Chapter 4 | ยังไม่ใช่ แต่อนาคตไม่แน่

1471 คำ
พอควันหลงขับรถเข้ามาจอดบริเวณลานจอดรถของคณะแล้ว นาเนียร์ก็เปิดประตูลงจากรถ พร้อมกับเดินเข้ามาที่คณะของตัวเองโดยที่ไม่ได้รอเพื่อนชาย ซึ่งในตอนที่กำลังเดินเข้ามาในคณะอยู่นั้น ก็เห็นราชาเดินสวนมาพอดี หญิงสาวจึงรีบเดินเข้าไปกางแขนเพื่อขวางเอาไว้ "จะไปไหนสุดหล่อของเนียร์" "ว่าจะไปโรงอาหาร เธอกินข้าวเช้ามาหรือยัง" "ยังเลย นี่กำลังจะไปโรงอาหารพอดี งั้นเราไปด้วยกันเลยดีกว่า" หญิงสาวเดินปรี่เข้าไปคล้องแขนเพื่อนสนิทอย่างราชาด้วยความเคยชิน อย่างที่มักจะทำเป็นประจำ เพื่อนชายของเธอเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะพวกเราเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มสนิทกันแล้ว "นายจะกินอะไร" พอเดินมาถึงโรงอาหารนาเนียร์ก็พูดขึ้น "ยังไม่รู้เลย แต่น่าจะเป็นข้าวมันไก่นั่นแหละ" "ข้าวมันไก่อีกแล้ว กินทุกวันไม่เบื่อหรือไง" "ก็ไม่รู้ว่าจะกินอะไรนี่นา แล้วเธอจะกินอะไร" "อยากซดซุปร้อน ๆ " "จะกินก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่เช้าเลยเหรอ ทำไมถึงไม่กินข้าว" "ก็บอกอยู่ว่าอยากกินซุปร้อน ๆ" "งั้นก็เอาข้าวต้มสิ ร้านป้านวลทำข้าวต้มโบราณอร่อยนะ เธอเคยกินไหม" "เคยกินเมื่อนานมาแล้ว แต่จำรสชาติไม่ได้" "รสชาติดีเลย" "โอเค งั้นฉันไปร้านข้าวต้มก่อน เดี๋ยวถ้านายได้ก่อนก็ไปหาโต๊ะนั่งรอเลยนะ แต่ถ้าฉันได้ก่อนเดี๋ยวฉันหาไว้เอง" "อืม" พอราชาตอบมาแบบนั้น เธอก็เดินปลีกตัวมายังร้านข้าวต้มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของร้านข้าวมันไก่ที่เพื่อนของเธอยืนอยู่ โดยที่หน้าร้านมีนักศึกษายืนอยู่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น เธอจึงรีบเดินไปยืนต่อแถว แต่พอสังเกตดี ๆ คนที่ยืนต่อแถวอยู่ด้านหน้าเธอคือคนที่เธอเจอเมื่อคืน ซึ่งพอชายหนุ่มเห็นเธอก็ตกใจพร้อมกับยกมือไหว้ เธอเห็นแบบนั้นก็รู้สึกเอ็นดูมาก "สวัสดีครับพี่เนียร์" "สวัสดีค่ะน้องภีม กินข้าวต้มตอนเช้าเหมือนกันเลย เราสองคนใจตรงกันนะเนี่ย" "ครับ" "....." "พี่เนียร์ชอบทานข้าวต้มตอนเช้าเหรอครับ" "ใช่" หญิงสาวตอบออกไปด้วยความมั่นใจ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วนี่คือข้าวต้มตอนเช้าในรอบปีของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะตัวเธอนั้นไม่ชอบกินอะไรแบบนี้ตอนเช้าเลย "เหมือนกันเลยครับ ผมก็ชอบกินข้าวต้มตอนเช้า รู้สึกว่าได้ซดซุปร้อน ๆ แล้วรู้สึกมีแรง" "ได้แล้วจ้าน้องภีม" ในขณะที่เธอกำลังคุยกับชายหนุ่มรุ่นน้องอยู่นั้น คุณป้าที่เป็นร้านเจ้าของข้าวต้มก็เอ่ยเรียกคนที่เธอคุยอยู่ ซึ่งชายหนุ่มก็รีบหันกลับไปรับถ้วยข้าวต้มมาถือเอาไว้ พร้อมกับยื่นธนบัตรใบสีเขียวจ่ายค่าอาหารเช้าของตัวเอง "กินที่ร้านนี้บ่อยเหรอ เพราะเพิ่งเข้ามาเรียนได้ไม่นานเอง แต่คุณป้าเจ้าของร้านก็จำชื่อได้แล้ว" "ตั้งแต่เปิดเทอมมา วันไหนมีเรียนคาบเช้า ผมจะมากินข้าวต้มร้านนี้เกือบทุกวันเลยครับ" "เชื่อแล้วว่าชอบจริง ๆ ถ้ามากินเกือบทุกวันขนาดนี้" หญิงสาวตอบออกไปด้วยความเอ็นดูเด็กรุ่นน้องตรงหน้า พร้อมกับเพิ่งสังเกตว่าคนตรงหน้าไม่ได้ใส่แว่น "ไม่ใส่แว่น มองเห็นด้วยเหรอคะ" "มองได้ไม่ชัดเท่าไหร่ครับ แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร" "งั้นเย็นนี้ว่างไหม" "ครับ?" "ก็ที่พี่บอกว่าจะพาไปซื้อแว่นไง เราไม่ได้ใส่แล้วพี่สงสาร คงจะทรมานแย่เลย" "ไม่เป็นไรหรอกครับ ราคาแว่นก็ไม่ใช่ถูก ๆ เดี๋ยวเอาไว้เงินเดือนผมออก ค่อยไปซื้อเอาใหม่เองก็ได้" "ยิ่งน้องภีมบอกว่าราคาแว่นไม่ใช่ถูก ๆ พี่ก็ยิ่งรู้สึกผิด อย่าปฏิเสธพี่เลยนะคะ" นาเนียร์ทำสายตาออดอ้อนเด็กหนุ่มรุ่นน้อง "ก็ได้ครับ ผมไม่ปฏิเสธแล้วก็ได้" "เย่ ๆ แล้วตกลงเย็นนี้ว่างไหม" "ผมเลิกเรียนเวลาสี่โมงเย็นครับ แต่ถ้าพี่ไม่สะดวกก็หลังจากนั้นไม่เกินหนึ่งทุ่มก็น่าจะได้ เพราะผมมีทำงานที่ร้านหมูกระทะตอนหนึ่งทุ่ม" "น้องภีมเลิกเรียนก่อนพี่ งั้นมานั่งรอพี่ที่หน้าคณะนะ เพราะวันนี้พี่เลิกเรียนตอนสี่โมงครึ่งเลย เดี๋ยวถ้าอาจารย์ปล่อยพี่จะรีบวิ่งลงมาหาทันที" "ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ครับ ผมรอได้" "คนสวยเอาอะไรดีจ๊ะลูก" พอได้ยินคุณป้าเจ้าของร้านเรียกตัวเองแล้ว เธอก็รีบเดินไปสั่งเมนูที่ตัวเองจะกิน "ข้าวต้มโบราณค่ะ" "หนึ่งถ้วยนะลูก" "ค่ะป้า ไม่ต้องเอาเยอะนะ แค่กระบวยเดียวก็พอ" "ได้จ้ะลูก" โดยคุณป้าตอบเธอแล้วก็หันไปตักข้าวต้มใส่ถ้วย พร้อมกับมาวางไว้ตรงหน้าเธอ "ยี่สิบบาทจ้ะ" พอคุณป้าพูดราคานาเนียร์ก็หยิบธนบัตรใบสีแดงเพื่อจ่ายค่าข้าวต้ม โดยเธอยืนรอเงินทอนไม่นาน แต่พอจะหันหลังกลับมาคุยกับเด็กหนุ่มรุ่นน้องก็ต้องชะงัก เพราะตอนนี้น้องเขาดันไม่อยู่แล้ว "ไปไหนนะ ทำไมหายเร็วจังวะ" นาเนียร์สอดส่องสายตาเพื่อมองหาเป้าหมายของตัวเอง "เธอมองอะไรของเธอ" ในขณะที่ตั้งใจมองอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง ซึ่งเธอก็จำได้ดีว่าเสียงนั้นคือเสียงของควันหลง "น้องภีม" "ใครคือน้องภีม" "แกไม่รู้จักหรอก น้องเขาเพิ่งเข้ามา" "เด็กใหม่เธอเหรอ" "ยังไม่ใช่ แต่อนาคตไม่แน่" หญิงสาวก็สอดส่องของตัวเองต่อไป "หยุดมองหาเหยื่อได้แล้ว เธอมีสอบตอนเก้าโมงเช้าไม่ใช่เหรอ นี่มันแปดโมงครึ่งแล้วนะ รีบไปกินข้าวได้แล้ว" ซึ่งพอควันหลงพูดแบบนั้น เธอก็รีบก้มดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตัวเองทันที พบว่าเป็นเวลาแปดโมงครึ่งตามที่เพื่อนของเธอพูดไม่มีผิด "ทำไมเวลามันเดินเร็วจังเลยเนี่ย เมื่อกี้เพิ่งเจ็ดโมงอยู่เลย" "ไปกินข้าวได้แล้ว ส่วนน้ำไม่ต้องไปซื้อ ฉันเห็นไอ้ราชาซื้อไว้ให้เธอแล้ว" "อืม" นาเนียร์ตอบควันหลงไป พร้อมกับเดินมายังโต๊ะที่ราชานั่งอยู่ หลังจากที่หญิงสาวรุ่นพี่หันไปสั่งอาหารของตัวเองแล้ว ชายหนุ่มจึงคิดว่าพี่เขาคงไม่มีอะไรจะพูดกับตัวเองอีก จึงเดินปลีกตัวออกมาหาเพื่อนสนิทอย่างโต้งนั่งกินข้าวของตัวเองรออยู่ "เมื่อกี้มึงคุยกับพี่นาเนียร์เหรอวะ" "ใช่ บังเอิญกินข้าวร้านเดียวกันพี่เขาก็เลยทัก" ภีมตอบเพื่อนไป พร้อมกับนั่งทานข้าวต้มของตัวเอง "มึงพูดอะไรกับพี่เขา กูเห็นพูดนานเลย" "พี่เขาก็แค่ถามเฉย ๆ ว่าชอบกินข้าวต้มร้านที่กูซื้อเหรอ กูก็เลยบอกว่าใช่ ก็แค่นั้นแหละ" "กูอิจฉามึงจังว่ะภีม ที่นางฟ้าอย่างพี่นาเนียร์พูดอย่างสนิทสนมด้วย" "ก็ไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้นนะ พี่เขาก็แค่ทักปกติ" "ไม่ปกติเลยสักนิด เพราะจากการที่กูสังเกตแล้วปกติพี่เขาจะคุยเล่นกับพวกเพื่อนเท่านั้น แต่ถ้าเป็นรุ่นน้องก็คือแทบไม่เห็นเลย" "ที่พูดเหมือนกับรู้จักพี่เขามานานอย่างนั้นแหละ" "ก็รู้จักมานานน่ะสิ กูรู้จักพี่เขามาตั้งแต่พี่เขาเรียนปี 1 แล้ว" "รู้จักได้ยังไง มึงก็เพิ่งมาเรียนที่นี่พร้อมกูไม่ใช่เหรอวะ" "ถึงกูจะพึ่งมาเรียนที่นี่ได้ไม่นาน แต่กูก็รู้จักและเคยเห็นพี่เขามาตั้งนานแล้ว" "มึงติดตามพี่เขาในโซเชียล?" "อันนั้นมันก็อีกเหตุผล" "มึงพูดอะไร กูไม่เข้าใจ" "คือกูก็ติดตามโซเชียลของพี่เขาเหมือนกัน แต่ที่ว่าเห็นบ่อยก็คือคอนโดของพี่เขาอยู่ติดกับร้านหมูกระทะของแม่กูไง" โดยพอโต้งพูดออกมาแบบนั้น เขาก็นึกไปถึงคอนโดหรูที่ติดร้านหมูกระทะของแม่เพื่อนเขา "ตึกใหญ่ ๆ ที่ติดร้าน" "ใช่ ตึกนั้นแหละ แล้วมึงรู้ไหมพี่เขาน่ะ..." ภีมก็นั่งฟังโต้งพูดเรื่องของหญิงสาวรุ่นพี่ไป ส่วนเขาก็นั่งทานข้าวของตัวเองต่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม