ตอนที่ 3
วีถีของท่านประธาน
“ยังไงกันเนี่ยเมย์ เอ็งไม่คิดจะบอกเขาเลยเหรอ?”
ป้าจิต เอ่ยถามหลานสาว เมื่อ อคิณ กลับไปแล้ว หลังจากอุรุงตุงนังกันอยู่พักใหญ่ แล้ว เมษา เดินหนีขึ้นมาชั้นสองก่อนจะปิดประตูใส่หน้าชายหนุ่มไม่ยอมคุยต่อ ทำให้อีกฝ่ายบ่นอย่างหัวเสียและเดินหันหลังออกไป เมื่อเห็นว่าใกล้จะเที่ยงและมีคนเข้ามาในร้านค่อนข้างเยอะแล้ว
“ทำไมต้องบอกด้วยป้า ไม่เห็นมีความจำเป็นเลย เราก็อยู่ของเราได้ ไม่ใช่พอเขารู้จะหาทางมาเอาตาหนูมังกรไป แบบนั้นเมย์ไม่ยอมหรอก ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นจะสำคัญอะไร”
เมษา เม้มปากแน่นเข้า ขณะลูบไล้แก้มยุ้มของลูกชายที่หลับตาพริ้มไปเมื่อสักครู่ หลังจากกินนมอิ่มแล้ว ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเสียใจเลยสักนิดในสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา แม้ใครจะมองว่าอย่างไงก็ตาม
ทว่า ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดมีค่าและสำคัญไปกว่า สิ่งมีชีวิตน้อยๆตรงหน้าเธออีกแล้ว
“ป้ารู้ว่าเอ็งนะเก่ง แต่อย่าลืมว่าไอ้หนูมังกรมันก็โตขึ้นทุกวัน และหน้าเหมือนพ่อมันซะขนาดนั้น ยังไงสักวันเขาก็ต้องรู้ และเด็กพอมันโตขึ้นมันก็ต้องรู้อยู่แล้ว”
“ไว้ถึงตอนนั้นค่อยรู้ก็ได้ ให้เขาโตกว่านี้ก่อน”
“ถ้าเอ็งจะหลบเขาขนาดนี้ เปลี่ยนกับย่าผ่องไปดูสาขาที่ปทุมมั้ย จะได้ไม่ต้องมาอยู่ใกล้เขาขนาดนี้ นี่อาคารพีเคก็อยู่ตรงข้ามแบบนี้ ยังไงเขาก็ต้องหาทางมาเรื่อยๆอยู่แล้ว”
“เมย์ขอคิดดูอีกทีนะป้า”
เมษา นิ่งไปสักครู่ ที่เธอมาดูสาขานี้เพราะสัดส่วนกำไรทั้งหมดจะเป็นของเธอประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ตามที่ ย่าบุญผ่อง บอก และสาขานี้เป็นร้านข้าวแกงที่ขายดีที่สุดจากทุกสามที่ ใช้เวลาขายเพียงสามชั่วโมงจากสิบโมงเช้าถึงบ่ายโมงก็ได้พักผ่อน เรื่องการเตรียมวัตถุดิบจะมีคนงานเตรียมให้ตั้งแต่ตีสี่ เธอแค่กำกับการทำในตอนเช้าและเคลียร์บัญชีตอนขายหมด
นั่นทำให้เธอมีเวลาดูแลลูก และยังสามารถปลีกเวลาไปเรียนปริญญาโทด้านโภชนาการอาหารกับมหาวิทยาลัยได้สะดวก อีกทั้ง เมษา ตั้งใจอยากจะให้ลูกเริ่มเรียนโรงเรียนอนุบาลในละแวกนี้ เธอจึงมีคอนโดห้องขนาดกลางไว้ที่นี่ การประจำสาขานี้จึงสะดวกหลายอย่างกับเธอ
อีกทั้งไม่ทราบมาก่อนว่า ตอนนี้เขากลับมาเมืองไทยแล้ว
ชั่งเถอะ! หนุ่มเจ้าสำราญแบบนั้นคงจะไม่อะไรมากมายกับเธอนักหรอก เดี๋ยวเขาเซ้าซี้จนเบื่อก็คงหยุดไปเอง
คนแบบนั้นจะมีความอดทนสักแค่ไหนกัน
.
.
เสียงฝีเท้าหนักของประธานพีเคฟู้ดส์ เดินออกจากลิฟต์ตรงมายังห้องทำงานส่วนตัว ทำให้ เอื้อมจิต เลขาคนเก่งเงยหน้าจากกองเอกสารอย่างรวดเร็ว แม้จะประหลาดใจนิดๆ ว่าวันนี้นายไม่ได้มีงานด้านนอก เหตุใดจึงไม่สั่งให้เธอบอกแม่บ้านว่าให้เตรียมอาหารไว้ให้ แต่พอเห็นหน้าที่บึ้งตึงของเจ้านาย เลขาก็ไม่กล้าจะเอ่ยถามต่อ
“เอกสารรอเซ็นต์ห้าชุดอยู่ในห้องแล้วค่ะคุณคิณ”
“เค”
“ช่วงบ่ายสองโมงครึ่งมีคุยกับเวนเดอร์นะคะ ข้อมูลเบื้องต้นเอื้อมเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“โอเค”
อคิณ ชะงักเท้าขณะจะก้าวเข้าไปในห้องทำงานตัวเอง
“บอกแม่บ้านเตรียมอาหารให้ผม พร้อมกาแฟดำเข้มๆแก้วหนึ่งด้วย”
“คุณคิณยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเหรอคะ?”
เอื้อมจิต ถามอย่างสงสัย
“ยัง”
ทานก็เหมือนไม่ได้ทาน กินไปแค่นิดเดียวยังไม่ทันจะหมดจานด้วยซ้ำ แล้วก็ต้องเดินตามผู้หญิงคนนั้น แถมไม่ได้รับคำตอบอะไรเลยสักอย่าง
ชิ!! บอกมาได้ว่า ผัวตายแล้ว!!
คงจะบอกลูกไปแบบนั้นซินะ เจ้าหนูมังกรแสนน่ารักนั้นก็คงจะคิดว่าตอนนี้เขาไปวิ่งเล่นอยู่บนสวรรค์แล้ว
คิดแล้วก็หงุดหงิด
“เอื้อมจัดการให้ค่ะ ..อ้อคุณวีณาโทรมาบอกอยากจะขอเข้านัดกินข้าวกับคุณคิณช่วงเย็นนี้ สะดวกมั้ยคะ”
เลขาสาวหันมาถาม เมื่อเช็คคิวตารางงานแล้วไม่เห็นว่าเจ้านายรูปหล่อจะนัดกับใคร
ประธานวีเคกรุ๊ป ผ่อนลมหายใจออกมาเพียงครู่
วีณา คือลูกสาวรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ที่มารดาของหล่อนสนิทกับ เพ็ญศรี แม่ของเขามานาน ที่ผ่านมาผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็พยายามจะชักจูงให้หล่อนกับเขาลงเอยกัน
แต่ อคิณ ยังรักอิสระ ไม่อยากหาเรื่องผูกมัดตัวเองตอนนี้
ต่อให้เป็นระดับลูกสาวรัฐมนตรีก็เถอะ
ยิ่งสูงส่งเท่าไหร่เขาก็ยิ่งอึดอัดในการพูดคุยและคบหา สู้ปลดปล่อยกับคู่ขาที่ สิปปกร กับ วิช หาให้ยังจะสบายใจกว่า ช่วงหลัง วีณา เลยพยายามเข้าหาเขาด้วยวิธีที่ค่อนข้างเป็นทางการ
“บอกไปว่าฉันไม่ว่าง”
“ได้ค่ะคุณคิณ”
เอื้อมจิต จัดการสั่งอาหารให้เจ้านาย ก่อนจะถือแฟ้มเอกสารเวนเดอร์เข้าไปในห้อง ทว่าประธานวีเคกรุ๊ปก็ยังคงทำหน้าเคร่งเครียด ไม่แน่ใจเพราะหิวหรือทะเลาะสาวคนไหนมา
“เดี๋ยวก่อนคุณเอื้อม”
“คะ?”
อคิณ ลังเลอยู่เพียงครู่เมื่อมองหน้าเลขาสาว แม้ตอนนี้เขาจะมีลูกน้องผู้ชายทั้งซ้ายและขวาอยู่หลายคน แต่ เอื้อมจิต เป็นเลขาที่รู้ใจเขามากที่สุดรวมทั้งฉลาดในการเข้าหาคน และประสานงานกับคนรอบข้างของเขาได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
เรื่องนี้ เอื้อมจิต อาจทำได้ดีกว่า
“ผมมีเรื่องวานจะให้ช่วยทำหน่อย”
“ได้ค่ะ”
.
.
อคิณ ถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อเลขาคนเก่งเดินออกไปจากห้อง นิ้วเรียวแข็งของเขาเคาะเบาๆกับโต๊ะทำงานอย่างครุ่นคิด เมื่อนึกถึงใบหน้าของ เจ้าหนูมังกร ที่แสนน่ารัก แค่ได้เห็นเพียงครั้งเดียวเขาก็อยากจะกอดอยากสัมผัส อย่างที่ไม่เคยเป็นกับเด็กคนไหนมาก่อน
หากว่า เมษา ไม่เข้ามาดึงตัวเจ้าหนูแก้มยุ้ยออกไป
เมษา....
แผ่นหลังของ อคิณ เอนราบไปกับพนักเก้าอี้ เปลือกตาหนาของเขาหลับลง ก่อนจะครุ่นคิดถึงเหตุการณ์หนึ่ง ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณสามปีที่แล้ว
...คืนนั้นเมื่อสามปีที่แล้ว พีเคฟู้ดส์จัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ให้กับพนักงาน
และจ้างเหมาร้านข้าวแกงแม่บุญผ่อง ให้ทำอาหารเลี้ยงพนักงานรวมทั้งดูแลเครื่องดื่มทั้งหมดในงาน ที่ออฟฟิศชั้นล่างในเวลาช่วงเย็น
ทุกคนดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน
ตอนนั้นเขามาร่วมงานปีใหม่ด้วย เป็นช่วงที่ปิดภาคเรียนโทของ MIT และ วสันต์ บิดาของเขาต้องการให้เขาได้มาซึมซับและคลุกคลีกับพนักงาน
ทุกคนสังสรรค์ดื่มกินอย่างสุดเหวี่ยง รวมทั้งเขาด้วย
เขาชนแก้วกับพนักงานทุกคนแก้วแล้วแก้วเล่า กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องรับรองเพียงลำพัง แม้เขาจะเมามายแค่ไหน และเหตุการณ์ทุกอย่างในคืนนั้น มันก็ควรจะผ่านพ้นไปด้วยดี
....หากไม่มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
***************