อาราดาชะลอฝีเท้าเพื่อจะเดินไล่หลังชายหนุ่มไป เธอลอบถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เดินตามหลังเขาเข้าไปในออฟฟิศอย่างเงียบเชียบ กระทั่งถึงหน้าห้องทำงานนั่นละ เขาหันกลับมา
“คราวหน้าคราวหลัง อย่ารีบจนลืมใส่รองเท้ามาล่ะ”หญิงสาวอ้าปากค้าง ก้มลงมองสองเท้าของตนเองด้วยตกใจ ก่อนจะถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย ชายหนุ่มยังคงมองยิ้มๆ
“ขอกาแฟถ้วยสิเลขา”
ประตูปิดลง เลขาจอมเปิ่นทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ เธอยกสองมือขึ้นกุมขมับ เดินไปบริเวณหลังโต๊ะทำงานของตัวเอง โก้งโค้งก้มลงหยิบรองเท้าแตะคู่ใจที่วางอยู่ใต้โต๊ะทำงาน
“ไอ”
เสียงเรียกนั้นทำให้เธอตกใจจนรีบผงกศีรษะขึ้น ผมยาวสลวยยุ่งจนแทบจะมองไม่เห็นหน้าของหญิงสาวเลย ชายหนุ่มถึงกับหัวเราะออกมาจนหน้าแดงก่ำ อาราดาขมวดคิ้วมุ่น รีบจัดแต่งทรงผมให้พอจะดูได้
“มีอะไรคะ”
“เปล่าหรอก แค่จะเปลี่ยนจากกาแฟเป็นชา ช้าร้อนๆนะ”เขากระดกคิ้ว ทำหน้าทะเล้น หันหลังให้แล้วเข้าห้องทำงานไปอีกครั้ง หญิงสาวเม้มปากแน่น มองประตูห้องด้วยความเคือง
“ชอบทำให้ตกใจอยู่เรื่อย”
อาราดาเดินด้วยความกระฉับกระเฉง เข้าไปในห้องครัวเล็กๆของออฟฟิศ เพื่อจัดการปรุงชาร้อนให้แก่เจ้านาย จากนั้นก็รีบเดินกลับ นำเข้าไปเสิร์ฟในห้องทำงานอันกว้างขวางและสะดวกสบายทันที เธอวางถ้วยกระเบื้องเคลือบมุกลงบนโต๊ะอย่างพิถีพิถัน เมื่อจะเดินกลับ เจ้านายของเธอกลับเรียกเอาไว้อีก อาราดาเคยคิดว่าถ้าวันไหนที่เธออารมณ์ดี เธอจะลองนับว่าเขาเรียกเธอวันละกี่ครั้ง
“ไอ”
เจ้าของชื่อหันกลับมา ยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนเช่นทุกวัน
“คะ เจ้านาย มีอะไรหรือคะ”
เขาเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาคมดำนั้นราวกับขบคิดอย่างหนัก
“คืนนี้ว่างไหม”
เธอขมวดคิ้ว มองชายหนุ่มตรงหน้าแบบตรงๆอย่างไม่ขัดเขิน ข้อที่เขาสนใจเธอนั้น ก็พอจะรู้อยู่หรอก แต่เขาก็ไม่เคยแสดงออกอย่างจริงจังสักทีสิน่า
“จะนัดเจอกับลูกค้าหรือคะ”
“เปล่าหรอก ก็แค่...”เขาอึกอักเหมือนคนพูดไม่เป็น
“มีอะไรหรือคะ”
เพราะถ้าหากว่าเป็นเรื่องงานแล้ว เธอทุ่มสุดตัว ด้วยข้อนั้นเจ้านายของเธอก็รู้กระจ่างใจเช่นกัน หากเพียงแค่อยากจะชวนหญิงสาวไปร่วมสังสรรค์กับเพื่อนฝูงสนิทของเขาในคืนนี้ เพื่อเป็นการประกาศกรายๆว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เขาสนใจอยู่ แต่เขาก็ทำไม่ได้ วิศรุตกลับมาแล้ว เขาเคยประกาศว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้อย่างเด็ดขาด ถ้าหมอนั่นเห็นเธอ ในฐานะเลขาของเขา
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ลองถามดูน่ะ”
“คุณฐามีอะไรจะใช้ไอรึเปล่าคะ ไม่ต้องเกรงใจนะคะ ไอเป็นลูกน้อง เป็นเลขา ยังไงก็ยินดีจะรับใช้เจ้านายจนสุดความสามารถอยู่แล้วค่ะ”
นั่นสิ เขารอโอกาสนี้มาหลายเดือนแล้ว เขาแน่ใจแล้วว่าไม่สามารถรักผู้หญิงคนไหนได้เลย นอกจากเลขาหน้าห้องที่แสนน่ารักและน่าสงสารคนนี้ เขาตั้งใจจะสารภาพรักกับเธอในคืนนี้ ในวันเกิดของเธอ
“ไม่หรอก”เขาโบกมือปัด อย่างไรเสีย โอกาสที่เพื่อนทั้งห้าคนจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งนั้น มันยากที่จะปฏิเสธ”ไปชงกาแฟมาให้หน่อยสิ รู้สึกง่วงยังไงก็ไม่รู้”
พฤติกรรมแปลกๆของเจ้านาย ทำเอาเลขางง
“ค่ะ รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวไอจะชงกาแฟมาให้ค่ะ”
เธอหันหลัง แต่เขากลับเรียกไว้อีก
“ไอ”
“คะเจ้านาย”
เขารู้ว่าเจ้าหล่อนเริ่มรำคาญแล้ว แต่เขาก็ยังพยายามยิ้มให้เป็นปกติ ทั้งที่ใบหน้านั้นแดงก่ำขึ้นมาเหมือนคนอาบแดดมาทั้งวัน
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ”
ชายหนุ่มส่งสายตาเล็กน้อย หญิงสาวยิ้มแล้วกล่าวคำขอบคุณ เธอเดินอารมณ์ดีออกมาจากห้องทำงานของเจ้านาย จนสาวๆทั้งออฟฟิศพากันหันมองแล้วอดวิจารณ์ไม่ได้ เพราะผู้หญิงโสดทุกคนในบริษัทนี้อยากจะได้เจ้านายเป็นสามีกันทั้งนั้น แต่มีเพียงคนเดียวที่เจ้านายของพวกเธอมองไม่เคยวางตา
“ทำไมอารมณ์ดีจังหายัยไอ เจ้านายให้อะไรเธอเป็นของขวัญวันเกิดเหรอ” กชกรก็เป็นหนึ่งในนั้น เธออยู่ฝ่ายการตลาด เป็นคนสวยมากคนหนึ่ง แต่ฐากูรก็ไม่เคยชาตามามอง เจ้าหล่อนยังตามมาพิรี้พิไรถามถึงในครัว ขณะอาราดากำลังชงกาแฟสูตรถูกปากของเจ้านาย
“เปล่านี่”
“โกหก”
“ไม่ได้โกหก ฉันพูดจริงนะ ไม่มีอะไรจริงๆ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตอบมาสิ ว่าทำไมถึงอารมณ์ดีขนาดนี้”
หญิงสาวหยุดคนกาแฟในถ้วย กลิ่นกาแฟดำโชยกรุ่นเป็นไอหอมฟุ้ง เธอสูดกลิ่นหอมนั้นอย่างหลงเสน่ห์ พลันก็นึกไปถึงกาแฟอีกสูตรที่เธอชงบ่อยตอนอยู่ที่บ้านมหรรณพ เธอยิ้มบางๆ
“เพราะวันนี้วันเกิดฉันไงล่ะก้อย ฉันก็เลยตั้งใจจะยิ้ม หัวเราะ แล้วก็อารมณ์ดีทั้งวันเลย”
กรชรทำหน้าเซ็ง
“ผู้หญิงเรา วันเกิดมาเยือนทีไร ก็แก่ขึ้นอีกปี ความฮอตมันก็ลดลงเรื่อยๆ ฟงแฟนก็ยังไม่มีกะเขา”
อาราดาหัวเราะคิก ส่ายหน้าน้อยๆ
“ผู้หญิงสวยอย่างเธอ โสดได้ไม่นานหรอก”
“แล้วเธอละไอ ไม่คิดจะมีแฟนบ้างรึไง ตั้งแต่ที่ฉันรู้จักเธอมาสี่ปี ฉันยังไม่เคยเห็นเธอมีแฟนเลยนะ เธอไม่เคยถูกใจใคร หรือหลงรักใครบ้างเลยรึไง”
ถึงคำถามนี้ อยู่ๆคนอารมณ์ดีก็เงียบกริบ หากเพียงชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น เธอก็ยิ้มได้อีกครั้ง แล้วก็ตอบไปด้วยความมั่นใจ
“ฉันมีหัวใจเอาไว้รักตัวเองเท่านั้นย่ะ”