"เอามาสองเลยค่ะ"
"พี่เนียร์ เอาอันเดียวก็พอครับ"
"ทำไมล่ะคะ เอาสองอันนั่นแหละดีแล้ว เผื่อเกิดอุบัติเหตุเหมือนเมื่อวานขึ้นอีก เราจะได้เอาอีกอันมาใช้แทนไง"
"แต่มันแพงนะครับ แค่อันเดียวผมก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว นี่พี่เนียร์จะซื้อให้ผมตั้งสองอัน"
"ไม่ต้องเกรงใจค่ะ พี่เต็มใจซื้อให้เรา"
"ไม่ได้ครับ"
"เอาเถอะนะ อย่าปฏิเสธพี่เลย"
"งั้นเอาแบบนี้ พี่เนียร์ซื้อให้ผมทั้งสองอัน แต่อีกอันผมขอผ่อนเงินคืนนะครับ เดี๋ยวผมจะทยอยผ่อนจนครบราคาของมัน ถ้าพี่ไม่เห็นด้วยกับที่ผมพูด งั้นผมก็จะปฏิเสธไม่รับเหมือนกัน" ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยความจริงจัง จนนาเนียร์ที่ยืนฟังอยู่ก็ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
"ก็ได้ เอาแบบที่น้องภีมพูดก็ได้ค่ะ"
"งั้นรับเป็นสองอันนะคะ" พนักงานที่ยืนคอยบริการอยู่ก็พูดออกมา
"ค่ะ" นาเนียร์พูดตอบพนักงาน พร้อมกับยื่นบัตรเครดิตให้
ซึ่งเขากับหญิงสาวรุ่นพี่ก็ยืนรอไม่นานพนักงานก็เดินกลับมาพร้อมกับถุงที่บรรจุกล่องแว่นตา และบัตรเครดิต
"ขอบคุณที่มาใช้บริการร้านเรานะคะ"
พนักงานก็ยกมือไหว้ส่วนภีมก็ยกมือไหว้ตอบ พร้อมกับเดินตามแรงจูงของหญิงสาวรุ่นพี่ออกมาจากร้าน
"หิวข้าวจัง"
"พี่เนียร์หิวเหรอครับ"
"ใช่ค่ะ พี่หิวข้าว"
"งั้นเราแยกย้ายกันตรงนี้ก็แล้วกัน ผมขอตัวกลับห้องผมก่อนนะครับ" ภีมเอ่ยลาหญิงสาวรุ่นพี่ กำลังจะเดินออกมาแต่ก็โดนคว้าจับมือไว้ก่อน เขาจึงรีบหันกลับไปมอง "มีอะไรหรือเปล่าครับ"
"จะรีบกลับไปไหน"
"ก็เมื่อกี้พี่บอกว่าจะไปกินข้าว ผมคิดว่าพี่น่าจะอยากกินคนเดียวมากกว่า เลยว่าจะขอตัวกลับก่อน"
"ที่พี่พูดขึ้นมาแบบนั้น เพราะอยากให้น้องภีมไปทานด้วยกันค่ะ"
"แต่วะ...(ภีม)/ไม่ต้องคิดมากเรื่องเงิน พี่เลี้ยงเอง(นาเนียร์)"
หญิงสาวรุ่นพี่เดินจูงมือเขามาที่ร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดัง โดยชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็รู้สึกรับรู้ได้ถึงราคาว่ามันต้องแพงมากแน่ ๆ แต่พอจะปฏิเสธ ก็ทำไม่ได้ จึงยอมเดินเข้ามานั่งภายในร้านอาหารเงียบ ๆ
"สวัสดีค่ะคุณลูกค้า ไม่ทราบว่าจะรับอะไรกันดีคะ"
โดยพอพนักงานเอ่ยถามมาแบบนั้นเขาได้แต่ยิ้มแห้ง พร้อมกับเปิดสมุดเมนูดูไปเรื่อย เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะสั่งอะไรดี
"ที่ร้านนี้มีแต่ของอร่อยเลยนะ พี่ขอแนะนำเป็นสปาเกตตีซอสมะเขือเทศ กับสปาเกตตีผัดพริกแห้ง อร่อยมาก" นาเนียร์ที่นั่งสังเกตเห็นสีหน้าของฝั่งตรงข้ามก็เลยพูดออกมา
"งั้นผมขอเป็นสปาเกตตีซอสมะเขือเทศก็แล้วกันครับ"
"สปาเกตตีผัดพริกแห้ง ขอเพิ่มเบคอนด้วยนะคะ"
"ได้ค่ะคุณลูกค้า รอสักครู่นะคะเดี๋ยวดิฉันจะรีบเอาอาหารมาเสิร์ฟ" โดยพอพนักงานพูดแบบนั้นก็รีบเดินออกไป
"น้องภีมต้องกลับห้องก่อนไหมคะถึงจะมาทำงาน หรือว่าไปที่ร้านเลย"
"ต้องดูเวลาครับ ถ้ามีเวลาเหลือมาก ผมก็จะกลับห้อง"
"ห้องพักของน้องภีมอยู่ไกลจากที่ทำงานไหมคะ"
"ไม่ครับ เดินประมาณสิบนาทีก็ถึง"
"ปกติเราเดินมาทำงานเหรอ"
"ใช่ครับ โดยส่วนมากแล้วผมจะเดินมาทำงาน แต่จะมีบางครั้งที่เวลากลับเหนื่อยมาก ก็จะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ครับ"
"เราเป็นเด็กต่างจังหวัดเหรอ"
"ชะ...ใช่ครับ"
"ทำไมตกใจแบบนั้นด้วย" นาเนียร์ยิ้มออกมาพร้อมกับยื่นมือมาจับแก้มของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
"ไม่มีอะไรหรอกครับ"
"เรารู้หรือเปล่า ว่าคอนโดของพี่อยู่ติดกับร้านที่เราทำงานอยู่"
"รู้ครับ เพื่อนผมเพิ่งบอกเมื่อตอนเที่ยง"
"เพื่อน?"
"เพื่อนผมชื่อโต้งครับ เป็นลูกเจ้าของร้านหมูกระทะที่ผมทำงานอยู่ มันบอกว่ารู้จักพี่มาตั้งนานแล้ว"
"อ๋อ ร้านนี้แต่ก่อนพี่ก็ไปบ่อย แต่จะมีช่วงหลังจากฝึกงานนี่แหละ ที่ไม่ค่อยได้ไปกินเลย ทั้งที่อยู่ติดกับที่พัก"
"พี่เนียร์ฝึกงานแล้ว"
"ใช่ค่ะ แล้ววันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง"
"เหนื่อยมากเลยครับ"
"พี่ก็เหมือนกัน เรียนทั้งวันเลย"
"แต่เดี๋ยวอีกไม่นานพี่ก็จะจบแล้ว แต่ผมนี่สิเหลืออีกตั้งหลายปี"
"เวลาแป๊บเดียวเอง พี่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเพิ่งขึ้นมหาลัยเองนะ แป๊บ ๆ จะเรียนจบอยู่แล้ว"
เราสองคนก็นั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไม่นานพนักงานก็เดินมาเสิร์ฟอาหาร เราก็นั่งทานกันอย่างเอร็ดอร่อย
"นี่หอพักเราเหรอ"
หลังจากที่ทานอาหารกันที่ห้างสรรพสินค้าเรียบร้อยแล้ว นาเนียร์ก็นั่งรถแท็กซี่มาส่งชายหนุ่มรุ่นน้องที่หอพักของเขา
"ใช่ครับพี่เนียร์"
"....."
"งั้นผมขอตัวก่อนนะ เดี๋ยวต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานแล้ว"
"ค่ะ" หญิงสาวก็ตอบออกไป
ภีมก็รีบเดินลงจากรถไป ส่วนเธอก็หันไปบอกคนขับรถแท็กซี่ว่าจะให้เขาไปส่งเธอที่ไหน ซึ่งพอพูดเสร็จคนขับรถก็รีบขับออกมาเลย
ส่วนเธอก็นั่งเล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลา โดยนั่งเล่นไปประมาณไม่ถึงสิบนาที รถก็มาจอดอยู่บริเวณด้านหน้าของคอนโดที่เธออาศัยอยู่ หญิงสาวจึงหยิบธนบัตรใบสีแดงสามใบเพื่อจ่ายค่าใช้บริการ พร้อมกับบอกว่าไม่ต้องทอน แล้วเปิดประตูลงจากรถ แล้วเดินเข้าในคอนโดของตัวเอง
"นาเนียร์ครับ"
แต่ในระหว่างที่เธอกำลังเดินไปที่ลิฟต์นั้น ก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเอง เธอจึงหันมองทางเสียงที่เรียก ก็พบว่าเป็น 'นที' คนคุยเก่าของตัวเอง
"เห็นหน้าผมแล้วทำไมถึงทำแบบนั้นครับ ผมน้อยใจนะ"
"มีอะไรคะ ทำไมมาหาเนียร์ถึงที่นี่เลย" เธอเดินเข้าไปใกล้ ๆ เขาแล้วเอ่ยสอบถามถึงจุดประสงค์ของคนตรงหน้า
"วันนี้ทีไปทำธุระที่ห้างมา บังเอิญเห็นเนียร์เดินจูงมือกับใครก็ไม่รู้อยู่ที่หน้าห้าง แต่พอจะเดินเข้าไปทัก เนียร์ก็ดันขึ้นรถแท็กซี่ไปก่อน"
"แล้วทำไมคะ มีอะไรหรือเปล่า"
"ทีแค่อยากรู้ว่าเนียร์อยู่กับใคร ทำไมคุยหยอกล้อกันสนิทสนมกันขนาดนั้น หรือว่าคนนั้นเป็นคนคุยใหม่ของเนียร์"
"จะเป็นใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับทีคะ"
"ก็เราคุยกันอยู่" นทียื่นมือจับนาเนียร์แน่น พร้อมกับทำสีหน้าออดอ้อน
"อย่าพูดว่าเราคุยกันอยู่ค่ะ เพราะเราไม่ได้คุยกันนานแล้ว"
"เนียร์ครับ"
"อย่ามายุ่งกับเนียร์อีก อย่ามาหวงก้างทั้งที่เป็นแค่คนคุย" หญิงสาวพูดจบก็สะบัดมือของคนที่จับมือเธออยู่ออก พร้อมกับเดินเข้ามาในลิฟต์ และกดไปยังชั้นที่ตัวเองพักอยู่ด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ครืด ครืด
ระหว่างที่ยืนรอลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นที่เธอพักอาศัย โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังสั่นขึ้นมา หญิงสาวจึงหยิบขึ้นมาดูเพราะว่าเป็นเพื่อนร่วมคณะของตัวเอง เธอจึงกดรับสาย แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
(แกอยู่ไหนเนี่ย ยัยเนียร์)
"คอนโด"
(ไปทำอะไรมา เสียงไม่ค่อยดีเลย ใครทำแกอารมณ์เสีย)
"ก็นทีน่ะสิ มาดักรอฉันที่หน้าคอนโด"
(อ้าว! ไหนว่าเลิกคุยไปแล้วไง)
"ก็ฉันเลิกแล้ว แต่นายนั่นน่ะสิไม่ยอมเลิก โคตรน่าเบื่อเลย ตามตื๊ออยู่ได้"
(เบื่อใช่ไหม งั้นมา THE BEST ONE สิ วันนี้พวกฉันนัดกันไปดื่มที่นั่น)
"กี่ทุ่ม"
(สามทุ่มจ้ะคนสวย)
"โอเค เดี๋ยวใกล้ถึงเวลาฉันค่อยไป"
(ไว้เจอกันเพื่อนรัก)
พอปลายสายตัดสายไป ประตูลิฟต์ก็เปิดพอดี เธอจึงรีบเดินตรงไปยังห้องของตัวเองที่อยู่อีกมุมของตึก