอีกครั้ง ชุติมณฑ์รถเมล์มาถึงโรงเรียนก็เจอกับขวัญนภัสยืนรออยู่พอดี “ว่าไงคุยกับแม่หรือยัง” ชุติมณฑ์รีบถามอย่างตรงประเด็น “คุยแล้ว” ขวัญนภัสตอบเสียงเศร้าเพราะเมื่อเช้าเธอคุยกับมารดาอีกครั้งหวังว่าท่านจะเปลี่ยนใจเรื่องห้องแต่คำตอบที่ได้ก็ยังเหมือนเดิม “แม่ว่ายังไงบ้างละ ยอมให้ออกมาทำงานไหม” “อันที่จริงฉันยังไม่ทันได้ขออนุญาตหรอกเกิดเรื่องขึ้นก่อน” “เรื่องอะไรท่าทางไม่สบายใจเหมือนกันนะ” “แม่จะให้ฉันย้ายลงมาอยู่ห้องเก็บของน่ะ” “อะไรนะ ห้องเก็บของที่อยู่หลังบ้านน่ะเหรอมันจะอยู่ได้ยังไงห้องเล็กมากเลยนะ” ชุติมณฑ์อุทานด้วยความตกใจเธอนึกภาพห้องนั้นออกทันทีและมันก็เล็กและแคบมากจนไม่คิดว่าใช้นอนได้ “ใช่ฉันก็บอกแม่ไปแบบนั้น” ขวัญนภัสตอบเสียงอ่อยๆ “แล้วห้องของแกแม่จะให้ใครอยู่เหรอ” ชุติมณฑ์ถามอย่างไม่เข้าใจ “น้องสาวลุงเกษมน่ะ เห็นว่าจะเข้ามาทำงานอยากจะประหยัดค่าหอก็เลยมาขอเช่าอยู่” ขวัญนภัสพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจเพราะครอบครัวของเธอเรื่องเงินต้องมาก่อนเสมอ “แล้วทำไมต้องย้ายแกลงมาอยู่ด้วยล่ะ ทำไมไม่ให้คนมาใหม่อยู่ห้องเก็บของ” ชุติมณฑ์ถามอย่างไม่เข้าใจ “ก็เพราะน้องสาวคนเล็กของลุงเกษมยอมจ่ายค่าเช่าสองพันห้าไงล่ะ ส่วนฉันอยู่ฟรีกินฟรีแม่ก็เลยให้ลงมาอยู่ห้องเก็บของ” “แบบนี้ก็แย่เลยสิ แต่ไม่เป็นไรหรอกนะยายคุยกับหมอคีรินทร์แล้วหมอให้แกไปเจอวันเสาร์ แกก็คุยกับหมอดีๆ ของานเขาทำทีนี้ก็จะได้ออกมาอยู่ข้างนอกแล้ว” ชุติมณฑ์พยายามปลอบใจเพื่อน “หมอเขาเป็นคนยังไงเหรอบิวแกเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ” ขวัญนภัสอยากรู้ว่าคนที่เธอจะไปทำงานด้วยเป็นคนแบบไหน “ยายบอกว่าหมอเป็นคนดีแต่เขาไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกส่วนใหญ่จะออกไปทำงานตั้งแต่เช้ากว่าจะกลับก็ตอนเย็นน่ะ” “แบบนี้ก็ดีนะ” “ถ้าแกได้ทำงานที่บ้านของหมอคีรินทร์ก็สบายเลยนะ ฉันได้ยินว่าป้าแจ่มได้เงินเดือนเป็นหมื่นเลยแหละ” “โอ้โหแค่ทำความสะอาดบ้านกับทำกับข้าวได้เงินเดือนเป็น หมื่นเลยเหรอ” ขวัญนภัสตาโตแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองกับจำนวนเงินที่ได้ยินจากเพื่อน “ได้เงินเดือนเยอะแล้วยังจะพักฟรี อยู่ฟรีกินฟรีอีกแกต้องทำให้หมอยอมรับแกเข้าทำงานให้ได้นะ” “อือ ถ้าหมอไม่จ้างฉันทำงานฉันก็คงต้องออกมาหาหอพักอยู่เอง เพราะคงทนอยู่ที่นั่นไม่ได้อีกแล้ว ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินยังไงก็ไม่รู้” “แกมาอยู่ที่บ้านฉันสิ ยายไม่ว่าอะไรหรอก” ชุติมณฑ์เสนออย่างจริงใจ “ถ้าอยู่แค่แป๊บฉันก็คงอยู่ แต่นี่คงอยู่ยาวเลย ฉันเกรงใจนะ” ขวัญนภัสส่ายหน้าเล็กน้อย “แต่ถ้าต้องไปอยู่หอฉันว่ายายของฉันว่ายายคงไม่ยอมนะ” “เอาไว้ไม่มีที่ไปจริงๆ ฉันจะไปขออาศัยอยู่ที่บ้านแกก็แล้วกันนะบิว ขอบใจแกมาก แล้วก็ฝากขอบคุณคุณยายด้วย” ขวัญนภัสและชุติมณฑ์เดินมาถึงห้องเรียนซึ่งตอนนี้เพื่อนๆ กำลังจับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนานแต่ขวัญนภัสก็ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครเลย เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะเรียนของตัวเองอย่างเงียบๆ และเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวล
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม