bc

เล่ห์รักคุณเจ้าสาว

book_age18+
147
ติดตาม
1K
อ่าน
จบสุข
เบาสมอง
นักสืบ
like
intro-logo
คำนิยม

เพราะถูกแฟนเก่าตามราวีไม่เลิก ทำให้ 'กานต์พิชชา' ต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคน และ 'ปรัชญ์' คือผู้ชายที่ยื่นมือเข้ามาช่วย...ทว่าเขาไม่เคยช่วยใครฟรีๆ

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ
บทนำ หญิงสาวร่างบางในชุดราตรีเกาะอกสีม่วงประดับมุก ยืนอวดเรือนร่างสวยงามในงานแวดวงสังคม กานต์พิชชาแอบกลอกตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย ขณะยืนฟังมารดาคุยกับบรรดาคุณหญิงคุณนายทั้งหลายอย่างออกรสในงานประมูลเครื่องเพชรการกุศลประจำปี ที่จัดขึ้นโดยสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับแห่งประเทศไทย กานต์พิชชาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่นชอบเรื่องความสวยความงาม ทว่าเธอไม่มีความรู้และไม่มีความสนใจในงานการกุศล ที่เต็มไปด้วยคุณหญิงจากตระกูลนั้น คุณนายจากตระกูลนี้ ต่างประโคมเครื่องเพชรมาประชันกันราวกับตู้เพชรเคลื่อนที่แบบนี้เลยสักนิด แต่ที่เธอต้องมายืนทำหน้าเบื่อ ๆ อยู่ตรงนี้ก็เพราะถูกคุณหญิงกรกฎผู้เป็นมารดา ‘บังคับ’ ให้มางานนี้ด้วย "คุณแม่คะ กานต์ขอตัวกลับก่อนกลับก่อนได้ไหม" เธอขยับเข้าไปสะกิดแขนและกระซิบบอกมารดาที่กำลังคุยเฮฮาอยู่กับเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างออกรส แต่เธอรู้ดีว่ามันคือการแสดงทั้งนั้น จะบอกว่าเป็นการคุยกันที่ดูปลอมที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมาเลยก็ว่าได้ "อ้าว จะกลับได้ยังไง เรายังไม่ได้ประมูลเพชรเลยสักชุดเลยนะ อย่างเพิ่งกลับเลย" คำตอบของมารดาทำให้กานต์พิชชากลอกตาอีกครั้ง เธอคิดเอาไว้แล้วว่าต้องได้คำตอบแบบนี้ เพราะเธอเคยโดนคุณหญิงกรกฎบังคับให้มางานการกุศลแบบนี้อยู่หลายครั้ง และส่วนมากเธอมักจะหาข้ออ้างที่จะไม่มาได้ แต่ครั้งนี้เธอจนปัญญาที่จะหาอะไรมาอ้างจริง ๆ เพราะถูกมารดาดักเอาไว้ทุกทาง เลยทำให้เธอต้องมายืนโง่ ๆ อยู่ในงานอย่างนี้ไงล่ะ จุดประสงค์ของมารดาที่ต้องติดสอยห้อยเธอมาด้วย ก็เพื่อจะพาเธอมาอวดเท่านั้น อวดบรรดาเพื่อน ๆ เหล่าคุณหญิงคุณนายทั้งหลายว่าตนมีลูกสาวสวย ทว่างานนี้จุดประสงค์ของคุณหญิงกรกฎกลับไม่ได้มีแค่การอวดลูกสาวเพียงอย่างเดียว หากมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่ด้วย ซึ่งหญิงสาวรู้ดีว่ามันคืออะไร "อ้าวคุณพี่เขม มาแล้วเหรอคะ" ชื่อของคนที่คุณหญิงกรกฎหันไปทักทายนั้น ยิ่งทำให้กานต์พิชชาอยากเสียมารยาทเดินออกจากงานไปเสียตอนนี้เลยจริง ๆ หากไม่ติดว่าเธอยังเกรงใจและไม่อยากให้มารดาเสียหน้าต่อบรรดาเพื่อนฝูง "สวัสดีจ้ะน้องกฎ พี่เพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี้เอง น้องกฎมานานแล้วเหรอคะ" คุณหญิงเขมนิจเอ่ยทักทายรุ่นน้องกลับด้วยเสียงหวานดัดฟังดูเสแสร้ง พลางยกมือขึ้นลูบลำคอเพื่อเนียนอวดเครื่องเพชรที่ตนประโคมใส่มา "มาได้สักพักแล้วค่ะ" คุณหญิงกรกฎที่เป็นรุ่นน้องก็ไม่น้อยหน้า นางแสร้งยกมือขึ้นปัดไรผมออกจากกรอบหน้า ทั้งที่ไม่มีผมตกลงมาเลยสักเส้น เพื่ออวดเครื่องเพชรที่ประโคมมาเต็มลำคอและข้อมือ "อุ๊ยตาย! น้องกานต์ก็มางานนี้ด้วยเหรอจ๊ะ" เมื่ออวดกันพอหอมปากหอมคอแล้ว คุณหญิงเขมนิจก็เบนความสนใจมายังกานต์พิชชาที่ยืนทำหน้าเบื่อ ๆ อยู่ข้างหลังมารดา และเมื่อโดนผู้ใหญ่ทัก หญิงสาวจำเป็นต้องขยับมายืนข้างมารดาและแสร้งยิ้มรับคำทักทายของอีกฝ่าย "สวัสดีค่ะคุณป้า" เธอยกมือไว้อย่างนอบน้อม "สวัสดีจ้ะ มาเรียกคุณปงคุณป้าอะไรล่ะคะ เรียกคุณแม่เหมือนเดิมสิจ๊ะ" เมื่อโดนคนที่อายุมากกว่าเอ็ด กานต์พิชชาก็ได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ ไปให้ด้วยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ "ดีจังเลยที่วันนี้น้องกานต์ก็มาด้วย พี่นัทเขาก็มาน้า เอ๊ะ! หรือว่านัดกันมา ถึงว่าสิตานัทไม่บ่นสักคำตอนที่แม่ชวนมา" หญิงสาวส่งยิ้มแหย ๆ ให้อีกครั้งหลังจากคุณหญิงเขมนิจพูดเองเออเองเสร็จสรรพ ส่วน ‘พี่นัท’ ที่พูดถึงก็คือขจรศักดิ์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนาง และมีสถานะเป็น ‘แฟนเก่า’ ของกานต์พิชชานั่นเอง ไม่ผิดหรอกที่คุณหญิงเขมนิจจะทักท้วงเรื่องที่เธอเรียกนางว่าคุณป้า เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ยังคบกับลูกชายของนาง กานต์พิชชาเรียกหล่อนว่าคุณแม่มาโดยตลอด จนกระทั่งหญิงสาวตัดสินใจเลิกกับขจรศักดิ์อย่างเด็ดขาดไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว เธอจึงเปลี่ยนการเรียกมารดาของชายหนุ่มจากกคุณแม่มาเป็นคุณป้าแทน เพื่อความเหมาะสม และเพื่อแสดงความชัดเจนว่าเธอตั้งใจจะตัดขาดกับอีกฝ่ายอย่างจริงจัง "ตานัทก็มาด้วยหรือคะ บังเอิญจังเลย" เมื่อเห็นกานต์พิชชาไม่พูดอะไร คุณหญิงกรกฎจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาแทน ได้ยินน้ำเสียงและเห็นท่าทางที่ไม่แนบเนียนของมารดาแล้ว หญิงสาวก็ยิ่งแน่ใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ถูกเตรียมการมาเป็นอย่างดี ที่บอกว่าจุดประสงค์ของการมาร่วมงานวันนี้ของคุณหญิงกรกฎไม่ได้มีแค่การอวดลูกสาวเพียงอย่างเดียว ก็เพราะกานต์พิชชารู้ดีว่ามารดามีอีกหนึ่งจุดประสงค์ที่แอบแฝง ซึ่งเธอคิดว่าก็คงเป็นการเปิดทางให้ขจรศักดิ์ได้เจอกับเธอในวันนี้ คุณหญิงกรกฎกับคุณหญิงเขมนิจนั้นรู้จักกันมานาน เพราะทั้งคู่อยู่ในสมาคมแม่บ้านทหารบกและออกงานด้วยกันบ่อยครั้ง จึงทำให้ทั้งสองคนสนิทกันมาก และที่กานต์พิชชาได้รู้จักกับขจรศักดิ์จนกระทั่งตกลงคบหากันก็เพราะผู้เป็นมารดาแนะนำให้รู้จัก ขจรศักดิ์เป็นผู้ชายที่มีคุณสมบัติตรงตามที่คุณหญิงกรกฎต้องการทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ฐานะ ชาติตระกูล และที่สำคัญธุรกิจของเขากำลังไปได้สวย ซึ่งอย่างหลังนี้มารดาของเธอปราบปลื้มมากเป็นพิเศษ แต่หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังของธุรกิจที่เขาทำนั้นไม่ได้ใสสะอาดอย่างที่ทุกคนเห็น ช่วงก่อนที่กานต์พิชชาจะตกลงคบหากับขจรศักดิ์เป็นแฟน เขาก็เหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไป เป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติเธอทุกอย่าง ทว่าพอหลังจากที่เธอตกลงยอมคบด้วย ทุกอย่างที่เธอเห็นก่อนหน้านี้มันค่อย ๆ หายไปทีละอย่าง ซึ่งเธอก็คิดว่ามันคงเป็นเรื่องปกติของคนเป็นแฟนกัน เพราะตอนคบกันแรก ๆ อะไรก็ดีไปเสียหมด แต่พอหมดช่วงโพรโมชันแล้วก็เริ่มเผยนิสัยที่แท้จริงของตัวเองออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็น กานต์พิชชาไม่ได้ตัดสินใจเลิกกับอีกฝ่ายในตอนนั้น เธอเริ่มเรียนรู้และทำความเข้าใจในนิสัยที่เปลี่ยนแปลงไปของเขา ทว่าพอนานวันเข้าก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายและเริ่มทนไม่ไหว แต่สิ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้จนถึงขั้นตัดความสัมพันธ์กับเขา ไม่ใช่เพราะเรื่องที่เขาทำธุรกิจผิดกฎหมายที่เธอบังเอิญไปรู้มาหรือเพราะนิสัยหลาย ๆ อย่างของเขา หากเป็นเพราะ...เขามีคนอื่น เธอจับได้คาหนังคาเขา และเห็นเต็ม ๆ สองตาว่าเขากำลังมีอะไรกับผู้หญิงอีกคนในคอนโดมิเนียม ที่เขาบอกว่าไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนขึ้นมานอกจากเธอ หลังจากเห็นภาพที่สองคนกำลังเข้าได้เข้าเข็มกันแบบจะ ๆ ฟางเส้นสุดท้ายของเธอก็ขาดลงทันที เธอตัดสินใจบอกเลิกเขาทันทีโดยไม่ต้องใคร่ครวญให้เสียเวลา จากนั้นก็หันหลังแล้วเดินออกมาจากคอนโดฯ ของเขาทันทีโดยไม่มีน้ำตาไหลออกมาให้เห็นสักหยด หลังจากวันนั้นขจรศักดิ์ก็ตามง้อและหาทางเข้าหาเธอตลอดทุกครั้งที่มีโอกาส และทุกครั้งที่เขาตามมาง้อ เธอก็บอกเขาไปอย่างเด็ดขาดว่าเธอจะไม่มีทางกลับไปแล้ว อีกทั้งยังอธิบายถึงนิสัยหลาย ๆ อย่างของเขาที่เข้ากันไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ยอมฟัง ยังคงตามง้อเธอไม่หยุดหย่อน เป็นเหตุให้เธอพยายามหาทางเลี่ยงและไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เข้าถึงตัวได้เลยสักครั้ง ตัดปัญหาโดยการไม่เจอ ไม่พูดไม่คุยกันเลยดีกว่า เพราะว่าเธอไม่สามารถให้อภัยคนที่หักหลังเธอได้จริง ๆ "นั่นไง มาพอดีเลย" แต่เหมือนว่าครั้งนี้เธอจะไหวตัวไม่ทัน เมื่อคุณหญิงเขมนิจโบกไม้โบกมือเรียกลูกชายของตนที่กำลังเดินเข้ามา "ตานัท ทางนี้ลูก" ขจรศักดิ์เดินยิ้มเข้ามาหาผู้เป็นมารดา เขามองหน้ากานต์พิชชาด้วยรอยยิ้มราวกับเขาและเธอไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ก่อนจะหันไปยกมือไหว้ทักทายคุณหญิงกรกฎ "สวัสดีครับคุณแม่ สบายดีนะครับ" "แม่สบายดีจ้ะลูก แล้วเราล่ะ สบายดีไหม" คุณหญิงกรกฎทักทายกลับด้วยรอยยิ้ม "ผมเพิ่งกลับจากจีนเมื่อสองวันก่อน มีของมาฝากคุณแม่ด้วยครับ" บอกพร้อมกับยื่นถุงกระดาษขนาดกลาง ๆ ที่ถือมาด้วยส่งให้หญิงวัยกลางคน เขาก็เป็นแบบนี้ รู้จักวิธีเข้าหา พูดคุยและเอาใจผู้ใหญ่ เพราะแบบนี้มารดาของเธอถึงได้ถูกใจ และอยากได้ชายหนุ่มคนนี้มาเป็นลูกเขยของตน โดยที่ไม่รู้เลยว่าแท้จริงผู้ชายคนนี้เป็นอย่างไร "อุ๊ยตายแล้ว น่ารักอะไรอย่างนี้ ขอบคุณมาก ๆ นะจ๊ะ" คุณหญิงกรกฎรับถุงของฝากมากจากชายหนุ่ม คลี่ออกดูนิด ๆ แล้วเอ่ยด้วยความปลาบปลื้ม ก่อนจะถามต่อยิ้ม ๆ "แล้วไม่มีของน้องกานต์หรือจ๊ะ เอ...แม่ว่าลูกนัทไม่น่าจะพลาดนะ" ขจรศักดิ์ป้องปากหัวเราะเบา ๆ "ครับ ไม่พลาดแน่นอน แต่มันค่อนข้างชิ้นใหญ่นิดนึงน่ะครับ ให้ถือเข้ามาคงไม่สะดวก คงต้องให้เจ้าตัวไปเอาที่รถครับ" เอ่ยจบทั้งสามคนก็ส่งสายตารู้กัน เป็นอันว่าเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ทั้งสามคนแอบเตรียมกันมา กานต์พิชชากลอกตาด้วยความเบื่อหน่ายอีกครั้ง ในสมองกำลังหาทางปฏิเสธ แต่กลับไม่ทันเมื่อผู้เป็นมารดาที่เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน "ไปสิลูก พี่เขาอุตส่าห์ซื้อของมาฝาก เห็นว่าเป็นชิ้นใหญ่ด้วย" พูดกับลูกสาวจบ ก็หันไปพูดกับชายหนุ่มอีกครั้ง "เอ๊ะ! หรือว่าตั้งใจจะทำเซอร์ไพรส์ให้น้อง" ชายหนุ่มแสร้งยกมือขึ้นมาลูบท้ายทอยด้วยท่าทางเขิน ๆ ก่อนจะบอกหญิงวัยกลางคนยิ้ม ๆ "ผมขออนุญาตพาน้องออกไปข้างนอกนะครับ" "ได้สิจ๊ะ" ตอบรับชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว แล้วหันมาพูดกับร่างบางที่ยืนแสดงสีหน้าเบื่อ ๆ พร้อมยกมือดันแผ่นหลังเนียนเบา ๆ "ไปสิกานต์ ไปดูว่าพี่เขาซื้ออะไรมาฝาก" "แม่คะ..." กานต์พิชชากำลังจะเอ่ยขัด เพราะไม่อยากออกไปกับเขาสองต่อสอง ทว่าพอเห็นสายตาดุ ๆ ของมารดาที่ส่งมา เธอก็ได้แต่ถอนหายใจและเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ เพราะรู้ว่ามันคงไม่มีประโยชน์ คุณหญิงกรกฎนั้นปลื้มและอยากได้ผู้ชายคนนี้มาเป็นลูกเขยอย่างกับอะไรดี ต่อให้เธอพูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์ และคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เธอรู้จักนิสัยมารดาของตัวเองเป็นอย่างดี...นิสัยที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ "ไปครับ" เมื่อเห็นว่าหญิงสาวปฏิเสธไม่ได้ ขจรศักดิ์จึงเอ่ยขึ้นพร้อมยื่นมือออกไปข้างหน้า "ไปลูก อย่าให้พี่เขาต้องรอนาน" คนเป็นแม่ดันหลังลูกสาวอีกครั้ง กานต์พิชชาจึงเก็บความขุ่นมัวเอาไว้ แล้วก้าวเดินออกไปโดยไม่คิดสนใจมือเขาที่ยื่นออกมาเพื่อรอให้เธอจับ "เฮ้อ ยายกานต์นี่ก็นะ ไม่รู้ว่างอนอะไรนักหนาทำตัวเป็นเด็ก ๆ ไปได้" ผู้เป็นมารดาเอ่ยตามหลังลูกสาวพลางส่ายหน้าเบา ๆ อย่างอ่อนใจ แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่มที่ยังยืนอยู่ที่เดิม "ง้อให้ได้นะลูกนัท แม่เอาใจช่วยเต็มที่" "ครับ ผมจะไม่ทำให้คุณแม่ผิดหวัง" บอกจบเขาก็รีบเดินตามหลังหญิงสาวออกไปทันที

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

พะยอมอธิษฐาน

read
2.3K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.4K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
15.8K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.3K
bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1.9K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook