4 ตบกูเหรอ เด็กบ้า

1485 คำ
“กูกลับละ” ไอ้ไดจิกระดกหมดแก้ว ก่อนเดินออกไป ทิ้งผมกับไอ้ปกป้องนั่งดื่มสองคนจนดึก “พรุ่งนี้มึงไปหากูที่คอนโดละกัน” เกือบเที่ยงคืนแล้ว กว่าที่ผมกับไอ้ปกป้องจะแยกกัน “เค เจอกันพรุ่งนี้” ผมขับรถกลับมาที่คอนโด ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแล้วผลอยหลับไป เช้าที่โรงเรียนมัธยมอัลเกร “พริ้มพลอยทางนี้” หลังจากที่ฉันตื่นแต่เช้ามาป้อนข้าวแม่ ฉันก็รีบกลับไปที่ร้านเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและมาโรงเรียน “ไปดูทางนั้นดีไหม ของขายเยอะแยะเลย” พริ้มชวนฉันกับทิชา พวกเราตื่นตาตื่นใจกันมาก วันนี้มีของกินของใช้มาตั้งขายในโรงเรียน เยอะแยะเต็มไปหมด พวกเราเดินเล่นกันจนเหนื่อย ก่อนจะถึงเวลาที่ต้องพาผู้ปกครองไปเซ็นชื่อเข้าร่วมกิจกรรม “เฮียแกถึงไหนแล้วพริ้ม ใกล้จะถึงเวลาแล้วนะ” ทิชาดูร้อนรน เพราะลายเซ็นมีผลต่อการพิจารณาทุน “ใกล้แล้ว เดี๋ยวฉันเดินไปรับเฮียที่หน้าโรงเรียน พวกแกรอตรงลงชื่อนี่แหละ” พริ้มรีบเดินสาวเท้าไปทางด้านหน้าโรงเรียน “เฮียทางนี้” ผมรีบหาที่จอดรถ เพราะวันนี้รถผู้ปกครองนักเรียนค่อนข้างเยอะ ที่จอดเลยน้อย ดีที่ยังพอมีที่จอด และไอ้ปกป้องที่จอดรถพร้อมกัน ก็เดินเข้ามาหาผมพอดี ก่อนจะเห็นพริ้มพลอยยืนโบกไม้โบกมือให้ที่หน้าโรงเรียน “ยัยแสบ นี่ปกป้องเพื่อนเฮีย” ดวงตาคูคู่สวยไหวระริก มองหน้าหล่อที่เธอเคยเจอเขาครั้งสุดท้ายตั้งแต่ตอนอยู่ม.4 จนตอนนี้เธออยู่ม.6แล้ว พี่ปกป้องยังหล่อเหมือนเดิม” สวัสดีค่ะพี่ปกป้อง ” พริ้มพลอยยกมือไหว้เพื่อนผม แต่สายตาที่น้องผมมองมัน เหมือนวันนั้นที่หน้ามหาลัย ผมเหลือบมองเพื่อนผมเพียวเสี้ยว ก่อนเห็นว่าเพื่อนผมไม่ได้ใส่ใจอะไร “เข้าไปได้แล้ว ไหนว่าจะให้เฮียเซ็นกิจกรรมอะไร ” หน้าของพริ้มพลอยตอนนี้แดงระเรื่อ คงเขินเพื่อนผมนั่นแหละ มันกับผมก็หน้าตาสูสีกันนั่นแหละ แต่ผมหล่อกว่านิดหน่อย “ปะ ไปสิคะ” ผมได้แต่ส่ายหัว แล้วเดินตามน้องเข้าไปในโรงเรียน ร้านค้าร้านขายเต็มโรงเรียน ทั้งผู้ปกครองและนักเรียนเดินกันขวักไขว่ แต่ก็ยังมีที่ให้นั่งตรงหน้าลานกิจกรรม “เดินเร็วๆสิคะเฮีย เพื่อนหนูรอนานแแล้วนะ” พริ้มพลอยดึงแขนผมให้เร็วขึ้นไปอีก “เกล ทิชานี่เฮียภูมิพี่ชายฉัน แล้วก็นี่พี่ปกป้องเพื่อนเฮียภูมิอีกที” สิ้นเสียงเรียกของพริ้มพลอย ฉันกับทิชาที่กำลังยืนกินไอติมกันอยู่ ก็รีบหันหน้ามามอง ทั้งที่ปากยังกินไอติมอยู่ ก่อนจะพบเข้ากับตาคู่คมดุที่ฉันเคยเจอมาแล้ววันก่อน ตุ๊บ!!! ถ้วยไอติมที่เคยถืออยู่ในมือ หล่นลงพื้นดังตุ๊บ ตอนนี้ฉันทำหน้าและตัวไม่ถูก ราวกับว่าทุกอย่างบนโลกกำลังหยุดหมุน หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ มือน้อยๆเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ตามกรอบหน้าสวยมีเหงื่อซึมออก ใบหน้าสวยใสกำลังเห่อร้อน ทั้งที่เมื่อครู่บรรยากาศกำลังดีและเย็นสบาย เมื่อเพื่อนอย่างพริ้มพลอยแนะนำพี่ชายให้พวกฉันรู้จัก เขาคือคนที่ฉัน ไปขอเป็นเด็กเลี้ยงเมื่อวันก่อน “เกล” เมื่อทิชาใช้ไหล่กระแทกฉัน จากทางด้านหลังเบาๆ ฉันจึงได้สติและรีบยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะ/สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้และไม่กล้าที่จะสบตา ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้ “สวัสดีครับสาวๆ” เป็นอีกคนที่ชื่อปกป้องกล่าวทักทายพวกฉัน แต่พี่ชายของพริ้มพลอยกลับมองมาที่ฉันอย่างดูถูก ก็คงจะเพราะเรื่องวันก่อนนั่นแหละ เขาคงคิดว่าฉันเป็นเด็กใจแตก ทั้งที่ยังเรียนอยู่แค่ม.ปลาย “เฮียเพื่อนหนูสวยรึเปล่าคะ” พริ้มเขย่าแขนพี่ชายแล้วถาม “เหอะ!!!” เสียงแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ บวกกับสายตาที่ส่งมา ทำให้ฉันแทบไม่อยากยืนตรงนี้ “สวยครับ สวยน่ารักทั้งคู่เลย” พอได้ยินพี่ปกป้องพูด ฉันก็ยิ้มเจื่อนๆส่งไปให้ และเหลือบมองหน้าคมดุของเขา ก่อนจะพบว่าเขาก็ยังจ้องฉันอยู่ “สวยแต่นิสัยไม่ดี เราก็ไม่ควรคบนะครับ” คำพูดแรกที่ออกจากปากเขา ว่าฉันเต็มๆ “เฮียพูดอะไรอะ นี่เพื่อนหนูนะ” พริ้มพลอยก็ดูจะปกป้องฉันเหลือเกิน “เฮียพูดความจริง เพื่อนแบบนี้เลิกคบได้ก็เลิกนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในแววตามีแต่ความดูถูก “เชี้ยภูมิ พูดอะไรให้เกียรติน้องเขาบ้างดิวะ น้องเป็นผู้หญิงนะเว้ย อย่าถือเพื่อนพี่เลยนะครับ วันนี้มันกินยาคงลืมเขย่าขวด” เป็นพี่ปกป้องที่ออกรับแทน “ไม่เป็นไรค่ะหนูไม่ถือ พริ้มฉันไปเดินทางเล่นทางนั้นนะ ไม่ต้องให้พี่ชายแกเซ็นเป็นผู้ปกครองให้เราสองคนก็ได้” ฉันพูดพร้อมหันหลังให้ ก้อนจุกมันอยู่ที่คอ โดนผู้ชายตรงหน้าต่อว่าจนไม่เหลือชิ้นดี “เดี๋ยวเกล” พริ้มพลอยคว้าแขนฉันเอาไว้ “มารยา” สองมือล้วงกระเป๋า ปากหนาพ่นแต่คำหยาบคาย จนฉันต้องกำหมัดแน่น แต่คนพูดให้คนอื่นเอาแต่เฉยชาไม่สนใจ “เฮีย!!!เฮียเป็นอะไรกับเพื่อนหนูเนี้ย ถ้าเฮียพูดแบบนี้อีกหนูจะโกรธแล้วนะ” พริ้มมพลอยตะคอกใส่หน้าพี่ชายอย่างดัง แต่คนที่ยืนหันหลังน้ำตามันไหลไปแล้ว สองขาเรียวรีบสาวเท้าเดินออกไป ก่อนจะปล่อยโฮเมื่อลับตาคน “ฮึก ฮึก ฮือ ฮือ แม่จ๋า ทำไมชีวิตเราต้องเป็นแบบนี้” ฉันอยู่กับตัวเอง และปล่อยให้น้ำตามันรินไหล “เดี๋ยวพี่เซ็นให้ก็ได้ครับ” หลังจากที่เด็กนั่นเดินหันหลังออกไปแล้ว ไอ้ปกป้องก็อาสาเป็นคนเซ็น ส่วนผมเซ็นแค่ของน้องผมคนเดียว ก่อนที่ผมจะแยกตัวไปเข้าห้องน้ำ ตึก ตึก ตึก “พี่คะ พี่เป็นพี่ชายของพริ้มพลอยใช่ไหมคะ” แต่ยังไม่ทันจะเดินถึงห้องน้ำ ก็มีกลุ่มนักเรียน3คนเดินมาขวางผมไว้ “ใช่ มีอะไร” ผมถามเสียงเรียบ มองกลุ่มนักเรียนม.ปลายตรงหน้า ที่มีแต่ของแบรนด์เนมทั้งตัว “คือหนูจะเตือนพี่เรื่องพริ้มพลอยค่ะ” พอได้ยินว่าเป็นเรื่องน้องสาวผม ผมจึงยืนนิ่งรอฟัง “พูดมาสิ” “คือเมื่อวานหนูเห็นพริ้มพลอยเอาเงินให้เกลค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเท่าไร เพราะหนูเห็นไม่ชัด แต่เห็นว่าเป็นแบงค์พันหลายใบ เกลกับทิชาเป็นเด็กทุนบ้านจน หนูกลัวพริ้มพลอยจะถูกสองคนนั้นหลอก เลยมาบอกพี่ พวกหนูขอตัวนะคะ” และกลุ่มนักเรียนก็เดินออกไป “เอาเงินให้เหรอ นี่มันมิจฉาชีพชัดๆ“ ผมเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างหัวเสีย หน้าตาก็ดีทำตัวต่ำต้อยจังวะ ผมรีบเดินไปเข้าห้องน้ำ และพอออกมาก็เห็นเด็กนั่นเดินออกมาจากห้องน้ำอีกฝั่ง หน้าแดงจมูกแดงเหมือนผ่านการร้องไห้มา “แสดงได้เก่งดีหนิ ทำยังไงหละน้องฉันถึงได้ให้เงินเธอ แต่ก็พอเข้าใจนะ เด็กขาดความอบอุ่น ก็ต้องดิ้นรนให้มีเหมือนคนอื่น แต่ก็พึงคิดด้วยว่า ไม่ใช่จากคนที่รักและไว้ใจเธอ อย่างพริ้มพลอยน้องสาวฉัน” ฉันยืนกำหมัดแน่น ไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะหยาบคายได้ขนาดนี้ “ถ้าไม่รู้จักคนอื่นก็ไม่ต้องมาพูด” ฉันตะคอกเสียงดังใส่หน้าเขา “ฉันคงไม่อยากรู้จักหรอก สกปรกๆเร่ขายไปทั่วอย่างเธอ โคตรน่ารังเกียจเลยหวะ” เพี๊ยะ ฝ่ามือเล็กฟาดไปบนหน้าของเขาอย่างเต็มแรง จนหน้าเขาหันไปตามแรงตบ พร้อมหันกลับมาแล้วใช้ลิ้นดันที่กระพุ้งแก้ม หน้าหล่อในยามนี้มีแววตาโกรธจัด จนคนที่ตบมีสีหน้าเจื่อนลง “ตบกูเหรอ เด็กบ้า” เขาจับแขนเธอแน่น แล้วบีบที่ข้อมืออย่างแรง จนเกวลินหน้าเบ้ เพราะเขาบีบเธอแรงมาก “ขอโทษกูเดี๋ยวนี้ ถ้ามึงไม่ขอโทษ อย่าหวังว่ากูจะปล่อย” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าตบเขาแบบนี้ ภูภูมิโกรธจนเลือดขึ้นหน้า มองสาวน้อยตรงหน้าตัวเล็กเท่ามด อยากจะขยี้เธอให้แหลกคามือตรงนี้ด้วยซ้ำ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม