วันที่ทุกคนรอคอย

1236 คำ
แพรไหมปลีกตัวอยู่ตามลำพัง ในช่วงเวลาเลิกฝึกงาน เธอรีบโทรศัพท์กลับที่บ้าน เพื่อจะบอกพ่อกับแม่ เธอโทรศัพท์หลายสายจนมันดับไปเอง ที่บ้านไม่มีคนรับสาย จึงตัดสินใจต่อสายหาคุณแม่เนตรนภาแทน ตื้ด ตื้ด... เธอรอสายอยู่สักพัก ปลายสายจึงกดรับสายของเธอ (“สวัสดีจ้ะลูกแพร”) “สวัสดีค่ะคุณแม่ คุณแม่กับคุณพ่ออยู่ไหนคะ แพรโทรไปที่บ้านไม่มีคนรับสายแพรเลยค่ะ แพรเป็นห่วงนะคะ” เธอร้อนใจมากที่ไม่มีคนรับสาย (“ใจเย็น ๆ ค่ะลูกแพร แม่ขอโทษจ้า”) ปกติคุณเนตรนภาจะไม่ค่อยได้ยินลูกสาวพูดยาวเสียขนาดนี้ “ขอโทษค่ะคุณแม่ แพรเป็นห่วงค่ะ” (“จ้ะ ไม่เป็นไร พ่อเขาอยากทานอาหารทะเล เลยพากันออกมาเดินสะพานปลา ที่เขาขายกันสด ๆ เดี๋ยวแม่ซื้อของฝากไปให้ลูกแพรด้วยนะ ว่าแต่ลูกแพรมีอะไรไหมลูก”) คุณเนตรนภาทั้งพูดทั้งยิ้มระรื่น ไม่คิดว่าลูกสาวจะเป็นห่วงขนาดนี้ “คุณอาเจกลับมาแล้วค่ะ” แพรไหมบอก (“อะ อะไรนะลูกแพร อาเจทำไมจ๊ะ”) คุณเนตรนภามัวแต่ตะลึงถึงกับหยุดเดินยืนนิ่งกับที่ คิดว่าตัวเองต้องหูฝาดแน่ ๆ จนเสียงลูกสาวเรียกสติคืนกลับมา “คุณอาเจกลับมาแล้วค่ะ และตอนนี้คุณอาช่วยงานอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะคุณแม่” แพรไหมทวนอีกครั้ง (“จริงเหรอลูกแพร คุณ คุณอาเจกลับมาแล้วจริง ๆ และตอนนี้ช่วยงานที่โรงพยาบาลจริง ๆ ใช่ไหมจ๊ะลูกแพร” คุณเนตรนภายิ้มกว้าง คิดว่าฟังผิดหูฝาด ความดีใจปนตื่นเต้น ไม่คิดไม่ฝันจริง ๆ เธอต้องบอกข่าวดีกับสามี สามีต้องดีใจมากแน่ ๆ (“ลูกแพรหนูพูดจริงใช่ไหม ไม่ได้หลอกแม่นะ”) “จริงค่ะคุณแม่ แพรได้คุยกับคุณอา แถมยังได้ฝึกงานจริง ๆ กับคุณอาอีกค่ะ” (“โอ๊ย แม่ดีใจที่สุดในรอบหลายปี งั้นแม่ต้องซื้ออาหารทะเล ไปเลี้ยงฉลองการกลับมาของคุณอาแล้วแหละลูกแพร”) “ค่ะคุณแม่ แค่นี้ก่อนนะคะ แพรต้องรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ แล้วค่ะแม่” (“จ้ะ ลูกรัก”) แม่บ้านที่เดินตามหลังได้ยินบทสนทนาของสองแม่ลูก ไหนจะสีหน้าที่บ่งบอกถึงความยินดี ดีใจปนตื่นเต้น ของเจ้านาย ทำให้แม่บ้านยิ้มตาม “คุณท่านคะ คุณเจกลับมาจริง ๆ เหรอคะ” “จริงค่ะ…ลูกแพรฝึกงานกับคุณเจด้วยนะคะป้า อย่างน้อยคุณพิเชษฐ์จะได้เบาใจเสียที” “แล้วทำไมคุณเจไม่กลับบ้านคะ” แม่บ้านสงสัย “อันนี้เนตรก็ไม่รู้ค่ะ ช่างเถอะแค่กลับมาก็ดีใจแล้วค่ะป้า” ไหน ๆ แล้วก็ซื้อไปทำกับข้าวมื้อเย็น ฉลองที่น้องชายสามีกลับประเทศไทย มันช่างประจวบเหมาะจริง ๆ คุณเนตรนภาเดินยิ้มไม่หุบ โดยมีป้าแม่บ้านและเด็กในบ้านอีกคน คอยช่วยกันหิ้วถือของ จนมาถึงรถตู้ที่จอดคอยอยู่ สีหน้าคุณเนตรนภาดูมีความสุข มากกว่าปกติ ยามที่ขึ้นมานั่งในรถ “ดูคุณมีความสุขจัง ที่ได้มาซื้ออาหารสดที่นี่” คุณพิเชษฐ์แซวภรรยา “จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงคะ เย็นนี้เรามีแขกจะมาทานข้าวที่บ้านนี่คะ” คุณเนตรนภาเก็บเป็นความลับ เธอส่งยิ้มให้สามี ยังไม่ยอมบอกว่าเขาคนนั้นเป็นใคร ระหว่างทางที่เดินมาขึ้นรถ คุณเนตรนภาได้ย้ำกับป้าแม่บ้าน ไม่ให้แพร่งพรายเรื่องน้องชายคุณพิเชษฐ์กลับมา จนกระทั่งรถตู้เคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ มุ่งหน้ากลับบ้าน ไม่ต่างจากคุณพิเชษฐ์ยังคงสงสัยในท่าทีของภรรยา เขาขมวดคิ้วเหมือนต้องการคำตอบจากภรรยา แต่คุณเนตรนภารู้ทัน จึงแกล้งตีแขนสามีเบา ๆ บ้านสิริภากุล มื้อค่ำถูกจัดเตรียมหลายอย่าง ส่วนมากเป็นของโปรดของเจษฎา อย่างเช่น ต้มยำรวมทะเล กุ้งอบวุ้นเส้น ปูผัดผงกะหรี่ เหล่านี้เป็นที่ชื่นชอบของน้องชายสามี ทำให้คุณพิเชษฐ์ยิ่งสงสัยไปใหญ่ เขาคุ้น ๆ กับอาหารเหล่านี้ แต่ยังไม่ปริปากใด ๆ “คุณเนตร เมื่อไหร่ลูกจะกลับบ้าน ทำไมวันนี้ลูกกลับค่ำจัง” คุณพิเชษฐ์เหลือบมองดูเวลาที่ฝาผนัง มันล่วงเลยเวลากลับบ้านของแพรไหมมาชั่วโมงกว่า ๆ แล้ว “เดี๋ยวคงกลับค่ะ ลูกแพรโทรมาบอกว่าฝึกงานวันแรกที่โรงพยาบาลค่ะ” ภรรยายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ่งเป็นจุดจับสังเกตมากขึ้นไปอีก “อ้าวเหรอ แล้วจะกลับยังไงล่ะ” คุณพิเชษฐ์เป็นห่วงลูกสาว เขาลืมไปเลยว่าแพรไหม ต้องไปฝึกงานที่โรงพยาบาล “อย่าห่วงเลยค่ะคุณพี่ ลูกแพรเราฉลาดค่ะ” ฟัง ๆ แล้วเหมือนจะประชดสามี เวลาสิบเก้านาฬิกาสิบห้านาที เสียงรถที่ไม่คุ้นเคยแล่นมาจอดที่โรงจอดรถ แพรไหมเดินนำหน้ามาในบ้าน ตามด้วยชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ เขาอยู่ในชุดทำงานตัวเดิม หลังจากเสร็จงานจากโรงพยาบาล ชายหนุ่มเตรียมตัวกลับคอนโดมิเนียม แต่ต้องหยุดชะงักเพราะมีใครบางคนคว้าแขนเขา ก่อนหน้าที่เจษฎาจะกลับบ้านพี่ชาย “คุณอาเจคะ คุณอากลับบ้านไปหาคุณพ่อกับแพรไหมนะคะ” แพรไหมคว้าแขนชายหนุ่ม ขณะที่เจษฎากำลังลงจากลิฟต์ไปยังลานจอดรถ เธอแอบมาดักรอเขา “อ้าว…น้องแพร” เขาหยุดเดินแล้วเรียกชื่อหลานสาว “แพรขอร้องค่ะ กลับไปหาคุณพ่อสักครั้งนะคะ แค่ครั้งเดียวแล้วแพรจะไม่รบกวนคุณอาเจอีกค่ะ” “พี่เชษฐ์ให้น้องแพรมาพูดกับอาเหรอครับ” เจษฎามองหน้าหลานสาว “ไม่ค่ะ คุณพ่อไม่รู้ว่าคุณอากลับมา แต่เป็นแพรเองค่ะ แพรไม่รู้ว่าคุณอากับคุณพ่อ มีปัญหาอะไรกัน แต่ตอนนี้คุณพ่อไม่สบาย คุณพ่ออยากเจอคุณอาค่ะ” แพรไหมพยายามกลั้นน้ำตา ยามที่ต้องพูดถึงคนเป็นพ่อ “ตกลงครับ อาจะกลับบ้าน” เจษฎารับปาก “ขอบคุณค่ะอาเจ” แพรไหมยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม เมื่อหมดเรื่องที่แพรไหมต้องการ เธอกำลังจะเดินจากไป แต่มือหนาคว้าแขนไว้ แพรไหมไม่ทันตั้งตัวจึงเซนิดหน่อย “น้องแพรจะกลับยังไง มันเริ่มค่ำแล้วกลับกับอา ไหน ๆ เราต้องกลับบ้านอยู่ดี” เจษฎาจูงแขนแพรไหมไปยังรถที่จอดอยู่ รถราบนท้องถนนวิ่งกันหนาแน่น ติดไฟแดงแต่ละรอบก็นานเป็นครึ่งชั่วโมง แพรไหมเริ่มใช้มือป้องปากเมื่อเธอหาวง่วงนอน แอร์เย็น ๆ ทำให้เธอทนไม่ไหว ในที่สุดเธอก็หลับ เจษฎามองใบหน้าหวานแล้วอมยิ้ม ก่อนจะปรับเบาะเอนให้แพรไหมให้เธอได้นอนสบายขึ้น มือหนาเกลี่ยเส้นผมที่หลุดลุ่ยปกปิดใบหน้าออก แพรไหมสวยมากยามที่เขาเพ่งมอง เธอสวยใสไร้ตำหนิ จนใจเขาเต้นกระหน่ำไม่เป็นจังหวะ แพรไหมเป็นหลานสาวกลับทำให้จิตใจเขาว้าวุ่นได้ขนาดนี้ เขามัวแต่คิดอะไรเพลิน ๆ ไม่ได้สังเกตไฟจราจร จนรถคันหลังบีบแตรไล่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม