14 มีสาวรออยู่ข้างล่าง

1617 คำ
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นหน้าห้องทำงานบนชั้นสอง "เข้ามา" เสียงเรียบนิ่งดังออกมาจากด้านใน ธาดาเปิดประตูเข้ามาช้าๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาพี่ชาย พี่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบขรึมของห้อง "พี่ธารามีสาวรออยู่ข้างล่างน่ะครับ" ธาดาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟารับแขกในห้อง พร้อมวางแขนพลาดพนักพิงสบายใจ "ใคร" "ต้องให้บอกด้วยหรอครับพี่ ปกติก็เห็นมีแต่พี่เชอรีสที่มานั่งรอพี่เป็นชั่วโมงๆอยู่บ่อยๆไม่ใช่หรอ" ธาดายักคิ้วหยอกเย้า ยกยิ้มกวนๆให้พี่ชายอย่างเคยชิน ด้วยความที่ทั้งคู่สนิทกันมากพอสมควร ธาดาจึงชอบแหย่พี่ชายแทบจะทุกครั้งที่มีผู้หญิงมาเข้าหา และเขาเองก็รู้ดีว่าแม่ของเขากำลังเร่งให้พี่ชายของเขาแต่งงาน และผู้หญิงที่แม่ของเขาถูกใจที่สุดในตอนนี้ ก็เห็นจะเป็นเชอรีส หญิงสาวที่แม่ของเขาพาเข้าหาธาราอยู่เป็นประจำ "อืม เดี๋ยวลงไป" ธาราพยักหน้าเล็กน้อย ยังไม่มีวี่แววว่าจะลุก "รีบลงไปนะพี่ เดี๋ยวว่าที่คู่หมั้นในอนาคตจะน้อยใจเอา" คำแซวของน้องชายทำให้ธาราเงยหน้าขึ้นมองในที่สุด สายตานิ่งจ้องตรงไปยังธาดาอย่างไม่ใส่ใจนัก "ใครบอกว่าเป็นคู่หมั้น ฉันยังไม่ได้คิดจะจริงจังกับใครทั้งนั้น" "อ้าว แล้วที่แม่ของพี่เชอริสมาคุยกับแม่เราเรื่องงานหมั้นล่ะครับ ไม่คิดอะไรเลยหรอ" ธาดายกคิ้วถาม สีหน้าดูครื้นเครงอย่างเห็นได้ชัด "ใครอยากมั่นก็ไปหมั้นกันเอง ฉันไม่เกี่ยว" น้ำเสียงของธาราเจือความไม่สบอารมณ์แฝง "พี่ปฏิเสธไม่ได้หรอก พี่ก็รู้" ธาดาเอ่ยเสียงอ่อนลงนิดนึง แต่ยังไม่เลิกจ้องหน้าพี่ชาย "ไม่ใช่เรื่องของเด็ก" ธาราหยิบแก้วกาแฟอีกครึ่งครึ่งจิบเบาๆ "ผมไม่เด็กแล้วนะพี่ ผมยี่สิบสองแล้วนะ" ธาดาสวนกลับทันทีเสียงติดงอนเล็กน้อย ธาราเหลือบตามองน้องชาย ก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะ "อืม ถ้าโตพอก็เอาไว้คุยกันใหม่ ตอนที่แกไม่มาแซวฉันแบบนี้" ธาราพูดพร้อมลุกขึ้นตรงไปที่ประตู ส่วนธาดามองตามพี่ชายพร้อมทั้งยิ้มด้วยความพอใจ "เขินใช่ไหมล่ะ รู้หรอกน่า" ธาดายังไม่วายที่จะแซวพี่ชายตามไปด้วย เชอรีสนั่งรออย่างเงียบๆบนโซฟา เธอจัดกระโปรงเรียบร้อยท่าทางดูมั่นใจเต็มเปี่ยม "พี่ธารามาแล้ว" เสียงของเชอรีสเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นชายหนุ่มร่างสูง เดินลงบันไดมาอย่างช้าๆ "อ้าวมาแล้วหรอลูก หนูเชอรีสมาหาน่ะ ลูกว่างหรือเปล่าพาเธอออกไปทานข้าวหน่อยสิ" คุณหญิงมาริสาหันไปบอกลูกชายพลางยิ้มหวาน "ไปทานข้าวกันนะคะพี่ธารา หนูมารอพี่เป็นชั่วโมงแล้วนะคะ ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างนะคะ" เชอรีสเดินมาเกาะแขนธารา "ครับ" ธาราเอ่ยต่อเพียงสั้นๆเสียงเรียบนิ่ง ไม่ใช่เพราะเต็มใจนักแต่เพราะอยากให้เรื่องจบลงเท่านั้น "งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะคุณหญิงป้า ไว้วันหลังหนูมาหาใหม่ค่ะ สวัสดีค่ะ" "สวัสดีลูก ทานข้าวกันให้อร่อยนะ" "ค่ะคุณหญิงป้า" เชอรีสส่งยิ้มหวานให้กับคุณหญิงมาริสา แต่พอหันไปอีกทีก็พบว่าธาราเดินนำออกไปไกลแล้ว โดยไม่หันมารอแม้แต่น้อย "พี่ธารา! รอหนูด้วยสิคะ" หญิงสาวรีบก้าวเร็วตามหลังเขาไป พร้อมแฝงความขุ่นใจเล็กน้อย แต่ก็ยังรักษาท่าทีเรียบร้อยไว้ต่อหน้าคนในบ้าน "พี่ธารามีร้านในใจไหมคะ" "ไม่มี เชออยากกินร้านไหนก็เลือกมาเลย" "งั้นหนูเลือกไม่เกรงใจแล้วนะ" "อืม" ธาราตอบแค่นั้นโดยไม่ได้หันมามอง รถสปอร์ตคันหรูหยุดลงที่หน้าร้านอาหารชื่อดังที่เชอรีสเป็นคนเลือก ชายหนุ่มก้าวลงจากรถยังสง่า ขณะที่หญิงสาวเปิดประตูฝั่งตัวเอง แล้วรีบวิ่งเข้ามาเกาะแขนเขาอย่างแนบชิด "ร้านนี้อาหารอร่อยมากเลยนะคะ หนูตั้งใจจะพาพี่ธารามาหลายรอบแล้ว แต่พี่ก็ไม่เคยมีเวลาให้หนูเลยสักครั้ง" เธอพูดพลางยิ้มหวาน สายตาว้าววอนประหนึ่งตัดพ้อ "พี่ไม่ค่อยมีเวลา งานพี่เยอะ" ธาราตอบเสียงเรียบ ดวงตาไม่มีแววสนใจแม้แต่น้อย ราวกับคำพูดของเธอเป็นเพียงเสียงลมหายใจผ่านหู "แต่พี่ธาราต้องดูแลตัวเองมากๆนะคะ หนูเห็นพี่โหมงานหนักตลอดเลย รับผิดชอบอะไรตั้งหลายอย่าง จนไม่มีเวลาแม้แต่จะพักผ่อนหนูเป็นห่วงนะคะ" ธารามไม่ได้ตอบอะไร กลับเดินนำเธอเข้าไปในร้านเงียบๆโดยไม่หันมาสบตา เชอรีสยังคงวิ่งตามไปเกาะแขนเขาแน่นด้วยท่าทางแสนหวาน แม้จะรู้สึกถึงความเย็นชาจากชายหนุ่มตลอดเวลา โต๊ะ VIP มุมส่วนตัวของร้านอาหาร ธาราทรุดตัวนั่งลงตรงฝั่งหนึ่งของโต๊ะ เชอริสวางกระเป๋าแบรนด์เนมลงเบาๆ แล้วนั่งลงตรงข้ามยางเรียบร้อย "พี่ธาราอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ" เชอรีสเงยหน้าถามชายหนุ่มตรงหน้า ดวงตาเป็นประกายหวังจะเอาใจอีกฝ่าย ถึงเธอจะรู้ดีว่าธาราแทบจะไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย แต่เพราะสมบัติและธุรกิจของพ่อเธอ เธอจึงเลือกที่จะจับธาราเพื่อให้ธุรกิจของพ่อดำเนินไปได้ โดยมีบริษัทของธาราเข้ามาช่วย หลังจากที่เธอกับธาราได้แต่งงานกัน "เชอรีสอยากทานอะไรก็สั่งมาได้เลย พี่ทานได้หมด" ธาราตอบเรียบๆพลางหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดหน้าจอและจ้องมองมันครู่หนึ่ง พร้อมนึกถึงเด็กสาวที่หายเงียบไปสองวันแล้ว "เฮ้ย! ไอธารา!" เสียงทักทายดังขึ้นจากทางเข้าร้าน ทำให้ธาราหลุดจากภวังค์ทันที เขาเงยหน้ามองไปยังต้นเสียง "อ้าวไอ้คราม! มึงมาแดกข้าวที่นี่เหมือนกันหรอวะ" ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน รีบทักทายเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย "สวัสดีค่ะพี่ธารา" เสียงหวานของภรรยาสาวที่มากับครามดังขึ้น พร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม "สวัสดีน้องเกว พาไอ้ตัวดีมาทานข้าวหรอครับ" ธารายิ้มบางให้เกวลิน "ใช่ค่ะ บังเอิญจังเลยนะคะ สวัสดีค่ะเอ่อ..." เกวลินพูดอย่างสุภาพ ก่อนจะหันไปมองเชอรีฟด้วยความสงสัยว่าเธอคือใคร เชอรีสไม่ปล่อยให้ความเงียบกินเวลานาน เธอรีบพูดแทรกขึ้นทันที "หนูชื่อเชอรีสค่ะ เป็นแฟนพี่ธารา และเราก็กำลังจะหมั้นกันเร็วๆนี้ค่ะ" น้ำเสียงของเชอริสมั่นใจ และเต็มไปด้วยความตั้งใจจะประกาศสถานะให้ชัดเจน ธาราเบือนหน้าหนีเล็กน้อย ราวกลับไม่ได้เต็มใจจะได้ยินประโยคนั้น "เฮ้ย มึงจะหมั้นมึงไม่คิดจะบอกเพื่อนเลยหรอวะ" คำพูดพลางหัวเราะเบาๆ แล้วเอื้อมมือมาเกาะไหล่เพื่อนรัก "กูว่านั่งด้วยกันก็ดีนะเว้ย กินหลายคนน่าจะอร่อยกว่า" ธาราไม่ได้ตอบอะไรเกี่ยวกับเรื่องหมั้น เขาเพียงแค่พยักหน้าเบาๆแล้วหันไปพูดกับพนักงาน "เพิ่มเก้าอี้อีกสองตัวครับ" เขาเปลี่ยนเรื่องอย่างแนบเนียน เพราะไม่อยากพูดถึงความสัมพันธ์ที่เขาเองก็ยังไม่ยอมรับ "เอ่อ...ค่ะจริงค่ะ นั่งด้วยกันเยอะๆอร่อยดีค่ะ" เชอรีสยิ้มแห้งๆ ฝืนพูดออกมาแม้ใจจะไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้น เธอเงยหน้ามองธาราเล็กน้อย ชายหนุ่มที่วันนี้ยอมออกมากินข้าวกับเธอได้สักที แต่กลับต้องมีเพื่อนมาขัดจังหวะเสียอย่างนั้น 'ตั้งใจจะมาคุยเรื่องของเราให้รู้เรื่องสักที กับมีเพื่อนมาทานข้าวด้วยซะได้ แบบนี้ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้คุยให้รู้เรื่องก็ไม่รู้ ฮุ้ย...คิดแล้วหงุดหงิด' เชอรีสคิดในใจดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่เธอไม่สามารถแสดงออกมาได้ เธอจำต้องนั่งลงอย่างเสียไม่ได้ ขณะที่ครามกับเกวลินนั่งลงฝั่งตรงข้าม บรรยากาศดูเป็นกันเองระหว่างเพื่อนสนิท แต่เชอรีสกลับรู้สึกเหมือนไม่ชอบแบบนี้ "พี่ครามทานอะไรดีคะ" เกวลินเอ่ยถามพร้อมทั้งยิ้มหวานให้สามี ที่แต่งงานกันไปนานมากแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังดูหวานชื่นไม่ต่างจากวันแรกที่ตกหลุมรักกัน แถวครามเองก็เอาใจภรรยาเก่งขึ้นทุกวัน หวานหยาดเยิ้มจนใครต่อใครต่างก็ชื่นชม "พี่กินอะไรได้หมดเลยครับ เกวกินอะไรพี่ก็กินอันนั้นแหละ" "ได้ค่ะ" เกวลินเปิดเมนูสั่งอาหารตามที่เธออยากกิน พร้อมกับเมนูตามที่เชอรีสสั่งด้วย ทั้งสี่ต่างก็ทานข้าวและนั่งคุยกันด้วยความสนุกสนาน ตั้งแต่วันที่ครามกับเกวลินแต่งงานไป ธาราก็ไม่ค่อยได้เจอกับเพื่อนรักเหมือนเมื่อก่อน ต่างคนต่างหมุนอยู่กับหน้าที่และธุรกิจของตัวเอง การพบปะหรือพูดคุยจึงกลายเป็นเรื่องที่หายากขึ้นทุกที จะได้เห็นหน้ากันบ้างก็แค่ในงานเลี้ยงหรือโอกาสสำคัญเท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม