“อีพี่เป้ย!” เธอร้องเสียงดัง บ้าบอ มาถามอะไรอย่างนี้ แต่ตอนนั้นอารมณ์มันก็เคลิ้มๆ มึนๆ เมาๆ ก็จำอะไรไม่ได้หรอก เพราะว่าพี่ภูเวลาชวนยิ้มนี่...เอ๊ะ แล้วเธอจะไปคิดถึงทำไมเนี่ย เลิกคิด! พอพี่เป้ยเห็นว่าเธอไม่ตอบแน่ๆ ก็สะบัดจิกตาใส่อย่างเสียดาย ก่อนจะกระแอมในคอแล้วรีบเบรกอารมณ์ของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็วว่า “นังน้องโง่ แกอย่าเพิ่งขึ้น เดี๋ยวหลานของฉันจะกระทบกระเทือน แกเคยได้ยินไหมว่าอารมณ์ของแม่ส่งผลต่อลูกน่ะ นี่อย่ามาให้กะเทยสอนเรื่องความเป็นแม่นะยะ” พอได้ยินอย่างนั้นเอกนรีก็ถึงกับอุทานว่าโอ๊ะด้วยท่าทีตกใจ ก่อนจะพยายามทำให้ตัวเองใจสงบด้วยการร้องเพลงออกมาเสียอย่างนั้น “โอเค ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ดั่งดอกไม้บาน” “โอเค เย็นแล้วนะยะ” พี่เป้ยที่ร้องคลอไปกับเธอเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเธอสงบความเกรี้ยวกราดลงได้แล้ว “จ้า” เอกนรีร้องตอบก่อนจะเดินคล้องแขนพี่เป้ยพากันออกไปจากโรงพยาบาล “งั้นไปฉลองกันเถอ