เปลี่ยวเหงา

1730 คำ
หลังจากอาบน้ำเสร็จมาเบลล์ลมตัวลงนอนบนเตียงกว้างในห้องขนาดใหญ่มันอบอวนไปด้วยความเศร้าเธอหันไปมองทางไหนก็เห็นแต่ภาพความทรงจำที่มีพ่อของเธออยู่ตรงนั้น “ แด๊ดข๋า หนูไม่เชื่อหรอกนะคะว่าแด๊ดจะประมาทจนเกิดอุบัติเหตุ แด๊ดไม่ดื่ม ไม่นอนดึก สุขภาพของแด๊ดก็ยังแข็งแรงดีถ้ามีใครคิดร้ายหรือทำร้ายแด๊ดของหนูๆขอให้มันได้รับผลกรรมที่ทำเอาไว้เร็วๆนะคะ ฮือ….~ “ เธอเอ่ยพูดในมือเล็กกำสร้อยคอเส้นที่ขาดเอาไว้แน่นดวงตาสีเทากลมโตปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา แม้เธอจะมีอายุแค่ 15 ปีแต่เธอก็รับรู้และเข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่คุยกันได้ - ย้อนกลับไป - รถตู้ของบ้านขับมาจอดตรงโถงขนาดใหญ่ เธอสาวเท้าลงจากรถในจังหวะที่กำลังจะเดินเข้าบ้านเสียงแม่บ้านรีบวิ่งมาเอ่ยถามลุงคนขับรถว่า “ พี่ๆ ดร. เป็นอะไรตำรวจสรุปได้แล้วหรือยัง ” “ ข้าก็ไม่รู้ที่ได้ยินมาถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุก็คงมีคนลอบทำร้ายจนเกิดอุบัติเหตุจนรถเสียหลักลงข้างทางต้องรอทางเจ้าหน้าที่ไปเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุซะก่อน ” เธอหยุดฟังทุกอย่างเงียบๆครั้นจะถามแม่ๆก็ดูจะหงุดตลอดเวลาหรือไม่บางครั้งก็ร้องห่มร้องไห้ เธอเลยเลือกที่จะจมอยู่กับตัวเองมากกว่าการเข้าไปถามในเวลาแบบนี้ ในขณะที่เธอกำลังนอนคิดอะไรเพลินๆความเหนื่อยล้า อ่อนเพลียเข้าเล่นงานเธอจนเผลอหลับไป 13:00 น. ตรงเวลานัดหมายที่มาวินนัดกับเบลล์เอาไว้รถหรูขับเข้ามาจอดในบ้านของเด็กสาว มาวินสาวเท้าลงจากรถแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้มาบ้านหลังนี้แต่เพราะความชอบเขาได้สืบหาข้อมูลทุกอย่างของเบลล์จนรู้ว่าบ้านอยู่ไหน น้องมีพ่อแม่เป็นใคร การมาของเขามันเลยไม่ยากเท่าไหร่นัก “ สวัสดีค่ะ ” แม่บ้านรีบเดินมาทักทายแขกอย่างมีมารยาท “ สวัสดีครับผมมาวินผมมารับน้องเบลล์ไปวัดครับ ” “ นัดคุณหนูเอาไว้แล้วใช่ไหมคะ ” “ ใช่ครับ ” “ เชิญคุณมาวินนั่งรอในห้องรับแขกก่อนนะคะ ” มาวินเดินตามแม่บ้านเข้าไปในห้องรับแขกเขากวาดสายตาดูบ้านหลังใหญ่ที่สะอาดสะอ้านโล่ง สบายก่อนจะนึกไปถึงน้องว่าคงเหงาและเหว่ว้ามากแค่ไหนเมื่อสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวด่วนจากไป แม่บ้านวิ่งเข้าไปเรียกพี่แย้มให้ขึ้นไปตามเบลล์ ก๊อก ก๊อก ก๊อก…~ แกร๊ก.. ” คุณหนูหลับเหรอค่ะ “ “ ค่ะ เบลล์คงจะเพลียเลยเผลอหลับไป ” “ เพื่อนคุณหนูที่ชื่อมาวินมาค่ะ ” “ พี่มาวินมาแล้วเหรอคะ ” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเธอเอาแต่หลับจนลืมว่านัดกับรุ่นพี่เอาไว้ตอนบ่าย 1 เบลล์รีบวิ่งไปหยิบผ้าขนหนูและเข้าห้องน้ำรีบอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว พี่แย้มพี่เลี้ยงส่วนตัวเดินเข้าไปเตรียมชุดที่จะใส่ให้คุณหนูของตนอย่างรู้หน้าที่เช่นกัน เธอสาวเท้าลงจากชั้น 2 ของบ้านร่างบางในชุดเดรสสีดำแขนตุ๊กตาน่ารักสะพายกระเป๋าใบเล็กที่เหมาะกับตัวเดินตรงเข้าไปยังห้องรับแขกก็เห็นรุ่นพี่นั่งเล่นมือถืออยู่บนโซฟา “ พี่มาวิน เบลล์ขอโทษนะคะที่ให้พี่ต้องรอนาน ” มือเรียวยกขึ้นมาไหว้ขอโทษอีกคนอย่างมีมารยาทจนมาวินรับไหว้แทบไม่ทัน “ ไม่เป็นไรครับ พี่เพิ่งมาเองน้องเบลล์คงเหนื่อยควรพักผ่อน “ ” เบลล์นอนแล้วค่ะ เราไปกันเลยไหมคะ “ เธอเอ่ยถามพร้อมส่งยิ้มจางๆไปเขาจนมาวินเห็นรอยยิ้มน้องก็อดที่จะสงสารไม่ได้ ในตากลมโตดูเศร้าไม่สดใสเหมือนที่ผ่านมาเอาซะเลย ” เดี๋ยววันนี้ผมพาน้องเบลล์ไปวัดเองนะครับ“ มาวินหันไปบอกพี่แย้มเพราะรู้ดีว่าเธอคือพี่เลี้ยงของน้อง “ เบลล์ไปก่อนนะคะพี่แย้มเจอกันที่วัดนะคะ ” ทั้งสองเดินออกจากบ้านมาขึ้นรถมาวินไม่ลืมที่จะเปิดประตูให้น้องครั้งแรกของเขากับการได้ดูแลน้องใกล้ชิดแบบนี้ @วัดดัง สถานที่จัดงานศพ มาเบลล์เดินลงจากรถไปพร้อมกับมาวินเธอรีบเดินตรงไปยังโล่งศพของผู้เป็นพ่อ ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังรูปภาพของพ่อก่อนที่เธอจะเอ่ยขึ้น “ แด๊ดค่ะ เบลล์จะเข้มแข็งแด๊ดไม่ต้องเป็นห่วงเบลล์นะคะ ” ระหว่างทางที่นั่งรถมามาวินคอยพูดให้กำลังใจเธอทุกทางจนเขาเล่าเรื่องส่วนตัวของเขาเองให้กับน้องฟังจนทำให้เบลล์กระหนักได้ว่า ต่อให้เธอจะจมอยู่กับความเสียใจมากแค่ไหนสุดท้ายพ่อของเธอก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดีเธอควรเลือกที่จะเข้มแข็งและผ่านมันไปให้ได้อย่างสวยงามเพื่อให้พ่อที่จากไปไม่ต้องเป็นห่วงเธอแค่นั้นก็คงจะพอ - หลายวันผ่านไป - วันนี้จะเป็นวันเผาร่างของ ดร. ภายในวัดที่จัดงานคนค่อนข้างหนาแน่นทั้งคนรู้จักและคู่ค้าต่างทยอยเดินทางกันมาร่วมส่ง ดร. เป็นครั้งสุดท้าย เบลล์กอดรูปสุดท้ายของพ่อเอาไว้แน่นข้างกายก็มีมาวินอยู่ด้วยไม่ห่างตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไปรับไปส่งเธอทุกวันจนทั้งสองสนิทกัน มาวินเป็นเหมือนกำลังใจสำคัญไม่ต่างจากพี่แย้มของเธอเลยแตกต่างจากแม่ที่เธอแทบไม่ได้พูดคุยกันเลยอีกทั้งมุกดายังไม่กลับไปนอนที่บ้านโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปนอนค้างที่ไหนเบลล์และคนที่บ้านพยายามโทรหาเธออยู่บ่อยครั้งแต่ผู้เป็นแม่กลับไม่รับสายเธอเลย ร่างบางยืนมองควันไฟที่พวยพุ่งออกจากปล่องควันน้ำตาไหลออกจากตาของเธอตลอดเวลาแต่เธอก็ยังกัดฟันเก็บเสียงสะอื้นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี มือเล็กกำสร้อยที่พ่อให้เป็นของขวัญวันเกิดเอาไว้แน่น เพราะมันเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายจากพ่อของเธอ “ น้องเบลล์ไหวไหมคะ ” มาวินที่ค่อยลอบมองน้องอยู่บ่อยครั้งเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ ไหวค่ะ ขอบคุณพี่วินมากๆนะคะ ” “ วิน ! ” ทว่าเสียงใครบางคนเอ่ยเรียกมาวินทำให้เบลล์ที่คุ้นเสียงต้องหันไปดู “ ลุงหมอ! ” “ หนูสบายดีใช่ไหมลูก ลุงไม่ว่างเลยพอว่างก็รีบมาแต่ก็ไม่ทันเผาอยู่ดี ” คุณหมอที่ช่วยชีวิตพ่อเธอในคืนนั้นเอ่ยถามด้วยความห่วงใย “ สบายดีค่ะ ขอบคุณลุงหมอมากนะคะที่สละเวลามา ” “ แต่ถึงลุงไม่ได้มาเจ้าลูกชายของลุงก็มาทุกคืนนะ ” ลุงหมอเอ่ยบอกพร้อมชี้ไปยังมาวินที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ข้างๆเธอ “ นี่พี่มาวินปะ เป็น… ” “ ใช่ครับ นี่พ่อพี่เองขอโทษที่ไม่ได้บอกนะครับ ” “ บังเอิญจังเลยนะคะ ” เบลล์เอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อว่าพ่อของรุ่นพี่จะเป็นถึงอาจารย์หมอฝีมือดีที่พยายามช่วยชีวิตพ่อของเธอในคืนนั้น “ ลุงก็เพิ่งรู้จากเจ้าวินว่ารู้จักกับหนู เข้มแข็งนะลูกแล้วหนูจะผ่านมันไปได้ในสักวัน ” “ ค่ะคุณลุงขอบคุณนะคะ ” “ แล้วนี่แม่หนูไปไหนซะละลุงว่าจะเข้าไปทักทายสักหน่อย ” คุณหมอเอ่ยถามพลางกวาดสายตามองหามุกดา ”…… “ เบลล์เงียบไปทันทีเพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่เธออยู่ตรงไหนในงานวันนี้แขกเหรื่อมากมายแทนที่จะเห็นแม่มายืนต้อนรับแขกก็กลับไม่เห็น “ งั้นไม่เป็นไรแม่อาจจะยุ่ง ลุงเสียใจด้วยอีกครั้ง ” “ ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณลุงหมอ ” มาเบลล์ยกมือไหว้คนตรงหน้าอย่างมีมารยาทก่อนที่หมอจะมองไปยังลูกชายด้วยรอยยิ้ม จนการเผาศพเสร็จสิ้นลงมาวินขับรถมาส่งมาเบลล์ที่บ้านเหมือนทุกวันภายในบ้านกลับเงียบเชียบมีเพียงคนสวนที่ตกแต่งต้นไม้อยู่บริเวณรอบๆบ้านหลังใหญ่ “ ขอบคุณพี่วินมากนะคะที่มารับส่งเบลล์หลายวันเลยพี่คงเหนื่อย ” “ พี่ไม่เหนื่อยเลยค่ะน้องเบลล์อย่าคิดมากไปอาบน้ำพักผ่อนนะคะ ” มาวินพูดเพราะแบบนี้กับเธอเสมอทำให้เธอรู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับเขา “ ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนนะคะ ขับรถกลับดีๆค่ะพี่วิน “ ” งั้นพี่ขอตัวก่อน “ มาวินเดินขึ้นรถไปทันทีเพราะไม่อยากรบกวนเวลาน้องนานหลายวันมานี้เขารู้ดีว่ามาเบลล์แทบไม่ได้พักผ่อนเลย ร่างบางเดินเข้าบ้านไปเงียบๆภายในบ้านก็แสนจะเงียบเชียบราวกับว่ามีเพียงเธอแค่คนเดียว / หลายวันผ่านไป / ยิ่งนานวันมาเบลล์ยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยวเพราะทุกเช้าก่อนไปโรงเรียนแม่จะต้องเตรียมอาหารเช้าให้เธอทุกวันแต่ตั้งแต่ที่พ่อเธอจากไปเธอก็ไม่เคยได้กินอาหารฝีมือแม่อีกเลยอีกทั้งยังไม่ค่อยได้เห็นหน้าเห็นตากันวันนี้ก็เช่นกัน “ เห็นคุณแม่ไหมคะพี่แย้ม “ ” คุณมุกเธอไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้วละค่ะ ” พี่แย้มเอ่ยบอก “ คุณหนูรีบกินข้าวน่ะค่ะ เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสาย ” มาเบลล์เลิกสนใจในสิ่งที่สงสัยหันไปก้มหน้ากินข้าวเงียบๆบนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่มันช่างเปลี่ยวเหงามากเหลือเกินเธอกินข้าวคนเดียวแบบนี้แทบทุกวันหลังจากที่พ่อเธอจากไปเสียงพูดคุยหัวเราะก็หายไปพร้อมๆกับ ดร. ด้วยเช่นกัน ^^
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม