Ep.3

1680 คำ
Ep.3 Baibua talk. วันต่อมา~ "พี่เต้ย เมื่อไหร่อีตาจีโน่อะไรนั่นจะมาวะพี่ ?" ฉันเอ่ยถามพี่เต้ยออกไปอย่างร้อนรนพลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาไปด้วย นี่เลยเวลามาตั้งเกือบชั่วโมงแล้วนะ ฉันยังไม่เห็นหัวอีตาศิลปินดังนั่นโผล่หัวมาเลย ทั้งๆ ที่คอนเฟิร์มแล้วแท้ๆ ว่าจะมา อ้อ! อีตาจีโน่อะไรนั่นน่ะฉันรู้จักแล้วละ หลังจากที่พี่เต้ยบอกฉันก็ทำการค้นอากู๋เลยทันที เท่าที่อ่านๆ ดูนะคือโปรไฟล์ดีมากกกก! เป็นคนมีมารยาทมากเวลาอยู่กับแฟนคลับ เหล้าไม่กินบุหรี่ไม่สูบ ไม่เที่ยวกลางคืน เป็นผู้ชายที่ดูสุภาพ อ่อนโยน และรักสัตว์มาก นี่คือสิ่งที่ฉันได้จากการอ่านประวัติของเขาคร่าวๆ ผ่านเว็บไซต์ พอได้อ่านประวัติเขาแล้วก็ไม่ได้อะไรหรอก ก็คิดว่าเขาน่าจะเป็นผู้ชายที่ดีทั่วๆ คนหนึ่งนั่นแหละ แต่พอมาวันนี้ฉันว่าฉันเริ่มมีอคติกับไอ้ศิลปินคนนี้ขึ้นมานิดๆ แล้วละ เขาจะรู้มั้ยว่าการที่เขาไม่ตรงต่อเวลามันทำให้คนอื่นเสียการเสียงานมากแค่ไหน แทนที่งานจะได้เสร็จเร็วๆ กลับต้องยืดเวลาออกไปอีก ซึ่งมันไม่เป็นผลดีกับคนที่มีเรียนต่ออย่างฉัน ฉันโคตรหงุดหงิดเลยว่ะตอนนี้ "ใจเย็นๆ ก่อนนะบัว พี่ว่าเวลานี้รถน่าจะติดเดี๋ยวคงถึงแล้วล่ะมั้ง" "แต่หนูมีเรียนต่อนะพี่ ถ้ามาช้ากว่านี้หนูขอยกเลิกงานนี้นะ" ถ้าช้ากว้านี้ฉันคงอยู่ทำงานต่อไม่ได้หรอก เพราะฉันต้องไปเรียน ไหนจะต้องเผื่อเวลารถติดอีก "เฮ้ย! ไม่ได้ดิ ถ้าแกไม่อยู่แล้วใครจะทำหน้าที่แทนแก" "เดี๋ยวหนูโทรตามไอ้หนึ่งมาให้ก็ได้ ตอนนี้มันน่าจะว่างๆ อยู่" ไอ้หนึ่งคือเพื่อนของฉันตอนเรียนป.ตรี มันจบสาขาเดียวกับฉัน มันเลยทำงานแบบนี้แทนฉันได้ "ยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย แกก็รู้ว่าไอ้หนึ่งมันทำงานคนละสไตล์กับแก ขืนให้มันมาทำผู้กำกับด่าพี่เละแน่" "แล้วพี่จะให้หนูทำยังไง ก็หนูมีเรียน" บอกเลยว่าต่อให้งานมันจะได้เงินเยอะแค่ไหน ฉันก็ไม่เคยทิ้งการเรียน เพราะการเป็นเด็กทุนน่ะมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ แล้วยิ่งทุน100%อย่างฉันยิ่งไม่ควรขาดเรียนแม้แต่ครั้งเดียว เพราะจะเรียนไม่ทันคนอื่น "เอาน่าๆ แกก็ใจเย็นๆ ก่อนเหลือเวลาอีกตั้งเยอะ เดี๋ยวพี่โทรตามจีโน่อีกทีก่อน" "อืมๆ ให้เวลาอีกแค่30นาทีนะพี่ ถ้ายังไม่มาหนูไม่รอละนะ" "เออๆ" จากนั้นพี่เต้ยก็เดินเลี่ยงออกไปเพื่อประสานและติดต่อไปยังฝ่ายพรีเซนเตอร์ของงานนี้ ส่วนฉันก็เดินไปเช็กความเรียบร้อยของฉากของกล้องอีกครั้ง จริงๆ ก็เช็กไปหลายรอบแล้วแหละ แต่ก็เพื่อความชัวร์บวกกับอีตาพรีเซนเตอร์นั่นไม่ยอมโผล่หัวมาสักที ฉันก็เลยต้องหาไรทำ เช็กนั่นนู่นนี่ไปเรื่อยๆ ถ้าเขามาก็จะได้รีบถ่ายเรียบเสร็จ จะได้ไม่ต้องมีปัญหาทีหลังด้วย... 40นาทีผ่านไป~ ฉันว่าฉันทนไม่ไหวแล้วล่ะ ฉันมีเวลาให้แค่30นาที แต่นี่เลยมาตั้ง40นาทีแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าหมอนั่นจะมาเลย ไม่รู่ล่ะ! ไม่มาฉันก็จะไม่อยู่แล้ว ไปเรียนเลยดีกว่า "พี่เต้ย..." "มาแล้วๆ คุณจีโน่มาแล้ว!!" ในขณะที่ฉันกำลังจะหันไปพูดกับพี่เต้ย ก็มีน้องในกองคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับร้องตะโกนขึ้นมาอย่างเสียงดังเพื่อบอกทุกคน "ใจเย็นๆ แก ไหนๆ จีโน่มาแล้วเราไปเตรียมตัวกันดีกว่า จะได้เสร็จไวๆ" พี่เต้ยหันมามองหน้าฉันอย่างลำบากใจก่อนจะพูดออกมา คือพี่เต้ยเขาก็รู้แหละว่าฉันรีบ และเวลามันก็ฟิคมาแบบเป๊ะๆ แล้วไงในตอนแรก แต่ก็ต้องมาพังเพราะคนคนเดียว พอพี่เต้ยพูดแบบนั้นฉันก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากลุกขึ้นแล้วเดินไปประจำที่และเช็กพวกอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำอีกครั้งด้วยสีหน้านิ่งๆ พยายามเก็บอาการไม่พอใจไว้ให้มากที่สุด "=_=" แต่ฉันก็ต้องมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคนที่เป็นพรีเซนเตอร์ของงานในครั้งนี้ไม่ยอมออกมาจากห้องแต่งตัวสักที ทั้งที่เขามาถึงได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว ตอนนี้ก็น่าจะแต่งตัวเสร็จแล้วด้วย "แกใจเย็นๆ ก่อน มันอาจจะมีปัญหาอะไรนิดหน่อยแหละถึงได้ออกมาช้าแบบนี้" พี่เต้ยที่หันมาเห็นสีหน้าของฉันพอดีพูดขึ้น "ไม่รู้นะพี่ เจอแบบนี้หนูก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ" "พี่ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้" "หนูไม่ได้โทษพี่นะ แต่หนูโทษอีตานั่น ถ้าเขาตรงต่อเวลามากกว่านี้ทุกคนก็ไม่ต้องมารออยู่อย่างนี้" เพราะเขาคนเดียวนั่นแหละ ทุกอย่างถึงต้องมาหยุดชะงักแบบนี้ "พี่เข้าใจๆ" "หนูไม่สนละนะพี่เต้ย ว่างานจะเสร็จหรือไม่เสร็จ เพราะถ้าหมดเวลางานของหนูเมื่อไหร่หนูก็จะไปทันที หวังว่าพี่จะเข้าใจหนูนะ" "...อืมๆ เข้าใจๆ" พี่เต้ยพยักหน้าอย่างจำยอมหลังจากที่ฉันพูดจบ Baibua talk end. Jino talk. "คุณจีโน่คะ ทางเราไม่รู้จริงๆ นะคะว่าคุณจีโน่ไม่ใส่เสื้อขนสัตว์ แต่ทางเราก็แก้ไขอะไรกันไม่ทันแล้ว รบกวนคุณจีโน่ช่วย...!!!" "ถ้าผมใส่แล้วเกิดผมช็อกตายขึ้นมา พวกคุณจะรับผิดชอบผมไหวมั้ย!?" ผมหันไปพูดกับพี่ทีมงานทันทีที่เธอพูดไม่เข้าหู จะให้ผมใส่เสื้อไอ้ขนฟูๆ นั่นทั้งๆ ที่ผมแพ้มันเนี่ยนะ "แต่ทางเราก็ได้แจ้งไปก่อนแล้วนะคะว่าชุดที่คุณต้องใส่ชุดที่เป็นขนสัตว์ ซึ่งทางคุณก็ตอบตกลงกลับมาโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เลย" "แจ้งแล้ว ?" ตอนไหนวะ ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่อง "ค่ะ ทางเราได้แจ้งไปแล้ว นี่ค่ะหลักฐาน" พี่ทีมงานพูดพร้อมกับชูไอแพดให้ผมดู สรุปคือแจ้งแล้วจริงๆ ด้วย แถมทางผมยังตอบตกตงกับฝ่ายนั้นอีกด้วย พอผมเห็นแบบนั้นผมจึงหันไปมองหน้าผู้จัดการส่วนตัวชั่วคราวของผมอย่างต้องการคำตอบ "มันหมายความว่ายังไง ?" "เอ่อ...คือ...ฉันไม่รู้ว่าคุณแพ้ขนสัตว์ ฉันก็เลยตอบตกลงไป" ผู้จัดการส่วนตัวแบบชั่วคราวของผมก้มหน้าตอบอย่างรู้สึกผิด "แล้วไม่ได้อ่านข้อมูลของฉันที่ผู้จัดการคนก่อนส่งให้เลยหรือไง!?" ผมพูดพร้อมกับยกมือขึ้นเสยผมตัวเองอย่างระบายความหงุดหงิด "อะ...อ่านแล้วค่ะ ตะ...แต่..." "แต่อะไร" "แต่ฉันไม่คิดว่าคุณจะแพ้มันขนาดที่จะใส่ไม่ได้เลย..." "...ออกไป!" หลังจากที่เธอพูดจบผมก็ยืนมองเธอด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป "คะ ?" เธอเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างตกใจปนไม่เข้าใจ ผมจึงพูดขยายความให้เธอฟังอีกครั้งอย่างชัดๆ "ฉันไล่เธอออก ต่อไปไม่ต้องมาทำงานอีก" "คะ...คุณจีโน่..." เธอเรียกผมเสียงอ่อนทันทีหลังจากที่ผมพูดจบ เธอเพิ่งมาทำงานกับผมได้สองวันเองครับ แต่เธอกลับทำงานเข้าข่าย 'พวกพยายามฆ่า' เลยก็ว่าได้ และผมก็ไม่ชอบคนที่ทำงานไม่เป็นมืออาชีพแบบนี้ ถ้าจะให้ผมมีผู้จัดการแบบนี้ผมขอไม่มียังดีกว่า "หวังว่าคุณคงเข้าใจนะครับ" "T^T" พอผมพูดจบผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเธออีก เธอก็เลยเดินไปเก็บกระเป๋าและเดินคอตกออกจากห้องนี้ไป ส่วนผมก็หันกลับมาสนใจพี่ทีมงานที่ยืนดูเหตุการณ์เงียบๆ ต่อ "ขอโทษนะครับที่ผมทำให้เสียเวลา แต่ผมคงใส่ชุดที่ฝ่ายคุณเตรียมไว้ให้ไม่ได้จริงๆ เพราะฉะนั้นผมขอยกเลิกงานวันนี้นะครับ ส่วนค่าเสียหายผมยินดีที่จะจ่ายให้ทั้งหมด" เพราะผมถือว่าเป็นคนผิดของฝ่ายผมที่ทำงานไม่รอบครอบเอง เพราะฉะนั้นผมก็เลยต้องเป็นคนรับผิดชอบ "แต่คุณจีโน่คะ โฆษณาตัวนี้มันจะต้องออกอากาศในวันพรุ่งนี้แล้วนะคะ ถ้าจะมายกเลิกแบบนี้บริษัทพี่ก็แย่สิคะ" พี่ทีมงานพูดขึ้นมาอย่างเครียดๆ "แล้วพี่จะให้ผมทำยังไง ก็ผมแพ้ขนสัตว์" คนมันแพ้ก็คือแพ้จริงๆ นะครับ ผมไม่ได้สำออย แต่ผมใส่มันไม่ได้จริงๆ "ใส่แค่แป๊ปเดียวก็ไม่ได้เหรอคะ ?" "พี่ครับ! นี่มันชีวิตผมเลยนะครับ พี่จะให้ผมเอาชีวิตมาเสี่ยงเพราะเสื้อขนสัตว์บ้า ๆนี่เหรอครับ ?" "ตะ..." พี่ทีมงานกำลังจะพูดแย้งผมขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็มีเสียงหนึ่งผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมาขัดซะก่อน "เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?" น่ารัก...นี่คือคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวผมหลังจากที่ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของเสียงเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าผม พร้อมกับมองผมสลับกับพี่ทีมงานอย่างต้องการคำตอบ ด้วยสีหน้าที่นิ่งๆ แต่สายตากลับดูหงุดหงิดและโคตรจะเอาเรื่องเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม