“แม่จะออกจากการเป็นเลขาของคุณ แม่จะต้องออกไปจากที่นี่แต่คุณยังต้องเลี้ยงดูในฐานะคนหนึ่งเช่นเดิมและห้ามให้ใครเข้าไปวุ่นวายกับเธออีก ถ้าเมื่อไหร่ผิดสัญญาเราเห็นดีกันแน่” ข้อเสนอของฉันไม่มีเรื่องของตัวเองอยู่เลย แต่แม่เป็นอย่างเดียวที่ทำให้ยอมทำเรื่องบ้า ๆ ที่พ่อต้องการได้
“มีสิทธิ์ต่อรองตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามกลับ พร้อมลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับฉัน สีดวงตาของเราเหมือนกันและเพราะแบบนี้ทำให้ฉันไม่ชอบส่องกระจกสักเท่าไหร่
“จะเอามั้ยล่ะ สิ่งที่จะให้มาหนุนตัวเองน่ะ” เขาต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับฉัน
“....” อีกฝ่ายทำหน้าครุ่นคิด
“แม่ไปเก็บของแล้วออกไปพร้อมหนูเลย” แม้ว่าประโยคนั้นจะพูดกับแม่ แต่สายตายังคงจ้องหน้าพ่อไม่ละสายตา แต่แม่ยังไม่มีความกล้าพอที่จะขยับตัวไปไหน
“....” สายตาดุมองไปยังแม่ ฉันก้าวเท้าสั้น ๆ พาตัวเองเข้าไปอยู่ในระยะการมองเห็นของดวงตาคู่นั้นบังตัวแม่เอาไว้ เราจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ที่ผ่านมาฉันทำเพียงนิ่งและพยายามไม่สนใจเพราะต้องการปกป้องแม่ แต่ว่าตอนนี้เกมบนกระดานของเขามันกำลังถูกฉันเปลี่ยน
“ถ้าแม่เป็นอะไรแม้แต่นิดเดียวตำแหน่งของคุณอาจจะหลุด การแต่งงานก็จบหรือจะส่งโซอี้ไปแทน เอามั้ยล่ะ ฆ่าเราสองคนเลย เอาเลย ส่งลูกสาวสุดที่รักต้องไปเจอกับคนที่ต้องแต่งงานด้วยกันโดยไม่ได้รัก คงเจอผู้ชายเหมือนกับพ่อตัวเอง” สายตาของฉันไม่มีหลงเหลือความกลัวต่อผู้เป็นพ่ออีกเลย
ถ้าเขาสั่งเก็บฉันกับแม่เท่ากับว่าเสียหมากบนกระดานทันทีและถ้าส่งโซอี้ไปแทน เกิดลูกสาวสุดที่รักเป็นอะไรไปก็จบเห่เหมือนกัน เท่ากับว่าตัวเลือกของเขามีไม่เยอะและอำนาจที่อยากได้มันต้องใช้เวลา พ่อของฉันจึงเตรียมการล่วงหน้าก่อนจะถึงการเลือกตั้งสมัยต่อไป
“....” อีกฝ่ายยังคงนิ่ง ดวงตากลมกวาดมองไปรอบตัว ไปหยุดยังโซอี้เธอยืนอยู่ตรงประตู มองมายังพ่อและส่ายหัวไปมาเป็นการปฏิเสธ สีหน้า แววตารับรู้ถึงความหวาดกลัว
หรือว่าโซอี้จะรู้ว่าอีกฝ่ายที่ต้องแต่งงานด้วยเป็นใคร...
“แลกกับอิสระของแม่ที่จะได้ออกไปจากที่นี่ ได้ไปใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการโดยที่คุณห้ามข้องเกี่ยวเด็ดขาด ส่วนหนูจะแต่งงานกับคนที่คุณพ่อต้องการให้แต่ง เท่านี้เองค่ะข้อแลกเปลี่ยนของเรา” ฉันหันกลับมายังผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง เวลานี้ต้องกดดันให้หนักเท่าที่จะทำได้ ทำให้อีกฝ่ายคิดไม่ทันจะได้รีบรับข้อเสนอของฉันซะ
“แล้วถ้าแม่ไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นล่ะ แบบนั้นก็เท่ากับว่าเอาเงินที่ฉันส่งเสียไปเลี้ยงผู้ชาย หลอกสวมเขาให้ฉันสิ” สิ่งที่ออกจากปากของผู้ชายตรงหน้าทำฉันถึงกับขมวดคิ้ว คิดได้ยังไงเนี่ย!
“ไม่มีใครเลวไปกว่าพ่อแล้วแหละ ไม่ต้องกลัวหรอกว่าใครจะเลวเกินตัวเอง ชนะเลิศที่สุดในประเทศนี้แล้ว!” ฉันเจอพ่อตัวเองตั้งแต่เด็กจนโตและมีชีวิตรอดมาได้จนทุกวันนี้ คนอื่นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
“ยูรา ระวังปากด้วย!” พ่อตะคอกกลับเสียงดังพร้อมง้างมือขึ้นเหนือหัวแต่ต้องหยุดชะงักค้างเอาไว้เช่นนั้น ไม่กล้าเหวี่ยงมือลงมากระทบหน้าฉัน เสียงที่ดังและการถกเถียงของเราทำเอาแม่ที่หลบอยู่ด้านหลังฉัน สะดุ้งด้วยความตกใจคนอื่น ๆ ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้เราแม้แต่คนเดียว
“พูดเรื่องจริง! แล้วจะเอายังไง ถ้าไม่ยอมแลกหนูก็ไม่แต่งอย่ายื้อเวลาให้มาก หิวข้าว ง่วงนอนโว้ย!” เสียงดังมาก็เสียงดังกลับ เราถือไพ่เสมอกันฉันไม่มีความจำเป็นต้องกลัวเขาอีกแล้ว
“เออ!” พ่อตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระแทกอย่างไม่พอใจ มือที่ยกค้างอยู่นั้นลดระดับลงเปลี่ยนมากำหมัดแน่นเพราะทำอะไรฉันไม่ได้
“แม่ไปเก็บของ เราจะออกไปจากที่นี่พร้อมกัน”
“อื้อ” แม่ตอบกลับเพียงเท่านั้น แล้วรีบเดินออกจากห้องไปจัดการตามที่ฉันบอกทันที คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเปิดทางให้แม่เดินออกไปแต่โดยดี ภายในห้องตอนนี้มีเพียงแค่ฉัน พ่อและโซอี้ที่ยังยืนอยู่จุดเดิม
ในระหว่างที่รอแม่อยู่ควรจะถามเรื่องการแต่งงานแบบงง ๆ ของตัวดีมั้ย? ยังไม่รู้เลยว่าผู้ชายคนไหน เป็นลูกหลานใคร ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคนที่ตัวเองต้องรับมือนับจากนี้เป็นใคร
“คนที่ต้องแต่งงานด้วยเป็นใคร” ฉันเลือกที่จะหันไปถามโซอี้แทนที่จะถามตัวต้นเหตุของเรื่องโดยตรง ไม่พูดด้วยแม้แต่หน้ายังไม่อยากมองเลย
“โซอี้พูดได้มั้ยคะพ่อ” โตขนาดนี้แล้วโซอี้ยังไม่มีความกล้าพอที่จะตัดสินใจด้วยตัวเองเลย แต่ฉันก็รู้ดีอีกแหละว่าทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้เพราะถูกเลี้ยงมาด้วยสังคมผู้ชายเป็นใหญ่
“อือ” คนถูกถามตอบกลับสั้น ๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงยังโซฟา มองหน้าฉันด้วยสายตาโกรธจัดซึ่งนั่นไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรกลัวอะไรสักนิด
“เขาเป็น...” โซอี้รีบเดินปรี่เข้ามาหา ดวงตากลมโตกะพริบปริบ ๆ เวลาที่เจอฉันเธอก็ยังเป็นเหมือนเดิม
ทำหน้าเหมือนเด็กที่อยากมีเพื่อนเล่นแต่ในชีวิตมีแต่พี่เลี้ยง ไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกันสักคน เธอไม่ได้มีพิษมีภัยกับใครและมีความสดใสในตัวเองคล้ายซินเซีย แต่ไม่สามารถแสดงออกได้อย่างใจต้องการ เพราะจะถูกพ่อตำหนิว่าทำตัวไม่เหมาะสมกับเป็นลูกสาวของรัฐมนตรี
“เป็น?” ยิ่งพูดช้าก็พาให้ลุ้นหัวใจจะวายตายเอา
“เป็นผู้ชาย”
“เรื่องนั้นรู้แล้ว ชื่ออะไร เป็นใครต่างหากที่อยากรู้” ขอแค่ได้ชื่อมาก่อนก็ยังดี อยากรู้อะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวไปขอให้ซินเซียสืบประวัติให้
“เอริกส์ อาร์เดียโน่ รองบอสตระกูลอาร์เดียโน่” เธอพูดด้วยใบหน้าหวาดกลัว รอยยิ้มที่ปกติจะเห็นบนใบหน้าอยู่เสมอตอนนี้มันจางหายไป
“....” ชื่อที่ออกจากปากของโซอี้ทำเอาหัวใจฉันกระตุกวูบแทบหยุดเต้น เกิดความรู้สึกเย็นสันหลังวาบและมือก็เย็นเฉียบขึ้นมา
“เขาหล่อมาก ดูดีมากเหมือนหลุดออกจากตำนานเทพกรีกโบราณเลยแต่ว่า...น่ากลัว” โซอี้อธิบายเพิ่มเติมให้ฉันเข้าใจ กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่หลังพูดคำว่าน่ากลัวจบ
“....” แล้วต้องแต่งงานกับเขา ฉัน...
“เคยเจอเขาก็หลายครั้งนะ คนอะไรไม่รู้หล่อมากทั้งบอสแล้วก็รองแต่ว่าเขาน่ากลัว ถามอะไรเขาไม่ตอบเลย นิ่งมาก มากจนน่ากลัว ฮึก...” โซอี้เบะปากเหมือนจะร้องไห้เมื่อพูดถึงผู้ชายคนนั้น
เรื่องนั้นฉันรู้ดีไม่ต่างกัน ฉิบหายแล้วยูรา!