ตอนที่ 8 มาทำไม
“มาแฮปปี้เบิร์ธเดย์พี่ไงคะ” เอ่ยเสียงสั่น แววตาคู่สวยไหวระริกจนเขาแทบหายใจไม่ออก นิ่งงันไปชั่วขณะ
“อ้าวน้องรู้จักกับไอ้พอร์ชเหรอครับ ถ้างั้นคนกันเองเลย มานั่งดีกว่า” ชายคนหนึ่งที่เห็นสถานการณ์ตรงหน้าไม่สู้ดีนัก บรรยากาศรอบตัวกร่อยลงแปลกๆ ความสนุกครื้นเครงแทบจะหายไปทันทีเมื่อเห็นวี่แววมาคุของชายหญิงทั้งคู่ผ่านสายตาจึงรีบแก้ไขสถานการณ์
ทว่า...
“ไม่ต้องหรอก เขาจะกลับแล้ว” เชฟหนุ่มกลับเอ่ยขัดขึ้นพลอยทำให้หญิงสาวข้างตัวนึกชอบใจ จนแทบอยากเสียงหัวเราะออกมา แต่พยายามสะกดความรู้สึกดีใจนั้นไว้
“ค่ะ ไม่ต้องหรอกค่ะ เพราะบัวจะกลับแล้ว บัวแค่อยากมาเห็นหน้าคนที่บัวรัก คนที่บัวเชื่อใจว่าจะไม่หลอกลวงบัวก็แค่นั้น” จบประโยคนั้นเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นจากคนรอบตัว ชายหนุ่มมองสบตาเธอนิ่งชั่วครู่ แม้จะรู้สึกผิด ยิ่งเห็นแววตาเธอก็อดรู้สึกอะไรบางอย่างไม่ได้ แต่ในเมื่อสถานการณ์ตรงหน้าที่ค่อนข้างบีบคั้นความรู้สึกเขา ให้ต้องรีบตัดสินใจอย่างที่เขาไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน จึง เดินฝ่ากลุ่มเพื่อนออกมาเผชิญหน้าหญิงสาว เค้นเสียงต่ำ พยายามสะกดอารมณ์ตัวเองไม่ให้ทำร้ายความรู้สึกเธอมากไปกว่านี้
“บัวอย่าพูดจาบีบคั้นพี่ พี่บอกให้กลับบ้าน” เพราะเขายังไม่อยากตัดสินใจอะไรในตอนนี้ และยังไม่อยากจะเสียเธอไป จึงไม่อยากใช้อารมณ์
ทว่า...โครม! เสียงน้ำที่สาดเข้าใส่ใบหน้าเขาเต็มๆ
เพี้ย!! เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าหล่อดังขึ้นเต็มแรงจนหน้าหันตาม ท่ามกลางเสียงฮือฮาของทุกคนที่ดังขึ้นอีกครั้ง
“เธอทำบ้าอะไรรัญลฎา” คำแรกที่เขาผรุสวาทออกมาหลังจากที่ทุกอย่างเงียบสงัด ทุกอย่างรอบตัวราวกับหยุดเคลื่อนไหวตาม สายตาของคนทุกคู่เบิกกว้างด้วยความคาดไม่ถึงทั้งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อหญิงสาวหน้าตาสวยแปลกหน้ากลับมีท่าทีแบบนั้นกลับเพื่อนของเขา
สายตาดำมืดหันมาจ้องมองหญิงสาวราวกับชิงชังกันมาแต่ปางก่อน พลอยทำให้เธอถึงกับสะอึกอึ้งไปทันที ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“บัวมากกว่ามั่งคะ ที่ต้องถามพี่ว่าพี่ทำบ้าอะไรอยู่ พี่ทำแบบนี้กับบัวได้ยังไง...พี่มีคนอื่นลับหลังบัว” เสียงหล่อนสั่นสะท้าน พลางเหลือบสายตามองใครอีกคนที่กำลังจ้องเธอนิ่งด้วยแววตาคล้ายเยาะอยู่ตลอดเวลา
“พี่ไม่เคยมีคนอื่น” ตอบเสียงสะบัดไม่พอใจ ก่อนจะหันหลังหนี เมินมองกวาดสายตามองไปทั่ว พยายามระงับอารมณ์ที่กำลังพลุกพล่านด้วยความไม่พอใจ
“แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครคะ” เธอสวนเขากลับทันควัน หยดน้ำตาร่วงเผาะ ริมฝีปากบางเม้มหากันจนเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง
เจ็บจนไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิด
ชายหนุ่มนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะหันกลับมามองหน้าหญิงสาวคนข้างตัว สบตาอดีตคนรักที่ยืนมองเขานิ่ง ไม่แสดงสีหน้าอะไร
“มุกรดา...แฟนเก่าพี่” หล่อนยืนอึ้งไปนานทั้งๆที่รู้อยู่แล้วยังรู้สึกคล้ายกับถูกค้อนปอนขนาดใหญ่ทุบเข้าที่กลางศีรษะ จุกแน่นหายใจไม่ออกราวกับหัวใจกำลังถูกบีบอัดด้วยแรงมหาศาล หยดน้ำตาพรั่งพรูอาบแก้มทั้งสองข้าง สะอื้นฮักออกมาทันที
“มะ...หมายความว่ายังไงคะ พี่มาหาเธอ แล้วทิ้งนัดของบัว” สายตาดำมืดจ้องมองเธอนิ่งนานหลายวินาที ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยในสิ่งที่ทำให้คนฟังถึงกับยืนนิ่งช็อกไป
“บัว...พี่ว่าเราเลิกกันเถอะ” ประโยคที่คล้ายดั่งคำประหักประหารพรากวิญญาณของเธอแทบดับสูญ เมื่อได้ยินถ้อยคำที่ไม่คิดฝันมาก่อนว่าเธอจะได้รับคำฟังคำพูดที่ทำร้ายหัวใจของเธอได้ถึงเพียงนี้
“ละ...เลิกเหรอคะ!”
“อืม เลิกกันเถอะ พี่คิดมาสักพักละ พี่จะกลับไปคบกับมุกรดา” หยดน้ำตาร่วงเผาะเมื่อได้ฟังคำพูดแสนโหดร้ายออกมาจากปากเขา สายตาของเขาที่ทอดมองมาที่เธอมันช่างว่างเปล่า เย็นชาไร้เยื่อใย
“หึหึ พี่พูดบ้าอะไรออกมาคะ” หล่อนแค่นหัวเราะออกมาด้วยความขมขื่น น้ำตารื่นรินไหลอาบแก้ม น่าขำที่เธอถูกเขาบอกเลิก โดยที่ตัวเธอเองไม่เคยแม้แต่จะได้ใช้คำว่าคบกันกับเขาสักครั้ง เอ่ยต่อด้วยประโยคที่แสนเจ็บปวด สะอื้นเบาๆ
“ที่ผ่านมาบัวยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเราคบกัน”
“อืม พี่ก็ไม่เคยคิดว่าเธอเป็นแฟนพี่อยู่แล้ว”
“ว่าไงนะคะ ไม่เคยคิด! แต่วันนี้พี่มาบอกเลิกบัว จะทิ้งบัว งั้นในสายตาพี่... พี่เห็นบัวเป็นตัวอะไรคะ บัวเป็นตัวอะไรในสายตาพี่” เชฟหนุ่มถอนหายใจยาว หนักอึ้งไปทั้งหัวใจ เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งตนทำนั้นเลวร้ายกับเธอมากขนาดไหน เขาไม่เคยชัดเจน ไม่เคยให้เกียรติเฉกเช่นคนรัก มิหนำซ้ำที่ผ่านมาเขายัง เห็นแก่ตัวเอาเปรียบเธอ ตักตวงความสุขจากเรือนร่างที่สวยงามตรงหน้าโดยไม่คิดถนอมน้ำใจเธอเลยสักครั้ง เพราะรู้ดีว่าอย่างไรเธอก็รักเขา ยอมเขา ไม่เคยแม้แต่จะมีปากเสียง อาจจะงอนบ้าง น้อยใจเขาบ้างแต่ก็ตามประสาผู้หญิงเท่านั้น
“บัวจะโกรธเกลียดพี่ก็ได้นะ พี่จะไม่ว่าบัว ไม่โกรธบัว” เธอสูดน้ำมูกเสียงดัง สะอื้นไห้ ดวงตาแวววาวด้วยหยาดน้ำตา จ้องมองเขาด้วยสายตาทั้งรักทั้งชัง
“เห็นแก่ตัว พี่มันคนเห็นแก่ตัว” เธอเค้นเสียงต่อว่าเขา น้ำตานองหน้า
“อืม...พี่ยอมรับ” คำตอบรับที่ออกจากปากของเขา ยิ่งทำให้เธอสะอึกจนพูดอะไรไม่ได้ เนิ่นนานหลายนาทีที่ต่างยืนจ้องหน้ากัน ก่อนจะเหลือบสายตามองผู้หญิงคนนั้นที่จ้องมองเธอด้วยสายเยาะเย้ย พอใจกับสิ่งที่ได้ยินออกจากปากชายหนุ่มอดีตคนรักเธอ
หญิงสาวก้มหน้าลง ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะหันมาสบตาเขาอีกครั้งอย่างเจ็บปวด ตัดสินใจพูดในสิ่งที่กักเก็บมาแล้วหลายวัน ด้วยน้ำเสียงเนิบช้าหยั่งเชิง
“แล้วถ้าบัวบอกพี่ว่า...บัวท้องละคะ พี่จะยังทิ้งบัวไปไหม”
“เธอว่าไงนะ” หางคิ้วกระตุก เค้นเสียงรอดไรฟัน เอ่ยถามกลับเสียงเข้ม แววตาวาวโรจน์ด้วยความไม่พอใจพร้อมกับส่ายหน้าอย่างช้าๆ ท่ามกลางเสียงฮือฮาของใครหลายคนที่คอยยืนฟังอย่างตั้งใจ
“บัวบอกว่าบัวท้อง!” เธอย้ำอีกครั้ง อย่างชัดถ้อยชัดคำ หยดน้ำตาร่วงเผาะ แต่เขากลับมองเธอด้วยสายตาเปลี่ยนไป แววตาดุดันแข็งกร้าวนั้น ปากหยักหนากระตุกยิ้มมุมปากคล้ายหยัน
“หึ รัญลฎาพี่ไม่คิดว่าเธอจะทำตัวน่าสมเพช ขนาดกุเรื่องบ้าๆนี่ขึ้นมาเพื่อรั้งไม่ให้พี่เลิกกับเธอหรอกนะ”
“บัวไม่ได้กุเรื่อง บัวพูดจริงๆ บัวท้อง!” แววตาแข็งกร้าวดุดันจ้องมองเธอนิ่ง เขาไม่คิดจะเชื่อคำพูดของเธอเลยแม้แต่นิด แถมยังพ่นวาจาร้ายกาจที่ทำให้เธอถึงกับชาไปทั้งร่าง
“ถ้าท้องจริงๆ ก็ไปเอาเด็กออก พ่อแม่ไม่รักกัน รังแต่จะทำให้เด็กมีปัญหาเปล่าๆ”
“เห้ยไอ้พอร์ชใจเย็นๆ อย่าพูดอะไรเหี้ยๆออกไปแบบนั้น” ธาราที่ยืนมองดูสถานการณ์มาตั้งแต่ต้นรีบเดินมาปราม แต่จังหวะนั้น
เพี้ยะ!!! สิ้นคำของเขาฝ่ามือบางก็ฟาดเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่มใจร้ายเต็มแรง เจ็บที่สุดเมื่อได้ยินคำนั้นออกจากปากของเขา
ผู้ชายที่เธอยิ่งกว่ารัก ยิ่งกว่าบูชา ผู้ชายสารเลว!!!
“พี่พูดนี้ออกมาได้ยังไง! พี่ใจร้ายมากนะ” พ้อเสียงสั่น แววตาคู่สวยไหวระริก