วีถีของท่านประธาน

1267 คำ
ตอนที่ 3 วีถีของท่านประธาน “ยังไงกันเนี่ยเมย์ เอ็งไม่คิดจะบอกเขาเลยเหรอ?” ป้าจิต เอ่ยถามหลานสาว เมื่อ อคิณ กลับไปแล้ว หลังจากอุรุงตุงนังกันอยู่พักใหญ่ แล้ว เมษา เดินหนีขึ้นมาชั้นสองก่อนจะปิดประตูใส่หน้าชายหนุ่มไม่ยอมคุยต่อ ทำให้อีกฝ่ายบ่นอย่างหัวเสียและเดินหันหลังออกไป เมื่อเห็นว่าใกล้จะเที่ยงและมีคนเข้ามาในร้านค่อนข้างเยอะแล้ว “ทำไมต้องบอกด้วยป้า ไม่เห็นมีความจำเป็นเลย เราก็อยู่ของเราได้ ไม่ใช่พอเขารู้จะหาทางมาเอาตาหนูมังกรไป แบบนั้นเมย์ไม่ยอมหรอก ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นจะสำคัญอะไร” เมษา เม้มปากแน่นเข้า ขณะลูบไล้แก้มยุ้มของลูกชายที่หลับตาพริ้มไปเมื่อสักครู่ หลังจากกินนมอิ่มแล้ว ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเสียใจเลยสักนิดในสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา แม้ใครจะมองว่าอย่างไงก็ตาม ทว่า ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดมีค่าและสำคัญไปกว่า สิ่งมีชีวิตน้อยๆตรงหน้าเธออีกแล้ว “ป้ารู้ว่าเอ็งนะเก่ง แต่อย่าลืมว่าไอ้หนูมังกรมันก็โตขึ้นทุกวัน และหน้าเหมือนพ่อมันซะขนาดนั้น ยังไงสักวันเขาก็ต้องรู้ และเด็กพอมันโตขึ้นมันก็ต้องรู้อยู่แล้ว” “ไว้ถึงตอนนั้นค่อยรู้ก็ได้ ให้เขาโตกว่านี้ก่อน” “ถ้าเอ็งจะหลบเขาขนาดนี้ เปลี่ยนกับย่าผ่องไปดูสาขาที่ปทุมมั้ย จะได้ไม่ต้องมาอยู่ใกล้เขาขนาดนี้ นี่อาคารพีเคก็อยู่ตรงข้ามแบบนี้ ยังไงเขาก็ต้องหาทางมาเรื่อยๆอยู่แล้ว” “เมย์ขอคิดดูอีกทีนะป้า” เมษา นิ่งไปสักครู่ ที่เธอมาดูสาขานี้เพราะสัดส่วนกำไรทั้งหมดจะเป็นของเธอประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ตามที่ ย่าบุญผ่อง บอก และสาขานี้เป็นร้านข้าวแกงที่ขายดีที่สุดจากทุกสามที่ ใช้เวลาขายเพียงสามชั่วโมงจากสิบโมงเช้าถึงบ่ายโมงก็ได้พักผ่อน เรื่องการเตรียมวัตถุดิบจะมีคนงานเตรียมให้ตั้งแต่ตีสี่ เธอแค่กำกับการทำในตอนเช้าและเคลียร์บัญชีตอนขายหมด นั่นทำให้เธอมีเวลาดูแลลูก และยังสามารถปลีกเวลาไปเรียนปริญญาโทด้านโภชนาการอาหารกับมหาวิทยาลัยได้สะดวก อีกทั้ง เมษา ตั้งใจอยากจะให้ลูกเริ่มเรียนโรงเรียนอนุบาลในละแวกนี้ เธอจึงมีคอนโดห้องขนาดกลางไว้ที่นี่ การประจำสาขานี้จึงสะดวกหลายอย่างกับเธอ อีกทั้งไม่ทราบมาก่อนว่า ตอนนี้เขากลับมาเมืองไทยแล้ว ชั่งเถอะ! หนุ่มเจ้าสำราญแบบนั้นคงจะไม่อะไรมากมายกับเธอนักหรอก เดี๋ยวเขาเซ้าซี้จนเบื่อก็คงหยุดไปเอง คนแบบนั้นจะมีความอดทนสักแค่ไหนกัน . . เสียงฝีเท้าหนักของประธานพีเคฟู้ดส์ เดินออกจากลิฟต์ตรงมายังห้องทำงานส่วนตัว ทำให้ เอื้อมจิต เลขาคนเก่งเงยหน้าจากกองเอกสารอย่างรวดเร็ว แม้จะประหลาดใจนิดๆ ว่าวันนี้นายไม่ได้มีงานด้านนอก เหตุใดจึงไม่สั่งให้เธอบอกแม่บ้านว่าให้เตรียมอาหารไว้ให้ แต่พอเห็นหน้าที่บึ้งตึงของเจ้านาย เลขาก็ไม่กล้าจะเอ่ยถามต่อ “เอกสารรอเซ็นต์ห้าชุดอยู่ในห้องแล้วค่ะคุณคิณ” “เค” “ช่วงบ่ายสองโมงครึ่งมีคุยกับเวนเดอร์นะคะ ข้อมูลเบื้องต้นเอื้อมเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ” “โอเค” อคิณ ชะงักเท้าขณะจะก้าวเข้าไปในห้องทำงานตัวเอง “บอกแม่บ้านเตรียมอาหารให้ผม พร้อมกาแฟดำเข้มๆแก้วหนึ่งด้วย” “คุณคิณยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเหรอคะ?” เอื้อมจิต ถามอย่างสงสัย “ยัง” ทานก็เหมือนไม่ได้ทาน กินไปแค่นิดเดียวยังไม่ทันจะหมดจานด้วยซ้ำ แล้วก็ต้องเดินตามผู้หญิงคนนั้น แถมไม่ได้รับคำตอบอะไรเลยสักอย่าง ชิ!! บอกมาได้ว่า ผัวตายแล้ว!! คงจะบอกลูกไปแบบนั้นซินะ เจ้าหนูมังกรแสนน่ารักนั้นก็คงจะคิดว่าตอนนี้เขาไปวิ่งเล่นอยู่บนสวรรค์แล้ว คิดแล้วก็หงุดหงิด “เอื้อมจัดการให้ค่ะ ..