2 จนแล้วไงวะ

1338 คำ
ปัจจุบัน “แกจะกลับบ้าน หรือไปหาแม่แกที่โรงพยาบาล” ในระหว่างที่ยืนรอแท็กซี่ ทิชาก็ถามเกล ที่เอาแต่ยืนถอนหายใจอยู่ อย่างคนคิดไม่ตก “กลับบ้าน พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนอีก” เกลตอบเพื่อน พร้อมสวมเสื้อแขนยาวทับชุดวาบหวิว ที่เธอไปซื้อมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เช้าที่รร.มัธยมเอกชนอัลเกร “ห้าว ทำไมมันง่วงแบบนี้ ” ทิชาอ้าปากกว้าง กว่าทั้งสองจะกลับถึงบ้าน ก็ปาเข้าไปเกือบตี1 ทิชาเป็นทั้งเพื่อนและก็ญาติ เพราะทิชาคือลูกสาวของป้าตา ที่เป็นพี่สาวของแม่เธอ แต่ป้าตาได้สามีใหม่เป็นเจ้าของสวนยาง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก จึงฝากทิชาไว้กับน้องสาว แล้วกลับไปช่วยสามีใหม่กรีดยาง ส่งเพียงค่าใช่จ่ายรายเดือนมาให้ทิชา ก่อนหน้านี้ก็ช่วยกันกับแม่ขายข้าวแกงนี่แหละ “ลุกนั่งดีๆทิชา อาจารย์มาแล้ว” ฉันใช้ศอกสะกิดเพื่อน จนทิชารีบลุก “นักเรียน ทำความเคารพ” เสียงของหัวหน้าห้องดังขึ้น “สวัสดีครับคุณครู/สวัสดีค่ะคุณครู” พวกเราลุกขึ้นทำความเคารพอาจารย์ พร้อมกับนั่งลงเมื่อพูดจบ “สวัสดีค่ะนักเรียน เดี๋ยวอาจารย์ขอแจ้งข่าวก่อนเลย พรุ่งนี้ทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรม สายใยปันรัก เพียงแค่นักเรียนนำผู้ปกครองมาร่วมกิจกรรมนี้ด้วย อาจารย์จะให้คะแนนกิจกรรม20ค่ะแนน ไม่ว่าจะเป็นปู่ย่าตายายพ่อแม่ หรือแม้แต่พี่สาวพี่ชายได้หมดเลย โดยเฉพาะนักเรียนทุนสองคน ขาดไม่ได้เลยนะ เพราะจะมีผลกับการพิจารณาทุน ในตอนขึ้นมหาลัย ว่าควรให้ต่อดีไหม” อาจารย์พูดแล้วมองหน้าพวกฉันสองคน “ค่ะอาจารย์/ค่ะอาจารย์” เราสองคนมองหน้าอย่างรู้กัน พี่ที่ร้านก็วุ่นขายข้าวแกงในตอนเช้า ยิ่งคนลดไปหนึ่งยิ่งวุ่นวายไปใหญ่ ยิ่งถ้าจะให้เดินทางมาที่โรงเรียนยิ่งแล้วใหญ่ เพราะแต่ละคนก็งานล้นมือ “เกล แม่แกเป็นไงบ้าง” เสียงหวานใสของพริ้มพลอย ลูกคนรวยเพียงคนเดียว ที่เล่นกับพวกฉันโดยไม่ถือตัว ไม่รังเกียจว่าเราคนละระดับกัน “อาการทรงตัว แต่ต้องรีบหาเงินไปผ่าตัดหนะ ค่าใช่จ่ายตั้ง6แสน เพราะต้องย้ายไปรพ.เอกชน โรงพยาบาลของรัฐรอคิวนาน” ฉันเล่าให้พริ้มพลอยฟัง เพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน แค่อาจจะไม่เท่าทิชา “6แสนเลยเหรอ ทำไมแพงแบบนั้นหละ เอาที่ฉันไหมฉันมี2แสน เงินเก็บฉันเอง” ฉันน้ำตาแทบไหลซึ้งใจเพื่อนรัก เงินเก็บตัวเองยังจะกล้าให้ฉันอีก “ไม่ต้องหรอกพริ้ม ฉันหาวิธีเอง น้ำใจแกฉันรับไว้ ขอบใจแกมาก” ต่อให้เอาเงินพริ้มมา แต่แค่2แสนก็ไม่พออยู่ดี และอีกอย่างถ้าพ่อแม่เขารู้ จะโดนว่าเอาได้ แค่พวกเราฐานะต่างกันก็โดนมองติดลบอยู่แล้ว “ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยแกก็บอกนะ เราเพื่อนกัน” พริ้มจับมือฉันเพื่อให้กำลังใจ “อื้ม ไว้มีอะไรเดี๋ยวบอก” ฉันยิ้มกว้างให้เพื่อน “เออพริ้ม พรุ่งนี้ผู้ปกครองแกมาป่ะ ” ทิชาทำตาโตเมื่อคิดอะไรดีๆออก “เฮียฉันจะมา ส่วนม๊ากับป๊างานยุ่งมากมาไม่ได้ แต่เฮียไม่ยุ่งเพราะอยู่ปี4แล้วกำลังทำโปรเจคจบ” พริ้มอธิบายให้ฉันกับทิชาฟัง “ว้าวแกมีพี่ชายด้วยเหรอ หล่อป่าว” ทิชาทำหน้าสนอกสนใจ “ทิชา” จนฉันต้องเอ็ดเบาๆ “หล่อมาก เฮียฉันหล่อมากๆและโสดนะ สนป่าว” “สนๆ” ทิชารีบตอบทันควัน “ทิชา” จนฉันต้องเอ็ดเบาๆอีกรอบ จนทิชาหน้าเจื่อนลง “คือฉันแค่อยากจะให้พี่ชายแกเซ็นเป็นผู้ปกครองให้ฉันกับเกลหน่อยอะ” ทิชาโดนฉันเอ็ดไปสองครั้ง จึงเริ่มหาสาระได้บ้าง “ได้เลยไม่มีปัญหา เฮียฉันทั้งหล่อและใจดี” คงหล่อมากแหละ พริ้มพลอยถึงได้ชมเอาเป็นเอาตายขนาดนี้ แต่ก็นะพริ้มพลอยก็สวย “อะ ฉันให้ เอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปดูแลแม่” พริ้มพลอยยัดเงินสดใส่มือให้ฉัน5000 “เฮ้ยพริ้ม!!!ไม่เอา” ฉันรีบยื่นคืนให้พริ้ม “รับไปแก ถือว่าฉันช่วยคุณแม่ ฉันไม่ได้ช่วยแกซักหน่อย” พริ้มจับทับมือฉัน ที่กำลังจับเงินไว้อยู่ “แต่/เอาเถอะเกล ถ้าแกมีเมื่อไหร่ แกค่อยคืนพริ้มก็ได้ แกก็จำเป็นต้องใช้เงินจริงๆหนิ” ทิชาพูดขึ้น ฉันรับเงินพริ้มมาด้วยความไม่สบายใจ ขืนพ่อแม่พี่ชายเขารู้ จะหาว่าฉันคบกับลูกสาวเขาเพื่อหวังปอกลอกรึเปล่านะ “ขอบใจแกมากนะพริ้มไว้มีเมื่อไหร่ ฉันจะรีบคืนแกทันทีเลย” ถึงฉันจะไม่สบายใจ แต่ฉันก็ซึ้งใจพริ้มมากๆ “อย่าคิดมากนะ บ้านฉันรวยฉันอยากช่วย เดี๋ยวฉันจะลองขอยืมจากป๊าให้เอาไหม” “ขอบใจแกอีกครั้งนะพริ้ม แต่ฉันว่าอย่าดีกว่า” ฉันไม่อยากให้ครอบครัวพริ้ม มองว่าฉันคบเพื่อปอกลอก ลองใช้วิธีของตัวเองก่อน ถ้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที “เลิกขอบใจฉันได้แล้ว” พริ้มพูดพร้อมตบไหล่ฉันเบาๆ “ว้าย ว้าย ว๊าย ฉันว่าแล้วไม่มีผิด ว่าสองคนนี้เข้าหาพริ้มพลอยเพราะเงินจริงๆ” อริสาลูกสาวเจ้าของปั๊มน้ำมัน ที่มีหลายสาขาทั่วประเทศ ยืนกอดอกเบ้ปากมองมาที่ฉันกับทิชา ด้วยสายตาดูถูก กับเพื่อนอีก2คนที่รวยไม่แพ้กัน คือเซน่ากับมารีน “พูดอะไรอะริสา เกลกับทิชาไม่ได้เป็นแบบนั้นซักหน่อย ” พริ้มลุกขึ้นยืนแล้วแก้ต่างแทนพวกเรา “นี่พริ้ม เธอยังดูพวกมันสองคนไม่ออกอีกเหรอ จนขนาดนี้พวกมันจะมาคบกับเธอทำไม ถ้าพวกมันไม่หวังเงินจากเธอ” มารีนก็ไม่ต่างกัน พูดแล้วมองมาที่ฉันด้วยสายตาเหยียดหยาม “แม่เกลป่วย พวกแกอย่าซ้ำเติมเกลได้ไหม” ทิชาลุกขึ้นยืนกำหมัดแน่น “ช่างเถอะทิชา อย่าทะเลาะกับคนที่ทำตัวสูงส่ง แต่จิตใจต่ำต้อยเลย มันไม่มีประโยชน์หรอก” ฉันรีบห้ามเพื่อน แต่ก็ไม่ลืมแขวะ3ตัวนี้ “มึงว่าใครต่ำต้อยอีเกล” อริสากำหมัดแน่น มองหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง “ไม่ได้ว่าใคร ใครอยากรับก็รับ” ทิชาพูดขึ้น “แต่พวกเธอว่าเกลกับทิชาก่อนนะ ” พริ้มช่วยเถียง “พริ้มพวกนี้มันจน ฉันบอกให้เธอมาเข้าแก็งค์ด้วย ทำไมไม่มา เธอจะคบกับเพื่อนจนๆ ให้พวกมันปอกลอกไปถึงไหน” ริสาถามพริ้มพลอยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “จนแล้วไงวะ จนแล้วไม่ใช่คนรึไง ตบปากซักทีดีไหม” ทิชาเลิกแขนเสื้อขึ้น พร้อมเตรียมเดินไปหากลุ่มของริสา “ทิชาพอ เราเป็นเด็กทุน ถ้ามีเรื่องทะเลาะวิวาทเดี๋ยวโดนถอดทุน มันไม่คุ้มหรอก” ฉันรีบห้ามเพื่อนเอาไว้ เพราะพวกคนรวยถ้าไม่พอใจอะไร ก็มักจะใช้เงินตัดสินปัญหา ถ้าขืนมีเรื่องตบตีขึ้นมา พวกฉันอาจกระเด็นได้ง่ายๆ “หึ รู้ตัวก็ดี หัดเจียมตัวเองซะบ้าง” พูดจบ ทั้งสามคนก็เดินสะบัดหน้าออกไป “หึย!!!ถ้าไม่ติดคำว่าทุนนะ จะเอาแม่งให้เลือดกลบปากเลยคอยดู” ทิชาพูดอย่างเหลืออด “ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องรวยจนกับพวกแกเลยนะ ทิชาเกล” พริ้มพูดกับพวกเราเพื่อปลอบใจ “อืม พวกเรารู้ ขอบใจนะ” “เฮ้อ!!ขอบใจอีกแล้ว เลิกพูดคำนี้ซะที เราเพื่อนกันอย่าพูดคำนี้ เพื่อให้ฉันดูเป็นผู้มีพระคุณมากจะได้ไหม” พริ้มขมวดคิ้ว “โอเคไม่พูดแล้ว” พริ้มยิ้มกว้างอย่างพอใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม