หลังจากที่เธอเลือกดูกระเป๋าอยู่นานเกือบหนึ่งชั่วโมง ก็ได้ติดมือกลับมาสามใบ ซึ่งพอจ่ายเงินอะไรเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินออกมาจากในห้อง พร้อมกับมองหาเพื่อนชายอย่างราชา แต่ก็ไม่เห็นเขาอยู่ในร้านเลย
หญิงสาวจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับโทรหาเพื่อน โดยรอสายไม่นานปลายสายก็กดรับสาย เธอจึงรีบพูดแทรกขึ้นไปทันที
"นายอยู่ไหน"
(รถ)
"อ้าว ทำไมรีบไปจัง"
(ที่ร้านคนเยอะ ฉันเลยมารอที่รถแทน เสร็จแล้วเหรอ)
"ใช่"
(ถ้าเสร็จแล้วก็รีบมา)
"โอเค" นาเนียร์ตอบปลายสาย พร้อมกับกดตัดสายแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าสะพายใบหรู และในตอนนั้นเองพนักงานก็เดินถือถุงกระดาษบรรจุกระเป๋าแบรนด์เนมของเธอมายื่นให้ ซึ่งหญิงสาวก็ยื่นมือไปรับแล้วเดินออกมาจากร้าน
หญิงสาวเดินตามทางมาเรื่อย ๆ เพราะจุดหมายของเธอคือโรงจอดรถหรู ที่ทางห้างมีที่จอดไว้ให้
ใช้เวลาประมาณห้านาที ก็เดินมาถึงรถของเพื่อนชาย เธอเปิดประตูเข้ามานั่ง ส่วนถุงกระดาษที่บรรจุกระเป๋าไปวางเบาะด้านหลัง
"ไหนว่าจะไปดูเฉย ๆ ไง ทำไมได้มาตั้งหลายใบ"
"ครั้งแรกก็ไม่ได้จะซื้อเยอะขนาดนี้หรอก แต่พอได้จับได้ถือมันสวยถูกใจไง แถม SA ก็เชียร์หนักด้วย เลยซื้อทำยอดให้เขา"
"จะกลับคอนโดเลยไหม หรือจะแวะที่ไหนอีกหรือเปล่า"
"ไม่แวะแล้ว กลับเลยดีกว่า ฉันอยากนอนแล้วเนี่ย วันนี้ก็เรียนติดต่อกันมาทั้งวัน"
"เรียนอะไร ฉันเห็นเธอหลับทั้งคาบ"
"ราชา" นาเนียร์เอ่ยชื่อเรียกราชาเสียงดัง พร้อมกับทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจ
"ก็ฉันพูดจริง"
"....."
"อยากกลับไปนอนก็ให้ไปนอนจริง ๆ เถอะ ไม่ใช่คืนนี้เห็นเช็กอินที่ผับล่ะ"
"คืนนี้ไม่ออกไปไหนจริง ๆ อยากพักร่าง" หญิงสาวตอบเพื่อนไป พร้อมกับปรับเบาะที่ตัวเองนั่งเอนนอนลงแล้วหลับตาเพื่อพักผ่อน
"น้องภีมลูก เอาหมูไปเสิร์ฟโต๊ะสามให้แม่หน่อย"
"ได้ครับคุณแม่" ภีม นักศึกษาหนุ่มวิศวกรรมเคมีปีหนึ่ง ก็รีบเดินไปหยิบจานหมูที่พึ่งสไลด์เสร็จ ไปเสิร์ฟยังโต๊ะหมายเลขสาม ที่มีนักศึกษาหนุ่มและสาวรุ่นพี่ต่างคณะหลายคนกำลังนั่งรออยู่
ซึ่งพอเขาเสิร์ฟเรียบร้อยแล้ว ก็โดนเอ่ยแซวจากรุ่นพี่กลุ่มนี้อย่างเช่นเคย เพราะพวกพี่เขาเป็นลูกค้าประจำที่นี่ ทำให้เจอกันบ่อย โดยชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรด้วย แต่กลับยิ้มให้แทน แล้วเดินกลับมาเทน้ำแข็งใส่กระบวย เพื่อจะเอาไปเสิร์ฟยังลูกค้าโต๊ะอื่น
ภีมทำงานที่ร้านหมูกระทะของพ่อแม่ของเพื่อนสนิทที่เรียนคณะเดียวกันอย่าง 'โต้ง' เพราะพวกท่านทั้งสองเอ็นดูในตัวเขา ที่ต้องทำงานหาเงินเรียนเอง เลยรับมาทำงานด้วยตั้งแต่ก่อนเปิดเทอม
หลังจากทำงานที่นี่ได้ประมาณสองเดือน ชายหนุ่มก็รู้สึกชอบมาก เพราะถึงงานจะหนักแล้วเลิกดึก แต่เงินค่อนข้างดี แถมยังมีทิปนิด ๆ หน่อย ๆ จากลูกค้า ที่เจ้าของร้านบอกให้เราสามารถเก็บเอาไว้เองเลย ไม่ต้องไปหารกับใคร เพราะส่วนมากเงินพวกนี้เขาจะเก็บเอาไว้เป็นค่ากินรายวัน ส่วนเงินรายเดือนเขาจะเก็บเอาไว้จ่ายค่าห้องกับค่าเทอม
"ไอ้ภีม โต๊ะเจ็ดเรียกหา" พอได้ยินโต้งเรียกแบบนั้น เขาก็รีบหันไปมอง พบว่าคนที่เรียกเขาเป็นรุ่นพี่นักศึกษาที่กำลังกวักมือเรียกเขา ซึ่งเขาก็รีบเดินไปหาพร้อมกับถามว่ามีอะไรหรือเปล่า
"มีอะไรหรือเปล่าครับ"
"พอดีพี่อิ่มแล้วนะจ๊ะน้องภีมสุดหล่อ เช็กบิลเลยค่ะ"
พอได้ยินลูกค้าพูดแบบนั้น ชายหนุ่มก็รีบหยิบสมุดที่จดติดตัวเอาไว้มาเปิดดู ว่าลูกค้าโต๊ะนี้สั่งอะไรไปบ้าง พอเปิดเห็นแล้วก็รีบหยิบเครื่องคิดเลขมาคิดเงิน พร้อมกับยื่นบิลค่าอาหารให้กับลูกค้าดูค่าเสียหายของอาหารมื้อนี้
โดยยืนรอไม่นาน ลูกค้าก็ยื่นธนบัตรใบสีเทาและสีม่วงอย่างละหนึ่งใบมาให้ ชายหนุ่มจึงรีบเดินเอาไปให้เจ้าของร้านคือแม่ของเพื่อนเพื่อทอนเงิน แล้วรีบเดินกลับมายื่นเงินทอนให้กับลูกค้าคืน ซึ่งลูกค้าก็ส่ายหน้าปฏิเสธ บอกว่าเงินที่เหลือคือทิป เขาจึงรีบไหว้ขอบคุณ พร้อมกับเดินไปส่งลูกค้าที่หน้าร้าน
พอลูกค้าออกไปแล้วก็เดินกลับมาเก็บของ เอาไปไว้ให้กับคนล้างจานหลังร้าน แล้วเดินกลับมาต้อนรับลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่กำลังเดินเข้ามาในร้านกัน
"สวัสดีครับลูกค้า เชิญนั่งครับ" ชายหนุ่มเอ่ยเชิญลูกค้ามานั่ง พร้อมกับรีบเดินไปตักน้ำแข็งใส่เหยือกเพื่อมาเสิร์ฟ
ระหว่างนั้นก็จดเมนูที่ลูกค้าต่างทยอยสั่งมาหลายเมนู พอจดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินกลับมายื่นเมนูอาหารที่เพิ่งจดไปให้กลับเพื่อนต่างคณะที่ทำงานด้วยกัน โดยพนักงานที่ทำอยู่ร้านหมูกระทะนี้ ส่วนมากจะเป็นเด็กมหา'ลัยซะส่วนใหญ่
โดยพอยืนรอเพื่อนเตรียมของเสร็จแล้ว ก็ต่างทยอยเอาไปเสิร์ฟจนครบ แล้วเดินกลับมานั่งดื่มน้ำที่หลังร้าน เนื่องด้วยวันนี้ลูกค้าค่อนข้างเยอะ ทำให้ภีมแทบไม่ได้นั่งเลย ตอนนี้ขาของชายหนุ่มค่อนข้างล้าไปหมด แต่ก็ไม่ได้คิดจะเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน โดยพอดื่มเสร็จแล้วก็รีบลุกเพื่อไปเดินดูลูกค้าต่อ ซึ่งในตอนนั้นก็มีคนยกมือเรียกพอดี เขาที่อยู่ใกล้จึงรีบเดินไปหาทันที
"ถ้าจำไม่ผิด น้องภีมปีหนึ่ง วิศวะเคมีใช่ไหมเนี่ย"
"ใช่ครับ"
"ทำงานอยู่นี่เหรอคะ"
"ครับ"
"ทำนานยังเอ่ย พี่จำได้เคยมากินเมื่อเทอมที่แล้วไม่เห็นน้องภีมที่นี่เลย"
"ผมเพิ่งมาทำได้ไม่นาน น่าจะประมาณสองเดือนนี่เองครับ"
"อ๋อ แบบนี้นี่เอง"
"คุณลูกค้าเรียกผมมาทำไมครับ"
"พี่จะขอชุดถ้วยตะเกียบกับแก้วเพิ่มอีกชุดค่ะ พอดีเพื่อนพี่จะมาเพิ่ม"
"แล้วต้องการอะไรอีกไหมครับ"
"ไม่แล้วค่ะสุดหล่อ"
"งั้นรอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปเอามาให้" ภีมรีบเดินกลับมาหยิบชุดถ้วยตะเกียบ และไม่ลืมที่จะหยิบแก้วมาด้วย เพื่อจะเอาไปให้โต๊ะลูกค้าที่ขอเพิ่ม โดยพอวางไว้บนโต๊ะแล้ว
พอกำลังจะเดินกลับมาที่หลังร้าน ก็บังเอิญชนเข้ากับหญิงสาวร่างบางอย่างแรงจนเธอล้มหงายหลัง ส่วนตัวเขาดีหน่อยที่ทรงตัวได้ แต่แว่นที่ใส่อยู่ดันตกลงกระแทกพื้นจนร้าว
เขารีบหยิบแว่นขึ้นมาถือเอาไว้ แล้วรีบเดินพุ่งไปพยุงคนที่ล้มให้ลุกขึ้น พร้อมกับรีบเอ่ยขอโทษออกไปด้วยความรู้สึกผิด เนื่องด้วยตัวเองไม่ทันระวัง เพราะมัวแต่ก้มหน้าเดินอยู่
"ขอโทษครับ"
"ขอโทษแล้วมันหายเจ็บหรืองะ...หล่อจัง"