อ้อคุณวีณาโทรมาบอกอยากจะขอเข้านัดกินข้าวกับคุณคิณช่วงเย็นนี้ สะดวกมั้ยคะ” เลขาสาวหันมาถาม เมื่อเช็คคิวตารางงานแล้วไม่เห็นว่าเจ้านายรูปหล่อจะนัดกับใคร ประธานวีเคกรุ๊ป ผ่อนลมหายใจออกมาเพียงครู่ วีณา คือลูกสาวรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ที่มารดาของหล่อนสนิทกับ เพ็ญศรี แม่ของเขามานาน ที่ผ่านมาผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็พยายามจะชักจูงให้หล่อนกับเขาลงเอยกัน แต่ อคิณ ยังรักอิสระ ไม่อยากหาเรื่องผูกมัดตัวเองตอนนี้ ต่อให้เป็นระดับลูกสาวรัฐมนตรีก็เถอะ ยิ่งสูงส่งเท่าไหร่เขาก็ยิ่งอึดอัดในการพูดคุยและคบหา สู้ปลดปล่อยกับคู่ขาที่ สิปปกร กับ วิช หาให้ยังจะสบายใจกว่า ช่วงหลัง วีณา เลยพยายามเข้าหาเขาด้วยวิธีที่ค่อนข้างเป็นทางการ “บอกไปว่าฉันไม่ว่าง” “ได้ค่ะคุณคิณ” เอื้อมจิต จัดการสั่งอาหารให้เจ้านาย ก่อนจะถือแฟ้มเอกสารเวนเดอร์เข้าไปในห้อง ทว่าประธานวีเคกรุ๊ปก็ยังคงทำหน้าเคร่งเครียด ไม่แน่ใจเพราะหิวหรือทะเลาะสาวคนไหนมา “เดี๋ยวก่อนคุณเอื้อม” “คะ?” อคิณ ลังเลอยู่เพียงครู่เมื่อมองหน้าเลขาสาว แม้ตอนนี้เขาจะมีลูกน้องผู้ชายทั้งซ้ายและขวาอยู่หลายคน แต่ เอื้อมจิต เป็นเลขาที่รู้ใจเขามากที่สุดรวมทั้งฉลาดในการเข้าหาคน และประสานงานกับคนรอบข้างของเขาได้เป็นอย่างดีเยี่ยม เรื่องนี้ เอื้อมจิต อาจทำได้ดีกว่า “ผมมีเรื่องวานจะให้ช่วยทำหน่อย” “ได้ค่ะ” . . อคิณ ถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อเลขาคนเก่งเดินออกไปจากห้อง นิ้วเรียวแข็งของเขาเคาะเบาๆกับโต๊ะทำงานอย่างครุ่นคิด เมื่อนึกถึงใบหน้าของ เจ้าหนูมังกร ที่แสนน่ารัก แค่ได้เห็นเพียงครั้งเดียวเขาก็อยากจะกอดอยากสัมผัส อย่างที่ไม่เคยเป็นกับเด็กคนไหนมาก่อน หากว่า เมษา ไม่เข้ามาดึงตัวเจ้าหนูแก้มยุ้ยออกไป เมษา.... แผ่นหลังของ อคิณ เอนราบไปกับพนักเก้าอี้ เปลือกตาหนาของเขาหลับลง ก่อนจะครุ่นคิดถึงเหตุการณ์หนึ่ง ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณสามปีที่แล้ว ...คืนนั้นเมื่อสามปีที่แล้ว พีเคฟู้ดส์จัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ให้กับพนักงาน และจ้างเหมาร้านข้าวแกงแม่บุญผ่อง ให้ทำอาหารเลี้ยงพนักงานรวมทั้งดูแลเครื่องดื่มทั้งหมดในงาน ที่ออฟฟิศชั้นล่างในเวลาช่วงเย็น ทุกคนดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน ตอนนั้นเขามาร่วมงานปีใหม่ด้วย เป็นช่วงที่ปิดภาคเรียนโทของ MIT และ วสันต์ บิดาของเขาต้องการให้เขาได้มาซึมซับและคลุกคลีกับพนักงาน ทุกคนสังสรรค์ดื่มกินอย่างสุดเหวี่ยง รวมทั้งเขาด้วย เขาชนแก้วกับพนักงานทุกคนแก้วแล้วแก้วเล่า กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องรับรองเพียงลำพัง แม้เขาจะเมามายแค่ไหน และเหตุการณ์ทุกอย่างในคืนนั้น มันก็ควรจะผ่านพ้นไปด้วยดี ....หากไม่มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง ***************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม