ภูธเรศ อัครวัฒน์ ได้แต่ถอนหายใจอย่างเสียดายว่าเขาน่าจะออกไปจากออฟฟิศที่สำนักงานของซีซีกรุ๊ปนี่ก่อนเพื่อนสนิทจะบุกเข้ามาหา ไม่รู้ว่ามันมาถูกได้อย่างไร หรือคนข้างตัวเขาเป็นสายให้มันกันแน่
เขามีออฟฟิศถึงสองแห่งในกรุงเทพฯ ให้เวียนเข้าไปดูแล ทั้งซีซีกรุ๊ปของมารดาและสำนักงานของหยางเอนเตอร์ไพรส์ ประเทศไทย ที่ย้ายสำนักงานมาจากสิงคโปร์เพื่อให้เขาได้ทำงานของตระกูลหยางได้อย่างเต็มที่ แม้เขาจะย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยเป็นหลักกับมารดา แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยมือจากกิจการทางโน้น เนื่องจากบิดาที่แม้จะมีสาวๆ ข้างกายมากหน้าหลายตา แต่กลับมีเขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวเช่นกัน
พออีกฝ่ายมาถึงก็ส่งเสียงดัง บรรยากาศสงบเหมาะแก่การทำงานถูกทำลายป่นปี้พังพินาศไม่มีเหลือ
“ไอ้ภู มึงนี่นะ มึงเล่นกูแล้วไงไอ้เพื่อนเวร!”
ภูธเรศเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย แล้วขมวดคิ้วมองคนขี้โวยวายทันที
“เล่นอะไรวะจักร มาถึงก็โวยวาย”
ตอนนี้เขาวางปากกาในมือลงแล้ว ด้วยแน่ใจว่าคงจะไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป โชคดีที่งานชิ้นนี้เป็นชิ้นสุดท้ายของวัน เขาเซ็นเสร็จแล้วกดเรียกเลขาฯ หน้าห้องมารับออกไปส่งให้แผนกที่ต้องรับผิดชอบต่อไปได้ทันที
คนขี้โวยวายเลยได้แต่ทำหน้าขัดใจเมื่อมีคนมาขัดจังหวะ อีกฝ่ายเลยเดินหน้าตึงไปกระแทกตัวนั่งบนโซฟามุมรับแขก ทำให้พอเลขาฯ ออกไปจากห้อง ภูธเรศเลยลุกขึ้นยืนเดินตรงไปหาอีกฝ่าย
‘ภูธเรศ อัครวัฒน์ หยาง’ มีความสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตร ร่างสูงนั้นยิ่งดูดีมากขึ้นเมื่อเขาอยู่ในชุดสูทสั่งตัดพอดีตัวของแบรนด์ดัง เขามีผิวขาวจัดเนื่องจากเป็นลูกครึ่งไทย-จีน เส้นผมสีดำสนิทตัดกับใบหน้าเรียว ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมดูสุขุมและทรงอำนาจในยามที่เขากวาดตามองนิ่งเฉย ริมฝีปากสีสด จมูกโด่งตรง โดยรวมใบหน้าของเขานั้นดูค่อนไปทางสวยด้วยโครงหน้าที่ได้รับมาจากมารดา รูปลักษณ์ของเขาหลังจากการเปลี่ยนแปลงตัวเองเมื่อสิบปีก่อนนั้นสะดุดตาผู้คนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสาวๆ ยิ่งประกอบกับฐานะลูกชายคนเดียวของคุณหญิงพิมพ์ภาดา อัครวัฒน์ เจ้าของเครือซีซีที่มีมูลค่านับแสนล้าน พ่วงด้วยลูกชายของตระกูลใหญ่ระดับโลกอย่างตระกูลหยาง เจ้าของบริษัทโฮลดิ้งที่ครอบครองธุรกิจแทบทุกประเภทบนโลกใบนี้ซึ่งล้วนมีชื่อหยางเอนเตอร์ไพรส์เข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมด ทำให้ภูธเรศยิ่งเป็นที่หมายปอง ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย
แต่ไม่เคยมีใครฝ่าปราการใจของคุณชายตระกูลหยางไปได้...ไม่เคยมี
ยกเว้นคนคนเดียว...
พอชายหนุ่มทรุดลงนั่งตรงข้ามกับเพื่อนสนิท จักรินทร์ก็โวยวายขึ้นมาทันทีด้วยสีหน้าบึ้งตึงว่า
“นี่ทำไมกูต้องแพ้พนันมึงด้วยเนี่ย ตกต่ำมากชีวิตช่วงนี้ คนคิดไปหมดเลยว่ากูเนี่ยเป็นคู่เกย์กับมึงอะภู”
อ้อ...มาเพราะเรื่องนี้นี่เอง
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพยักหน้ารับอย่างไม่ยินดียินร้ายอะไร
“ช่วยไม่ได้ มึงแพ้พนันเอง”
เขาตอบกลับเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวในเมืองไทยของตนเองด้วยสีหน้าเฉยชา แต่นั่นยิ่งทำให้คนที่บุกมาหาถึงกับหัวร้อนเพิ่มมากขึ้น
“ไอ้เวร ไอ้นรก มึงกลับไทยมาทำไมเนี่ย ชีวิตกูย่อยยับอับปางมาก น้องกุ๊กไก่ที่กูเล็งไว้ก็ชวดหมดเลย เพราะมึงอะ”
น้องกุ๊กไก่คือดาราสาวชื่อดัง น่ารักมาก ตาโตๆ ผิวขาวๆ ตัวเล็กสเปกพี่จักรมาก แต่ตอนนี้จู่ๆ น้องก็ถอยห่างจากเขาแล้วมองเขาแปลกๆ สืบไปสืบมาเพราะมีข่าวว่าเขาเป็นเกย์กับภูธเรศ
ภูธเรศน่ะคนไม่ค่อยสนใจหรอก เพราะมันเก็บตัวเงียบ แต่พอบอกว่า ‘ทายาทหนึ่งเดียวของซีซีกรุ๊ป’ โอ้โฮ ข่าวไปไวเหมือนไฟลามทุ่งเลย
ทว่าคนที่เต้าข่าวลือเองกับมือกลับหัวเราะ ปกติเขามักโดนจักรินทร์ลากไปซวย คราวนี้มันซวยเพื่อเขาบ้างจะเป็นไรไป
“หยุดเห่าเถอะจักร” เขาบอกเพื่อนสนิทเสียงนุ่ม ก่อนจะเหยียดยิ้มเย็นแล้วหรี่ตามองคนตรงหน้าด้วยสายตาดุดัน “แล้วก็หยุดเสือกเหมือนกัน เลิกส่งของไปให้ลี่ได้แล้ว”
ชะอุ๊ย...
จักรินทร์ถึงกับสะดุ้ง ยิ้มแหยๆ เมื่อรับรู้แล้วว่าการก่อกวนเล็กๆ น้อยๆ ของเขานี่เองทำให้หมอนี่กำลังโกรธ
“นี่รู้แล้วเหรอ”
“รู้ตั้งแต่ครั้งแรก แต่มึงไม่หยุดอะ เป็นบ้าเหรอมาปั่นกระแสกับกูเนี่ย แล้วเสือกอะไรไปบอกนักข่าวว่ากูจีบน้องแข่งกับมึง”
อย่างนี้นี่เอง มันเลยเล่นเขาหนัก น้องกุ๊กไก่หลุดมือไปทันที
เฮ้อ รู้อย่างนี้ไม่น่าสอดมือไปช่วยมันเลย โถ...ทำคุณบูชาโทษ โปรดไอ้ภูได้บาปแท้ๆ
ทว่าถึงอย่างนั้นเขาก็อดแก้ตัวไม่ได้
“กูช่วยมึงไง ไม่งั้นมึงก็ไม่มีตัวตนในสายตาน้องลี่”
“...”
“นี่ถ้าไม่ใช่ว่าเด็กมึง น้องก็โคตรสเปกกูเลย หน้ามัธยม นมปริญญาโท โอ๊ย! ไอ้เวร! ตบกูทำไม!”
ตอนท้ายเขาสบถลั่น เมื่อเพื่อนซี้ลุกขึ้นมาตบหัวเขาเต็มแรงจนหน้าคะมำ
แม่เจ้า นี่คือมันหึงจนแม้แต่เขาเพื่อนสนิท...เพื่อนผู้เป็นข้าทาสบริวาร เฝ้าทำตามคำสั่งของมันที่โทร.จิกยิกๆ ข้ามประเทศดูแล ของรักของหวงให้มันมาเป็นสิบๆ ปีอย่างนี้เรอะ
“ลามปามอะ มึงควรให้เกียรติน้อง”
ภูธเรศบอกหน้าตึง ขุ่นเคืองคูณสอง แต่ไม่บอกให้จักรินทร์มันรู้หรอกว่ามันเสือกพูดแทงใจดำเขาว่าเขาไม่มีตัวตนในสายตาน้อง
ความจริงทิ่มแทงขนาดนี้...มันจะพูดให้เขาอารมณ์เสียไปทำไม
จักรินทร์ได้แต่คลำศีรษะที่โดนตบเบาๆ แล้วเอ่ยปากขอโทษในทันที
“โอเค กูเข้าใจ กูขอโทษที่ไม่ได้ให้เกียรติว่าที่เมียมึง”
“...”
“แต่มึงอย่าลืมนะว่ามึงจะทำยังไงถึงจะผ่านด่านคุณหญิงแม่มึงได้ก่อนอะ จะแต่งกับน้องลี่ไม่ใช่ง่ายๆ นะมึง”
“...”
“นอกจากน้องลี่ที่เพิ่งรู้ว่ามึงมีตัวตน ก็มีแม่มึงนี่แหละที่จะผ่านไม่ได้ กูว่าน้องต้องเจอศึกหนักแน่นอน คิดแล้วก็โอ้โฮ เหมือนศึกเจ้ามวยไทยแน่นอน เพราะแม่มึงเห็นอ่อนหวานเรียบร้อย จริงๆ เผด็จการมาก ส่วนน้องลี่นี่ก็สายไฟต์ไม่ยอมคนเหมือนกัน ชกกันมันแน่ อภิมหากาพย์แม่ผัวลูกสะใภ้ตีกันต้องมาแน่นอน”
พอหายเจ็บก็ปากดีทันที แล้วปากดีมากๆ เพราะเอาแต่พูดเรื่องที่เขากังวล
แม้ว่าช่วงหลังๆ เขาจะพยายามสกรีนงานน้อง...จนทำให้น้องขึ้นมาเป็นตัวท็อปของวงการพริตตี้ ภาพลักษณ์สวยหรูดูดีขึ้นมา แต่นั่นก็ไม่มากพอที่คุณแม่ของเขาจะให้สามผ่าน เรื่องนั้นเขารู้ดี แต่ตอนนี้ใจเขาอดทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
หลายปีที่รอคอย แต่พอกลับมาเขาก็กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเอกนรีไปแล้ว
...เขาจำน้องได้ตลอดเวลา แต่น้องกลับลืมเขาไปหมดแล้ว เขาก็เลยกลายเป็นแค่คนแปลกหน้าที่คุ้นเคยกันดีสำหรับน้องในเวลานี้
ทั้งๆ ที่น้องคือคนที่ทำให้เขาอยากเป็นคนดีๆ เพื่อน้อง ทำทุกอย่างเพื่อน้องจนมาถึงทุกวันนี้แท้ๆ
“พูดมากจังวะจักร”
เขาบ่นอย่างหงุดหงิด เพราะคิดภาพนั้นออกเหมือนกัน
คุณแม่อาจจะรักเขาที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะรับคนที่เขาเลือกได้
เขารู้จักท่านดี แม้จะพยายามแค่ไหนเพื่อล้างภาพลักษณ์ของน้อง แต่เขาก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เส้นทางง่ายๆ เพราะคนทุกวันนี้ไม่ได้ขี้ลืม และนักขุดคุ้ยทั้งหลายพร้อมจะช่วยรื้อฟื้นอยู่แล้วเมื่อมีประเด็น คุณแม่ของเขาเกลียดที่สุดก็คือการตกเป็นข่าวฉาว ท่านทนมามากพอแล้วตอนที่เลิกกับป๊าของเขา
เพื่อนสนิทแสยะยิ้มรู้ทันเมื่อสัมผัสได้ถึงความกังวลของเขา
“พูดแทงใจดำนิดๆ หน่อยๆ ก็ทำเป็นรับไม่ได้คุณชายภู”
“เออ”
เขาตอบรับตรงๆ มันจะได้เลิกทำตัวเป็นเพื่อนชั่วๆ ทิ่มแทงให้เขาหงุดหงิดใจสักที
“แล้วนี่แกจะทำยังไงต่อ”
“ไม่รู้”
เขาตอบแล้วมองตาขวาง นี่ก็เสือกอยากรู้เรื่องอะไรของเขามาก
เสือกมาตลอด เสือกจนได้ติดดาวเป็นแฟนพันธุ์แท้แล้วก็ยังไม่เลิกไม่รา
“แต่กูรู้...” จักรินทร์แทบจะยกมือชูขึ้นเหมือนตอบคำถามคุณครูสมัยประถม “ใจมึงนี่สั่นริกๆ อยากเข้าไปช่วยจ่ายค่าผ่อนบ้านผ่อนรถให้น้องใจจะขาด แต่เอกนรีไม่รับเสี่ยเลี้ยง มึงเข้าไปนี่รับรองเจอรองเท้าฟาดหน้ามาแน่นอน ไหนแถลงกับพี่สิน้องภู หนูจะทำยังไงต่อไปครับลูก”
“กวนตีนอะมึงเนี่ย”
รู้แล้วเสือกมาย้ำ มันเองไม่ใช่เหรอที่ช่วยใช้เส้นสายป้อนงานน้องแทนเขาน่ะ ก็รู้ว่าเปย์ทางตรงไม่ได้ถึงได้เปย์ทางอ้อมแบบนี้ไง อ้อมแบบอ้อมวอดวายอะ อ้อมจนน้องไม่รู้อะไรเลยเนี่ยว่าใครสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
ใครจะไปอยากสร้างความประทับใจแง่ลบให้คนที่รักกันวะ เขาก็ไม่ได้อยากโดนรองเท้าฟาดหน้า ทุกวันนี้ถึงได้คิดหัวแทบแตกในการช่วยน้องทำมาหากินแบบนี้ไง
มันเองก็รู้ทันขนาดนี้ยังจะมาจี้ถามอะไรอีก
เขาถลึงตาห้ามปรามและไม่ยอมปริปากถึงแผนถัดไปหลังจากทำให้ตัวเองเริ่มโผล่เข้าไปในชีวิตของน้องเวลานี้
“การด่าไม่ทำให้มึงรอดตัว ไหนแถลงมาซิว่าจะทำยังไง ลากกูมาลงน้ำถึงขนาดนี้ ก็ให้โอกาสกูได้เสือกได้ตามขยี้บ้างอะไรบ้าง”
คนขี้เสือกโอดครวญอย่างสิ้นท่า และทำให้ภูธเรศมีสีหน้าดีขึ้นนิดหน่อย
“กูมีแผนไง รอดูไปแล้วกัน”
“นี่จะไม่ยอมบอกจริงๆ ใช่ไหม”
ลูกชายคนโตนายธนาคารใหญ่ หลานตานายพลเอกชื่อดังทำตาปรอยปริบๆ เหมือนจะอ้อน
แต่ขอโทษ เขาไม่ใจอ่อน ไม่มีใครทำให้ใจเขาอ่อนได้ยกเว้นน้องลี่คนเดียวเท่านั้น!
“มึงตามเสือกขนาดนี้ ถ้าบอกจะเสือกสนุกไหมจักร รอดูไป!”
เขาบอกเสียงเข้ม ขณะที่ไอ้เพื่อนเวรทำเป็นร้องสะบัดสะบิ้งรับไม่ได้
“คนใจร้าย! สมควรแล้วที่น้องจำมึงไม่ได้ เพราะมึงมันคนร้ายๆ แบบนี้แห