บทที่6

1944 คำ
“ไม่จริงเธอโกหก…” “โกหกงั้นเหรอ ฉันจะโกหกเธอทำไม พี่ตรีเขารักฉัน ส่วนเธอก็แค่ตัวสำรอง เธอกินของเหลือที่ฉันคายทิ้งได้ไงตั้งนาน ไม่สงสัยบ้างเลยหรือไง ทำไมเขายังลังเลไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับเธอสักที เพราะเขารอฉัน รอวันที่เราจะกลับมารักกันไง” เหมือนฝันเฉลยความจริงทั้งน้ำตา “เธอรู้ไหมทำไมเขาถึงจีบเธอ” “…” “เพราะฉันไง ฉันเป็นคนบอกให้เขาทำแบบนั้นด้วยตัวฉันเอง” ความเจ็บช้ำในอดีตเหมือนเงาร้ายหลอกหลอนหล่อนทุกทีที่เห็นเขากับผู้หญิงคนใหม่ ดังนั้นใครจะด้อยค่าว่าลดตัวมายุ่งกับผัวชาวบ้าน ไฮโซสาวก็ไม่แคร์ เหมือนฝันต้องการทวงยอดดวงใจคืนจึงยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งวิธีอันน่าสมเพช “หน้าตาเราเหมือนกันจะตายเธอว่าไหม ถึงเธอมีลูกกับเขา แต่ผู้หญิงอย่างเธอก็เป็นได้แค่เงาคนอื่น เธอรู้ไหมวันที่ฉันบินกลับมา เขาเป็นคนไปรับฉันด้วยตัวเองเลยนะ ที่เขาว่าอ้างติดประชุมต่างจังหวัด เขาโกหก ไม่มีสักอย่างที่ผู้ชายคนนี้พูดความจริงกับเธอ” พูดจบหล่อนก็ปรี่กายเข้ามาประจันหน้า มือคู่สวยบีบไหล่บางบังคับให้อิงดาวสบตา “ฉันไม่เชื่อ พี่ตรีเขารักฉัน…” “รักงั้นเหรอ ถ้าเขารักเธอจริง ทำไมต้องโกหกด้วยล่ะ” หยาดน้ำตาเปื้อนหน้างามหลังสิ้นสุดเสียงสั่นระริก อิงดาวหลีกหนีแต่เหมือนฝันกลับไม่ละความพยายาม อะไรที่ต้องการ หล่อนต้องได้มันกลับคืน… “ยอมรับเถอะ เธอแพ้แล้ว” “เธอน่ะสิที่แพ้ เลิกพูดอะไรไร้สาระสักทีฉันไม่เชื่อเธอหรอก คนเดียวที่ฉันจะเชื่อคือพี่ตรีเท่านั้น ไม่ใช่ผู้หญิงที่จ้องจะงาบผัวคนอื่นอย่างเธอ” “ไร้สาระเหรอ งั้นมาพิสูจน์กัน” ท่าทางดื้อด้านเหมือนไม่ยอมรับความจริงไต่ระดับความอดทนของคนปรารถนาชัยชนะพุ่งสุดเพดาน นางมารร้ายถอยเท้าห่างขณะร่างบอบบางยืนแข็งทื่อไม่ต่างกับท่อนไม้ “มาดูว่าสุดท้ายใครจะแน่กว่า” อิงดาวเบิกตากว้างเมื่อศัตรูหัวใจหวีดร้องเสียงดังลั่น เหมือนฝันยกมือตบหน้าตนเองจนคนไม่ทันตั้งตัวรีบสาวเท้าไปห้ามให้อีกฝ่ายสงบสติเลิกคลุ้มคลั่งเสียที ทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากจนพากันกระแทกต้นไม้ แรงขูดขีดทำเอาเรียวแขนขาวถลอก เศษไม้บาดแผ่นหลังจนเลือดซึมเนื้อผ้า นักแสดงเจ้าบทบาทร้องไห้ระงมปานจะขาดใจ ความอ่อนแอของหล่อนทำเอาชายหนุ่มที่ตามมาห้ามทัพเห็นภรรยาตัวเองเป็นนางมารร้ายกระทำสาวน้อยผู้อ่อนแอ “ทำบ้าอะไรน่ะดาว” ชายหนุ่มวิ่งมากระชากแขนเมียก่อนเหวี่ยงเธอจนล้มคะมำบนพื้นดิน หัวเข่าขาวกระแทกก้อนหินนำพาความปวดร้าวจนอิงดาวน้ำตาร่วงเผาะ ความเจ็บปวดทางร่างกายไม่บาดลึกเท่าแผลในจิตใจ จะให้เธอรู้สึกอย่างไรเมื่อชายหนุ่มที่รักหยิบมีดขึ้นมาทิ่มแทงกันผ่านสายตาตัดพ้อ เขาโอบอุ้มหญิงอื่นขณะปรามาสเธออย่างไร้เยื่อใย “ดาวใจร้ายมากรู้ตัวไหม” “พี่ตรี ดาวไม่...” "พี่ไม่คิดเลยนะว่า ดาวที่พี่รู้จักจะเป็นคนร้ายกาจได้ขนาดนี้ ถ้าโกรธก็มาลงที่พี่ไม่ใช่ไปทำร้ายคนอื่น" เสียงเข้มเต็มไปด้วยเพลิงโทสะเช่นเดียวกับดวงตาเขม็งขึง คำประณามจากปากชายคนรักทุบทำลายใจดวงน้อยแหลกเป็นผุยผง เช่นเดียวกับเศษดินที่หลุดลอดเข้ามาตามซอกนิ้ว “พี่คิดว่าดาวทำจริงๆ เหรอคะ” อิงดาวกัดฟันยามประคองตนเองลุกยืนแล้วให้โอกาสด้วยการถามสามีอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มที่ได้รับกลับไม่เห็นค่า “พี่เชื่อในสิ่งที่พี่เห็น แล้วสิ่งที่ดาวทำกับฝันตอนนี้ มันเหมือนผู้หญิงสิ้นคิดมาตบตีแย่งผู้ชาย พี่รู้ฝันเป็นคนยังไง ฝันไม่มีทางทำอะไรแบบนี้แน่...” เขาเชื่อคนอื่นมากกว่าผู้หญิงที่บอกว่ารักนักรักหนา “พี่ตรี...” “พอเถอะพี่ไม่อยากฟัง” กล่าวจบตรีศูลก็หมุนกายทิ้งความเจ็บช้ำไว้ที่เธอคนเดียว คนใจร้ายจากไปราวเมียคนนี้เป็นอากาศธาตุ ไม่มีตัวตน แววตาเจ็บช้ำจดจ้องแผ่นหลังที่เคยซุกซบก่อนทรุดตัวลงกับพื้นอีกครั้งเพราะหมดอาลัย หมดสิ้นความเชื่อใจ จบแล้วชีวิตคู่ที่หอมหวานกลายเป็นเศษรักไร้ค่า น้ำคำจากปากเธอไร้ราคาขนาดนั้นเชียว อิงดาวร่ำไห้ขณะเหลือบมองแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย สุดท้ายคำมั่นสัญญาก็เพียงลมปากผู้ชายไม่รู้จักพอ ดวงตาสับสนมองรอบข้างราวลูกแกะหลงฝูง พอพบว่าไร้ผู้คนอยู่ตรงนี้ ไม่มีใครเคียงข้าง อิงดาวก็ร้องไห้โฮทันที ลมหายใจจุกแน่นเหมือนถูกรัดด้วยเชือกเส้นใหญ่ ไม่ว่าจะฝืนหยัดยืนแค่ไหนก็ไม่สามารถกลับมาแข็งแกร่งได้ดังเดิม “แม่ดาว…” แพขนตาเปียกชุ่มมองไปตามเสียงนางฟ้าตัวน้อย เธอเห็นพิงใจวิ่งเข้ามากอด พร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้แม่ “ใครทำแม่ดาวเจ็บ แม่ดาวเป็นอะไร” เจ้าตัวแสบแผดเสียงร้องจ้าขณะกวาดสายตาสำรวจอิงดาวทุกซอกทุกมุม น้ำตาของลูกร้าวระบมไปถึงหัวใจคนเป็นแม่ “แม่ไม่เป็นไรเลยค่ะ ไม่เป็นไรเลย” อิงดาวกัดริมฝีปากก่อนกอดลูกสาวแน่นกว่าเดิม ใบหน้านิ่มนวลซุกอกมารดาพลางร้องไห้ปานจะขาดใจ “ฮึก... น้องพิงค์ ไม่ชอบให้คุณแม่ร้องไห้ ไม่ชอบให้คุณแม่เป็นอะไรเลย คุณแม่อย่าร้องนะคะ คุณแม่เจ็บน้องพิงค์ก็เจ็บด้วย” “น้องพิงค์…” “น้องพิงค์รักคุณแม่... รักคุณแม่ที่สุด” พิงใจกอดรัดมารดาสุดแรงราวกับกลัวอิงดาวจะหายไป สุดท้ายในวันที่ผู้ชายคนนั้นหันหลังทิ้งเธอไว้อย่างไม่มีเยื่อใย ชีวิตเธอก็ยังเหลือลูกสาว แค่เด็กน้อยคนนี้เท่านั้นที่พร้อมอยู่กับเธอในทุกช่วงเวลา ตกตึกคืนนั้นสองแม่ลูกนอนกอดกันพร้อมน้ำตา พิงใจอยู่เป็นเพื่อนแม่จนกระทั่งผล็อยหลับ ต่างกับอิงดาวที่ไม่สามารถปิดเปลือกตาได้สักเสี้ยววินาที เหตุการณ์วันนี้ทำให้เธอย้อนคิด บางทีการรักตัวเองและเดินออกมาจากชีวิตคู่จอมปลอมก็ไม่เสียหาย ในเมื่อสองมือสองเท้ายังหากินได้ ฉะนั้นละทิ้งความรักที่แหลกสลายล้วนแล้วแต่เพื่อตัวเอง... สุดท้ายคนที่หญิงสาวรอคอยก็ไม่ปรากฏตัวสักที ตรีศูลหายไปพร้อมผู้หญิงคนนั้น ทิ้งเมียและลูกไว้ข้างหลังไม่เหลียวแล นัยน์ตาคู่สวยบวมเป่งเพราะผ่านมรสุมน้ำตามาอย่างหนัก ส่วนเจ้าตัวแสบคงสัมผัสได้ถึงความเศร้าของแม่ บรรยากาศตลอดเส้นทางจนถึงโรงเรียนวันนี้เลยเงียบเหงา อึมครึมไม่ต่างกับเมฆฝนบนท้องฟ้า หลังส่งลูกสาวเสร็จสาวน้อยคนเก่งก็หักพวงมาลัยเข้าสู่เส้นทางอันคุ้นเคย ภารกิจในวันนี้คือนัดพบพี่สาวคนสนิท นรีเสนองานถ่ายแบบของแบรนด์ออนไลน์ซึ่งเน้นกลุ่มคนวัยทำงาน นอกจากขายของผ่านช่องทางส่วนตัวแล้วหญิงสาวยังรับจ็อบเสริมด้วยการเป็นนางแบบเสื้อผ้า ดวงตาคู่สวยเหลือบสังเกตเวลาบนหน้าปัดรถ พอพบว่าไปสายแน่ๆ จึงตัดสินใจเลี้ยวไปทางลัดอีกด้าน ถนนเส้นนั้นสะดวกไร้ผู้คนสัญจร แต่สามารถทะลุไปยังจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว ทว่าเร่งเครื่องได้ไม่ถึงห้านาทีเรียวปากอิ่มกลับพ่นลมหายใจเซ็งๆ เรียวคิ้วสีน้ำตาลขมวดแน่นยามมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งไล่จี้ท้ายรถราวเร่งรีบเสียเต็มประดา “ทำบ้าอะไรเนี่ย” คนตัวเล็กบ่นพึมพำโดยไม่รู้ว่าอีกไม่ช้าภัยกำลังจะมาหาตัว ขาทั้งสองข้างแตะเบรกกะทันหันเมื่อรถคันดังกล่าวปาดตัดหน้า แรงปะทะส่งผลให้อกอวบกระแทกพวงมาลัย ไหล่ทั้งข้างสองตกลู่ลงคล้ายถูกมือปริศนากระชากไปยังจุดต่ำสุด ร่างทั้งร่างเหมือนถูกผลักลงไปยังหุบเหวลึก หัวใจหวั่นไหวก่อนค่อยๆ พรูลมหายใจซ้ำไปซ้ำมา ชายหนุ่มปริศนาก้าวลงจากรถคันนั้นก่อนยกไม้เบสบอลทุบฝากระโปรงจนแหลกละเอียด แล้วเปลี่ยนเป้าหมายชี้ตรงมาที่หน้าผู้ขับขี่แทน อิงดาวหวีดร้องก่อนรีบกดล็อกรถ อัตราการเต้นของหัวใจพุ่งสูบฉีดก้องกังวานน่ากลัว ทว่าสุดท้ายพวกที่คิดว่าจะทำร้ายกลับหันหลังจากไปไม่แตะต้องตัวเธอแม้แต่ปลายก้อย จุดเริ่มต้นของเหตุเลวร้ายเพราะอะไรกันแน่ หลายชั่วโมงต่อมา… บรรยากาศในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเต็มไปด้วยเสียงจอแจวุ่นวาย แพทย์และพยาบาลเดินขวักไขว่เนื่องจากคนไข้ที่กรูเข้ามาไม่หยุดหย่อน เมื่อเห็นบาดแผลบริเวณกระหม่อมน้องสาว นรีขบกรามแน่น นี่มันเฮงซวยอะไรกันวะ อิงดาวไม่เคยทำร้ายใคร ทำไมต้องเกิดเรื่องบัดซบแบบนี้กับหญิงสาวที่เปรียบเหมือนแม่พระอย่างผู้หญิงคนนี้ “แม่งเอ๊ย อยากด่าคนฉิบหาย” “โชคดีนะที่ดาวส่งลูกเรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นดาวคงจะบ้าจริงๆ” “แล้วนี่แกจะไปแจ้งตำรวจตอนไหน” “หลังทำธุระเสร็จแหละพี่ ไม่รู้จะตามเอาเรื่องได้หรือเปล่า ถึงกล้องหน้ารถบันทึกภาพได้ แต่พวกมันใส่หมวกปิดหน้าหมดเลย” แม้แต่ดวงตาผู้ประทุษร้ายเธอก็ไม่เห็น “ไม่รู้แหละ ยังไงแกก็ต้องไปแจ้งความไว้ก่อน ถ้าฉันอยู่ด้วยนะคงได้มีเรื่องกันแน่ ๆ ทำแบบนี้ทำไมวะ แค่ผู้หญิงตัวคนเดียวเนี่ย โคตรใจร้ายเลย…แต่ช่วงนี้แกมีเรื่องกับใครบ้างรึเปล่า” อิงดาวนิ่งงันไม่ตอบคำถามจนนรีสงสัย “ดาว…” หล่อนเรียกน้องสาวอีกรอบ ทว่าอีกฝ่ายยังคงปิดปากเงียบอยู่ดี “…” “ไม่มีอะไรหรอกพี่ ยังไงพี่ไปจัดการเรื่องค่ายาให้หน่อย เดี๋ยวดาวตามไป” “แกแน่ใจนะ” “อืม” ท้ายที่สุดคนเป็นพี่จึงหันหลังกลับไปทำสิ่งที่น้องขอ ทิ้งอารมณ์คุกรุ่นคั่งค้างไว้ก่อน เพราะเหลืออีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ ส่วนอิงดาวก็ปิดเปลือกตาพักผ่อน นอกจากบาดแผลทางร่างกายหมอยังตรวจพบว่าเธอมีอาการอ่อนเพลียเลยตัดสินใจให้น้ำเกลือ หลับตาไปสักพักไม่ทันเข้าสู่ห้วงนิทรา ม่านสีฟ้าก็ถูกเปิดด้วยใครคนหนึ่ง “คุณแม่…” แม่ของตรีศูลมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน คุณหญิงภัสสรรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าเธอถูกลอบปองร้าย ในเมื่อสองคนที่อิงดาวส่งข้อความหาคือสามีและพี่คนสนิทเท่านั้น “ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ” “คุณแม่รู้ได้ยังไงคะว่าดาวอยู่โรงพยาบาลนี้” อิงดาวหายใจติดขัดกะทันหัน ไม่อยากตั้งป้อมมองผู้หลักผู้ใหญ่ในแง่ร้าย และคงปวดร้าวถ้าคนที่ทำร้ายเธอคือครอบครัวเขา แม้ภัสสรจะไม่ยอมรับตนในฐานะลูกสะใภ้ แต่อย่างไรก็คือลูกผู้หญิงด้วยกันไม่ใช่หรือ “เธอไม่ได้มีค่ามากพอที่ฉันต้องตอบคำถามพวกนี้นะอิงดาว” คำพูดจากปากคุณหญิงสูงส่งไขข้อสงสัยกระจ่างแจ้ง ไม่ใช่แค่ไม่ยอมรับ แต่มารดาเขาทำราวกับอิงดาวไม่ใช่คน ช่างเลือดเย็นเหลือเกิน…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม