บทนำ
บทนำ
หญิงสาวร่างบางในชุดราตรีเกาะอกสีม่วงประดับมุก ยืนอวดเรือนร่างสวยงามในงานแวดวงสังคม กานต์พิชชาแอบกลอกตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย ขณะยืนฟังมารดาคุยกับบรรดาคุณหญิงคุณนายทั้งหลายอย่างออกรสในงานประมูลเครื่องเพชรการกุศลประจำปี ที่จัดขึ้นโดยสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับแห่งประเทศไทย
กานต์พิชชาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่นชอบเรื่องความสวยความงาม ทว่าเธอไม่มีความรู้และไม่มีความสนใจในงานการกุศล ที่เต็มไปด้วยคุณหญิงจากตระกูลนั้น คุณนายจากตระกูลนี้ ต่างประโคมเครื่องเพชรมาประชันกันราวกับตู้เพชรเคลื่อนที่แบบนี้เลยสักนิด แต่ที่เธอต้องมายืนทำหน้าเบื่อ ๆ อยู่ตรงนี้ก็เพราะถูกคุณหญิงกรกฎผู้เป็นมารดา ‘บังคับ’ ให้มางานนี้ด้วย
"คุณแม่คะ กานต์ขอตัวกลับก่อนกลับก่อนได้ไหม"
เธอขยับเข้าไปสะกิดแขนและกระซิบบอกมารดาที่กำลังคุยเฮฮาอยู่กับเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างออกรส แต่เธอรู้ดีว่ามันคือการแสดงทั้งนั้น จะบอกว่าเป็นการคุยกันที่ดูปลอมที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมาเลยก็ว่าได้
"อ้าว จะกลับได้ยังไง เรายังไม่ได้ประมูลเพชรเลยสักชุดเลยนะ อย่างเพิ่งกลับเลย" คำตอบของมารดาทำให้กานต์พิชชากลอกตาอีกครั้ง
เธอคิดเอาไว้แล้วว่าต้องได้คำตอบแบบนี้ เพราะเธอเคยโดนคุณหญิงกรกฎบังคับให้มางานการกุศลแบบนี้อยู่หลายครั้ง และส่วนมากเธอมักจะหาข้ออ้างที่จะไม่มาได้ แต่ครั้งนี้เธอจนปัญญาที่จะหาอะไรมาอ้างจริง ๆ เพราะถูกมารดาดักเอาไว้ทุกทาง เลยทำให้เธอต้องมายืนโง่ ๆ อยู่ในงานอย่างนี้ไงล่ะ
จุดประสงค์ของมารดาที่ต้องติดสอยห้อยเธอมาด้วย ก็เพื่อจะพาเธอมาอวดเท่านั้น อวดบรรดาเพื่อน ๆ เหล่าคุณหญิงคุณนายทั้งหลายว่าตนมีลูกสาวสวย ทว่างานนี้จุดประสงค์ของคุณหญิงกรกฎกลับไม่ได้มีแค่การอวดลูกสาวเพียงอย่างเดียว หากมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่ด้วย ซึ่งหญิงสาวรู้ดีว่ามันคืออะไร
"อ้าวคุณพี่เขม มาแล้วเหรอคะ"
ชื่อของคนที่คุณหญิงกรกฎหันไปทักทายนั้น ยิ่งทำให้กานต์พิชชาอยากเสียมารยาทเดินออกจากงานไปเสียตอนนี้เลยจริง ๆ หากไม่ติดว่าเธอยังเกรงใจและไม่อยากให้มารดาเสียหน้าต่อบรรดาเพื่อนฝูง
"สวัสดีจ้ะน้องกฎ พี่เพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี้เอง น้องกฎมานานแล้วเหรอคะ"
คุณหญิงเขมนิจเอ่ยทักทายรุ่นน้องกลับด้วยเสียงหวานดัดฟังดูเสแสร้ง พลางยกมือขึ้นลูบลำคอเพื่อเนียนอวดเครื่องเพชรที่ตนประโคมใส่มา
"มาได้สักพักแล้วค่ะ"
คุณหญิงกรกฎที่เป็นรุ่นน้องก็ไม่น้อยหน้า นางแสร้งยกมือขึ้นปัดไรผมออกจากกรอบหน้า ทั้งที่ไม่มีผมตกลงมาเลยสักเส้น เพื่ออวดเครื่องเพชรที่ประโคมมาเต็มลำคอและข้อมือ
"อุ๊ยตาย! น้องกานต์ก็มางานนี้ด้วยเหรอจ๊ะ"
เมื่ออวดกันพอหอมปากหอมคอแล้ว คุณหญิงเขมนิจก็เบนความสนใจมายังกานต์พิชชาที่ยืนทำหน้าเบื่อ ๆ อยู่ข้างหลังมารดา และเมื่อโดนผู้ใหญ่ทัก หญิงสาวจำเป็นต้องขยับมายืนข้างมารดาและแสร้งยิ้มรับคำทักทายของอีกฝ่าย
"สวัสดีค่ะคุณป้า" เธอยกมือไว้อย่างนอบน้อม
"สวัสดีจ้ะ มาเรียกคุณปงคุณป้าอะไรล่ะคะ เรียกคุณแม่เหมือนเดิมสิจ๊ะ"
เมื่อโดนคนที่อายุมากกว่าเอ็ด กานต์พิชชาก็ได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ ไปให้ด้วยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ "ดีจังเลยที่วันนี้น้องกานต์ก็มาด้วย พี่นัทเขาก็มาน้า เอ๊ะ! หรือว่านัดกันมา ถึงว่าสิตานัทไม่บ่นสักคำตอนที่แม่ชวนมา"
หญิงสาวส่งยิ้มแหย ๆ ให้อีกครั้งหลังจากคุณหญิงเขมนิจพูดเองเออเองเสร็จสรรพ ส่วน ‘พี่นัท’ ที่พูดถึงก็คือขจรศักดิ์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนาง และมีสถานะเป็น ‘แฟนเก่า’ ของกานต์พิชชานั่นเอง
ไม่ผิดหรอกที่คุณหญิงเขมนิจจะทักท้วงเรื่องที่เธอเรียกนางว่าคุณป้า เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ยังคบกับลูกชายของนาง กานต์พิชชาเรียกหล่อนว่าคุณแม่มาโดยตลอด จนกระทั่งหญิงสาวตัดสินใจเลิกกับขจรศักดิ์อย่างเด็ดขาดไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว เธอจึงเปลี่ยนการเรียกมารดาของชายหนุ่มจากกคุณแม่มาเป็นคุณป้าแทน เพื่อความเหมาะสม และเพื่อแสดงความชัดเจนว่าเธอตั้งใจจะตัดขาดกับอีกฝ่ายอย่างจริงจัง
"ตานัทก็มาด้วยหรือคะ บังเอิญจังเลย"
เมื่อเห็นกานต์พิชชาไม่พูดอะไร คุณหญิงกรกฎจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาแทน ได้ยินน้ำเสียงและเห็นท่าทางที่ไม่แนบเนียนของมารดาแล้ว หญิงสาวก็ยิ่งแน่ใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ถูกเตรียมการมาเป็นอย่างดี
ที่บอกว่าจุดประสงค์ของการมาร่วมงานวันนี้ของคุณหญิงกรกฎไม่ได้มีแค่การอวดลูกสาวเพียงอย่างเดียว ก็เพราะกานต์พิชชารู้ดีว่ามารดามีอีกหนึ่งจุดประสงค์ที่แอบแฝง ซึ่งเธอคิดว่าก็คงเป็นการเปิดทางให้ขจรศักดิ์ได้เจอกับเธอในวันนี้
คุณหญิงกรกฎกับคุณหญิงเขมนิจนั้นรู้จักกันมานาน เพราะทั้งคู่อยู่ในสมาคมแม่บ้านทหารบกและออกงานด้วยกันบ่อยครั้ง จึงทำให้ทั้งสองคนสนิทกันมาก และที่กานต์พิชชาได้รู้จักกับขจรศักดิ์จนกระทั่งตกลงคบหากันก็เพราะผู้เป็นมารดาแนะนำให้รู้จัก
ขจรศักดิ์เป็นผู้ชายที่มีคุณสมบัติตรงตามที่คุณหญิงกรกฎต้องการทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ฐานะ ชาติตระกูล และที่สำคัญธุรกิจของเขากำลังไปได้สวย ซึ่งอย่างหลังนี้มารดาของเธอปราบปลื้มมากเป็นพิเศษ แต่หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังของธุรกิจที่เขาทำนั้นไม่ได้ใสสะอาดอย่างที่ทุกคนเห็น
ช่วงก่อนที่กานต์พิชชาจะตกลงคบหากับขจรศักดิ์เป็นแฟน เขาก็เหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไป เป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติเธอทุกอย่าง ทว่าพอหลังจากที่เธอตกลงยอมคบด้วย ทุกอย่างที่เธอเห็นก่อนหน้านี้มันค่อย ๆ หายไปทีละอย่าง ซึ่งเธอก็คิดว่ามันคงเป็นเรื่องปกติของคนเป็นแฟนกัน เพราะตอนคบกันแรก ๆ อะไรก็ดีไปเสียหมด แต่พอหมดช่วงโพรโมชันแล้วก็เริ่มเผยนิสัยที่แท้จริงของตัวเองออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็น
กานต์พิชชาไม่ได้ตัดสินใจเลิกกับอีกฝ่ายในตอนนั้น เธอเริ่มเรียนรู้และทำความเข้าใจในนิสัยที่เปลี่ยนแปลงไปของเขา
ทว่าพอนานวันเข้าก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายและเริ่มทนไม่ไหว แต่สิ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้จนถึงขั้นตัดความสัมพันธ์กับเขา ไม่ใช่เพราะเรื่องที่เขาทำธุรกิจผิดกฎหมายที่เธอบังเอิญไปรู้มาหรือเพราะนิสัยหลาย ๆ อย่างของเขา
หากเป็นเพราะ...เขามีคนอื่น
เธอจับได้คาหนังคาเขา และเห็นเต็ม ๆ สองตาว่าเขากำลังมีอะไรกับผู้หญิงอีกคนในคอนโดมิเนียม ที่เขาบอกว่าไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนขึ้นมานอกจากเธอ
หลังจากเห็นภาพที่สองคนกำลังเข้าได้เข้าเข็มกันแบบจะ ๆ ฟางเส้นสุดท้ายของเธอก็ขาดลงทันที เธอตัดสินใจบอกเลิกเขาทันทีโดยไม่ต้องใคร่ครวญให้เสียเวลา จากนั้นก็หันหลังแล้วเดินออกมาจากคอนโดฯ ของเขาทันทีโดยไม่มีน้ำตาไหลออกมาให้เห็นสักหยด
หลังจากวันนั้นขจรศักดิ์ก็ตามง้อและหาทางเข้าหาเธอตลอดทุกครั้งที่มีโอกาส และทุกครั้งที่เขาตามมาง้อ เธอก็บอกเขาไปอย่างเด็ดขาดว่าเธอจะไม่มีทางกลับไปแล้ว อีกทั้งยังอธิบายถึงนิสัยหลาย ๆ อย่างของเขาที่เข้ากันไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ยอมฟัง ยังคงตามง้อเธอไม่หยุดหย่อน
เป็นเหตุให้เธอพยายามหาทางเลี่ยงและไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เข้าถึงตัวได้เลยสักครั้ง ตัดปัญหาโดยการไม่เจอ ไม่พูดไม่คุยกันเลยดีกว่า เพราะว่าเธอไม่สามารถให้อภัยคนที่หักหลังเธอได้จริง ๆ
"นั่นไง มาพอดีเลย"
แต่เหมือนว่าครั้งนี้เธอจะไหวตัวไม่ทัน เมื่อคุณหญิงเขมนิจโบกไม้โบกมือเรียกลูกชายของตนที่กำลังเดินเข้ามา
"ตานัท ทางนี้ลูก"
ขจรศักดิ์เดินยิ้มเข้ามาหาผู้เป็นมารดา เขามองหน้ากานต์พิชชาด้วยรอยยิ้มราวกับเขาและเธอไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ก่อนจะหันไปยกมือไหว้ทักทายคุณหญิงกรกฎ
"สวัสดีครับคุณแม่ สบายดีนะครับ"
"แม่สบายดีจ้ะลูก แล้วเราล่ะ สบายดีไหม" คุณหญิงกรกฎทักทายกลับด้วยรอยยิ้ม
"ผมเพิ่งกลับจากจีนเมื่อสองวันก่อน มีของมาฝากคุณแม่ด้วยครับ"
บอกพร้อมกับยื่นถุงกระดาษขนาดกลาง ๆ ที่ถือมาด้วยส่งให้หญิงวัยกลางคน เขาก็เป็นแบบนี้ รู้จักวิธีเข้าหา พูดคุยและเอาใจผู้ใหญ่ เพราะแบบนี้มารดาของเธอถึงได้ถูกใจ และอยากได้ชายหนุ่มคนนี้มาเป็นลูกเขยของตน โดยที่ไม่รู้เลยว่าแท้จริงผู้ชายคนนี้เป็นอย่างไร
"อุ๊ยตายแล้ว น่ารักอะไรอย่างนี้ ขอบคุณมาก ๆ นะจ๊ะ" คุณหญิงกรกฎรับถุงของฝากมากจากชายหนุ่ม คลี่ออกดูนิด ๆ แล้วเอ่ยด้วยความปลาบปลื้ม ก่อนจะถามต่อยิ้ม ๆ "แล้วไม่มีของน้องกานต์หรือจ๊ะ เอ...แม่ว่าลูกนัทไม่น่าจะพลาดนะ"
ขจรศักดิ์ป้องปากหัวเราะเบา ๆ
"ครับ ไม่พลาดแน่นอน แต่มันค่อนข้างชิ้นใหญ่นิดนึงน่ะครับ ให้ถือเข้ามาคงไม่สะดวก คงต้องให้เจ้าตัวไปเอาที่รถครับ" เอ่ยจบทั้งสามคนก็ส่งสายตารู้กัน เป็นอันว่าเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ทั้งสามคนแอบเตรียมกันมา
กานต์พิชชากลอกตาด้วยความเบื่อหน่ายอีกครั้ง ในสมองกำลังหาทางปฏิเสธ แต่กลับไม่ทันเมื่อผู้เป็นมารดาที่เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน "ไปสิลูก พี่เขาอุตส่าห์ซื้อของมาฝาก เห็นว่าเป็นชิ้นใหญ่ด้วย" พูดกับลูกสาวจบ ก็หันไปพูดกับชายหนุ่มอีกครั้ง "เอ๊ะ! หรือว่าตั้งใจจะทำเซอร์ไพรส์ให้น้อง"
ชายหนุ่มแสร้งยกมือขึ้นมาลูบท้ายทอยด้วยท่าทางเขิน ๆ ก่อนจะบอกหญิงวัยกลางคนยิ้ม ๆ "ผมขออนุญาตพาน้องออกไปข้างนอกนะครับ"
"ได้สิจ๊ะ" ตอบรับชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว แล้วหันมาพูดกับร่างบางที่ยืนแสดงสีหน้าเบื่อ ๆ พร้อมยกมือดันแผ่นหลังเนียนเบา ๆ "ไปสิกานต์ ไปดูว่าพี่เขาซื้ออะไรมาฝาก"
"แม่คะ..."
กานต์พิชชากำลังจะเอ่ยขัด เพราะไม่อยากออกไปกับเขาสองต่อสอง ทว่าพอเห็นสายตาดุ ๆ ของมารดาที่ส่งมา เธอก็ได้แต่ถอนหายใจและเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ เพราะรู้ว่ามันคงไม่มีประโยชน์
คุณหญิงกรกฎนั้นปลื้มและอยากได้ผู้ชายคนนี้มาเป็นลูกเขยอย่างกับอะไรดี ต่อให้เธอพูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์ และคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เธอรู้จักนิสัยมารดาของตัวเองเป็นอย่างดี...นิสัยที่อยากได้อะไรก็ต้องได้
"ไปครับ" เมื่อเห็นว่าหญิงสาวปฏิเสธไม่ได้ ขจรศักดิ์จึงเอ่ยขึ้นพร้อมยื่นมือออกไปข้างหน้า
"ไปลูก อย่าให้พี่เขาต้องรอนาน"
คนเป็นแม่ดันหลังลูกสาวอีกครั้ง กานต์พิชชาจึงเก็บความขุ่นมัวเอาไว้ แล้วก้าวเดินออกไปโดยไม่คิดสนใจมือเขาที่ยื่นออกมาเพื่อรอให้เธอจับ
"เฮ้อ ยายกานต์นี่ก็นะ ไม่รู้ว่างอนอะไรนักหนาทำตัวเป็นเด็ก ๆ ไปได้"
ผู้เป็นมารดาเอ่ยตามหลังลูกสาวพลางส่ายหน้าเบา ๆ อย่างอ่อนใจ แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่มที่ยังยืนอยู่ที่เดิม
"ง้อให้ได้นะลูกนัท แม่เอาใจช่วยเต็มที่"
"ครับ ผมจะไม่ทำให้คุณแม่ผิดหวัง" บอกจบเขาก็รีบเดินตามหลังหญิงสาวออกไปทันที