“ทำอะไรดาว จะเก็บของพี่ไปไหน” ไฮโซหนุ่มมุ่นคิ้วขณะก้าวผ่านห้องนั่งเล่น บรรยากาศรอบข้างนิ่งสนิทจนได้ยินเสียงพลิ้วไหวจากใบไม้นอกหน้าต่าง ตรีศูลรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถูกเพราะโกหกหน้าตาย แต่การที่อิงดาวลงไม้ลงมือด้วยเพลิงโทสะ ก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อทะเลาะกับบิดาเสร็จ ชายหนุ่มวนรถกลับไปโรงพยาบาลอีกรอบ ทว่าไม่พบหญิงสาวเสียแล้ว พยาบาลให้ข้อมูลว่าเธอขอแพทย์กลับหลังอาการผวาดีขึ้น พอได้ฟังเช่นนั้นชายหนุ่มจึงรีบติดต่อหานิดน้อยแล้วได้รับคำตอบว่าเธออยู่บ้านพร้อมพ่อและแม่ที่ขับรถมาสมทบจากต่างจังหวัด
“พี่ตรีไปนอนห้องนอนแขกนะคะ” เสียงเรียบนิ่งกล่าวโดยไม่สบตาเขาแม้แต่เสี้ยวนาที มือแกร่งจึงแย่งตะกร้าผ้า ก่อนกระแทกมันลงกับพื้น พายุอารมณ์คุกรุ่นตั้งแต่ช่วงบ่ายหวนกลับคืน เพราะปวดหัวกับท่าทีประชดประชันของเมีย
“อย่าเอาแต่ใจได้ไหมดาว พี่รู้ดาวโกรธที่ตัวเองโดนทำร้าย แต่ฝันเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด” ตรีศูลกระชากเรียวแขนขาว กำแน่นแทบแหลกละเอียด อิงดาวหัวเราะทั้งน้ำตา เธอทวนถามเสียงสั่นระริก
“มะ…ไม่ได้ผิด” ดวงตาแดงช้ำฉ่ำน้ำจ้องหน้าผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี “เรื่องมาถึงขนาดนี้ พี่ยังจะโทษดาวอีกเหรอคะ ถามจริงพี่เป็นสุภาพบุรุษอยู่อีกหรือเปล่า ถ้ายอมรับว่าตัวเองโกหกไม่ได้ ก็เอากระโปรงมาใส่เหอะพี่ตรี”
ความสัมพันธ์หลอกลวงถูกแฉเสียหมดเปลือก เขายังโบ้ยความผิดให้เธอแบบหน้าไม่อาย
“อิงดาว!” ตรีศูลเรียกชื่อเธอเสียงดัง “รู้ไหมทำไมพี่ถึงไม่บอก เพราะดาวไม่เคยไว้ใจพี่ ทั้งที่พี่พูดเป็นพัน ๆ รอบว่า ระหว่างพี่กับฝันไม่มีอะไรเลย ดาวคิดเอง หึงไปเอง”
“แล้วพี่ทำตัวให้น่าไว้ใจมากเหรอคะ ดาวพูดตรงๆ เลยนะ ถึงเรื่องพี่กับผู้หญิงคนนั้นมันจะจบไปแล้ว แต่พี่ก็ไม่ควรโกหกดาวตั้งแต่แรก ถ้าพี่ไม่เห็นแก่ตัวคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองบ้าง พี่จะไม่พูดคำนี้กับดาว”
“…”
“ในขณะที่พี่ร้องขอความไว้ใจจากคนอื่น พี่ลองถามตัวเองดูว่าพี่เชื่อใจดาวแค่ไหน แต่ดาวนี่สิ ดาวโง่เพราะเชื่อพี่จนวินาทีสุดท้าย... แต่ตอนนี้ดาวรู้แล้วว่าดาวไม่ควรเชื่ออะไรพี่เลย” อิงดาวเหลือบมองแหวนบนนิ้ว จากนั้นก็ค่อยถอดมันช้าๆ ช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดคือช่วงเวลาที่รู้สึกเป็นอิสระที่สุดเช่นกัน เธอเจ็บ ทว่าต่อจากนี้จะไม่มีพันธนาการใดๆ มาทำร้ายตนเองได้อีก
ถ้าสถานะสามีภรรยาทำให้เราต้องใส่หน้ากากหากันเช่นนี้ อิงดาวไม่ต้องการมันอีกต่อไป ผู้ชายที่น่ารังเกียจไม่เพียงแค่โหวกเหวกโวยวาย ทำร้ายร่างกายแต่คือคนที่ปากบอกว่ารัก ทว่าลับหลังกลับพร้อมทรยศหักหลัง แล้วปั้นหน้าใสซื่อบริสุทธิ์
ทีแรกอิงดาวพร้อมให้อภัยหากตรีศูลร้องขอโอกาส เธอยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อประคองครอบครัวของเราเอาไว้ หญิงสาวถอยจนวินาทีสุดท้าย... ถอยจนไม่เหลือศักดิ์ศรีของความเป็นคน
“คำว่ารักของดาว ดาวขอมันคืนนะคะ” ซอกลึกของใจดวงน้อยแผดเสียงร่ำไห้ ทว่าริมฝีปากเธอยังยิ้มอยู่ อิงดาวสลัดแขนออกจากมือที่เคยประคองกอดเธอไม่รู้ต่อกี่ครั้ง จากนั้นจึงวางแหวนกลับคืนในอุ้งมือเขา
“เราเลิกกันเถอะค่ะพี่ตรี หลังจากนี้ดาวขอเป็นแค่แม่ของลูกพี่เท่านั้น”
“แน่ใจแล้วใช่ไหมที่พูดกับพี่แบบนี้ ดาวไม่ได้บอกเลิกพี่เพราะอารมณ์”
“ค่ะ เราจบกันแค่นี้เถอะ” สุดท้ายคนที่เธอคิดว่ารักตัวเองนักหนาก็พยักหน้าตกลงแต่โดยดี ตรีศูลไม่แม้แต่จะเอ่ยปากขอโทษสักคำ เขากำแหวนวงนั้นแน่น ก่อนหมุนกายจากไปทันที หลังประตูบานนั้นปิดลงอิงดาวทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง
ริมฝีปากซีดสั่นปล่อยเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้น จบแล้วความรักที่เคยหวานชื่น เหลือเพียงไออุ่นจางๆ หอบความเจ็บช้ำและภาพฝันวันเก่าคืนสู่หัวใจที่ท้อแท้สิ้นหวัง หลังจากนี้เธอตั้งใจเคียงข้างตรีศูลในฐานะ ‘แม่ของลูก’ ไม่ใช่ ‘คนรัก’ อีกต่อไป…
นัยน์ตาคมเข้มฉาบแววอ่อนไหวไม่ต่างจากบทเพลงรักเพราะพริ้งในบาร์แห่งนี้ นักดนตรีรูปหล่อขับกล่อมแซกโซโฟนสร้างความสำราญให้คนรอบข้าง บ้างก็ต้องการลืมเลือนปัญหาหนักอึ้งที่พบพาน ทว่าบางรายกลับไม่สามารถปล่อยวางความรู้สึกเหล่านั้นไว้กับแก้วเหล้าได้เลย
ตรีศูลเองก็เป็นหนึ่งในนั้น…
เขาขับรถไปจอดที่สวนสาธารณะ เฝ้ามองแม่น้ำ ผู้คนและความว่างเปล่ายามรัตติกาลเกือบครึ่งชั่วโมง คนถูกบอกเลิกว้าวุ่น คิดถึงหน้าลูกกับเมียที่บ้านปานจะขาดใจ แต่จะให้ยอมรับได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ทบทวนเหตุการณ์ในห้องสี่เหลี่ยมก็ไม่อาจสลัดคำพูดพวกนั้นหลุดสักที สุดท้ายคนทะนงในศักดิ์ศรีก็คลี่ยิ้มหยันหลอกตนเอง
…อิงดาวน่ะหรือจะบอกเลิกจริงๆ ไม่มีทางเสียหรอก
เธอรักเขาจะตาย ดังนั้นไม่มีวันใจแข็งตัดสายสัมพันธ์ แล้วทนเห็นเราทั้งคู่กลายเป็นคนแปลกหน้าได้ตลอดชีวิต หลายปีที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไม่ได้มีแค่สุข แต่ทุกข์เราก็ฝ่าฟันกันมาแล้ว สุดท้ายพอสับสนหาทางออกไม่เจอ ชายหนุ่มจึงเร่งโทร. หาเพื่อนสนิทนัดไปเจอที่บาร์ประจำแถวสาทร
ผ่านไปเกือบชั่วโมงวิทยาก็ปรากฏตัว…
“เป็นห่าอะไรของมึง” เจ้าของฉายาปากหมาหน้าหล่อยกแอลกอฮอล์บนโต๊ะกระดกรวดเดียว เขาทรุดกายนั่งตรงข้ามคนมีปัญหาหัวใจ
“เรียกกูมาเวลานี้ ไม่คิดว่ากูจะยุ่งบ้างหรือไง”
“อย่างมึงถ้าจะยุ่งก็ยุ่งอย่างเดียวคือหมกมุ่นเรื่องบนเตียง มาดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อย เหงาว่ะ”
“มึงเนี่ยนะเหงา ทำไม เมียไม่รักเหรอวะ”
คำว่าเมียไม่รักแทงใจคนฟังอย่างจัง ตรีศูลซึมเหมือนหมาถูกเจ้าของทิ้ง แววตาแข็งกระด้างเจือความเศร้าจนเพื่อนสนิทหุบปากฉับ พลางคิดในใจว่าไม่น่าเลยกู
“เฮ้ย กูหยอก ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง ทำไมวะ มึงมีปัญหาอะไรกัน” วิทยาหันมาซักไซ้ต่อ
“ดาวเขาทะเลาะกับฝัน ทีนี้กูเข้าข้างฝัน ดาวเลยโมโห” ตรีศูลจึงอธิบายเหตุการณ์วันนั้นทีละฉาก ส่วนวิทยาฟังถึงกับตบเขาฉาด อยากหยุมหัวสั่งสอนเพื่อนเสียจริงๆ
“สมควร มึงก็บ้าเนอะ เอาเมียใหม่กับรักเก่ามาเจอกัน คนดีที่ไหนเขาทำวะ ถ้าคุณดาวเคยมีผัวเก่า แล้วเขาพาผัวเก่ามาเจอมึงบ้าง มึงจะรับได้เหรอ”
“ตบปาก ดาวมีกูเป็นผัวคนเดียว” คำถามจากเพื่อนทำเอาตรีศูลนิ่วหน้าเคร่งเครียด เขาเกลียดถ้อยคำที่วิทยาเปรียบเทียบฉิบหาย แต่ปฏิเสธไม่ได้ ถ้าเป็นตนเองคงฉุนไม่ต่างจากเธอ
“เดี๋ยวก็กลายเป็นอดีตผัวแล้ว ถ้ามึงไม่แก้สันดานตัวเอง” เสียงแหบห้าวเหมือนน้ำเย็นสาดหน้า วิทยาไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่เพราะหวังดีนี่แหละเขาถึงอยากให้มันสำนึก วิทยาต้องการให้ตรีศูลคิดในมุมกลับกัน ถ้าชายหนุ่มเจอเหตุการณ์เช่นนี้บ้าง มันคงหัวฟัดหัวเหวี่ยง อาละวาดเป็นหมาบ้าไปแล้ว
“ไอ้วี กูให้มึงปลอบ ไม่ได้ให้มึงมาซ้ำเติมกู มึงไม่ต้องมาแช่ง กูมั่นใจว่ายังไงดาวไม่มีทางทิ้งกูแน่ๆ”
“เหอะ ถ้ามึงมั่นหน้าจริง มึงคงไม่มานั่งแดกเหล้าย้อมใจแบบนี้หรอก ยอมรับมาเถอะว่าจริงๆ ตัวเองก็กลัวเสียดาวไปเหมือนกัน” น้ำเสียงยียวนเอ่ยอย่างรู้ทัน ตรีศูลจึงตวัดสายตามองเพื่อนคล้ายกำลังกำลังคาดโทษ
“กูไม่ได้กลัว แต่มันไม่ใช่ประเด็นที่เราจะต้องเอามาทะเลาะกัน อีกอย่างดาวแค่งอนไปก็เท่านั้น คงไม่ได้อยากเลิกกับกูจริงหรอก”
“นี่ดาวถึงขั้นบอกเลิกมึงเลยเหรอวะ”
“อืม” เสียงเข้มพึมพำตอบ
“แล้วทำไมมึงไม่ไปง้อ มานั่งทำซากอะไรอยู่ตรงนี้”
“กูแค่รอให้ดาวเย็นลง ตอนนี้ดาวคงโกรธอะไรหลายๆ อย่าง เลยเอาความโกรธทั้งหมดมาลงที่กู มึงก็รู้เรื่องง้องอนไร้สาระแบบนั้น ไม่ใช่นิสัยกูเลยสักนิด”
“ไม่ได้เกี่ยวกับนิสัย แต่มันอยู่ที่ว่ามึงจะยอมลดทิฐิเพื่อรักษาดาวไว้หรือเปล่า ถ้าไม่ กูมั่นใจว่าดาวคงไปจากมึงแน่ๆ” วิทยาวิเคราะห์ตรงไปตรงมา อิงดาวคงทนจนสุดเช่นกัน มิฉะนั้นคงไม่เอ่ยปากขับไล่ไอ้หน้าโง่นี่หรอก
“อย่างดาวเหรอจะไปจากกู ไม่มีทาง”
“อย่ามั่นใจไปเลย เดี๋ยวนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ผู้หญิงส่วนมากยอมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแทนที่จะอยู่กับผู้ชายเฮงซวยนะเว้ย กูจะบอกให้” วิทยาว่าขณะส่ายหน้าไม่เห็นด้วย สมัยก่อนผู้หญิงบางคนอาจจะยอมเก็บงำความชอกช้ำและเดินหน้าต่อเพื่อรักษาครอบครัว แต่ปัจจุบันยุคสมัยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ขนบธรรมเนียมเก่าๆ ที่เชื่อกันมาจึงไม่เหมือนเดิม
“ยุคนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ไม่มีใครจะทนอยู่กับผู้ชายที่วันๆ ดีแต่ทำร้ายจิตใจกันได้นานหรอก มึงเชื่อกู กลับไปง้อเมียตอนนี้ยังไม่สาย”
“กูไม่ได้ผิด มึงจะให้กูง้ออะไร ถ้าเพราะเหตุผลแค่นี้ดาวอยากจะไป กูก็ปล่อยให้ดาวไป แค่ผู้หญิงคนนึงไม่อยู่ กูคงไม่ตายหรอก” ตรีศูลมองผ่านคำเตือนเหล่านั้นด้วยสายตาระอา ริมฝีปากหยักลึกเป็นเส้นตรงไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ ความเครียดขึงถูกระบายด้วยแอลกอฮอล์ในแก้วเหล้า วิทยาเห็นท่าทางเพื่อนสนิทก็ได้แต่ถอนหายใจ แล้วบอกตัวเองให้ปลง
มันคงต้องการแค่เพื่อนดื่มเหล้าไม่ได้อยากฟังคำพูดบ้าๆ บอๆ จากเขา แต่สักวันถ้าย้อนมองกลับมา ตรีศูลจะค้นพบว่าสิ่งที่เขาบอกล้วนเกิดขึ้นจากความหวังดีทั้งสิ้น
สิ่งที่อันตรายที่สุดคือตอนที่เรามั่นใจในตนเอง ยืนหยัดอย่างเข้มแข็งเพราะเชื่อมั่นว่าตัวเองถูกต้องที่สุด ใครเตือนอะไรก็ไม่ฟัง สิ่งเหล่านั้นนั่นแหละจะนำพาหายนะเข้ามาในชีวิต
สุดท้ายค่ำคืนดังกล่าวจบลงที่ไฮโซหนุ่มผู้ทะนงทิ้งตัวลงเมาปลิ้นบนโซฟา ลำบากเพื่อนสนิทต้องหอบคนหมดสภาพไปหลับต่อที่คอนโด ตกดึกวิทยาแทบไม่ได้พัก เพราะเสียงโวยวายในห้องนั่งเล่นร้องหาแต่อิงดาว
ตรีศูลทำเหมือนเข้มแข็ง มาดมั่นเสียเต็มประดา แต่พอเหล้าเข้าปากก็ไร้ซึ่งสติเอาแต่พร่ำเพ้อถึงเมียเหมือนลูกหมาหลงทาง เห็นทีเพื่อนเขาคนนี้คงได้หอนเร็วกว่าที่คิด ถ้าผู้หญิงในฝันทิ้งมันขึ้นมา มีหวังได้น้ำตาเช็ดหัวเข่า วิทยาฟันธง!