คฤหาสน์ตระกูลคาร์เนอร์
ปั้ง!!ปั้ง!!ปั้ง!!
เสียงรัวปืนถี่ยิปดังสนั่นไปทั่วสนามยิงปืน โจฮันยืนล้วงกระเป๋าดูพี่ชายด้วยท่าทีเรียบเฉย
ปั้ง!!
ก่อนที่กระสุนนัดสุดท้ายจะเงียบลง โจเซฟยังยืนมองเป้าที่โดนจุดเดียวกันอยู่แบบนั้นด้วยแววตาเรียบนิ่ง
“เฮียไปกินรังแตนที่ไหนมาวะ”
โจฮันถามเทย์เลอร์ ลูกน้องคนสนิทของพี่ชายอย่างสงสัย ดูจากการรัวปืนก็รู้พี่ชายของเขาต้องอารมณ์ไม่ดี
“อย่าพูดดังไปครับคุณโจฮัน นายกำลังโกรธจัด
ไอ้เฟยมันทำงานผิดพลาด ตอนนี้นายโมโหมาก
ไล่ไอ้เฟยไปพลิกแผ่นดินตามหาคนแล้วครับ”
เทย์เลอร์กระซิบเพียงแผ่วเบาให้โจฮันฟัง
“ใคร? ลูกหนี้เหรอ?”
โจฮันคิ้วขมวดถามต่ออย่างสงสัย
“เปล่าครับ ผมว่าคุณโจอันถามนายเองเถอะ”
เพียงแค่โจเซฟหันกลับมา เทย์เลอร์ก็รีบสงบปาก มือประสานกันไว้ข้างหน้า แล้วก้มหัวลงเล็กน้อย
“เฮีย!!นึกไงมาแม่นปืนแต่เช้า”
โจฮันเดินเข้าไปใกล้ ถึงพี่ชายจะอารมณ์ไม่ดี แต่เขาก็ไม่กลัวเพราะชินแล้ว
“ส่งของเรียบร้อยดีมั้ย”
โจเซฟไม่ตอบที่น้องชายถาม แต่ถามกลับเรื่องงานที่ให้โจฮันไปทำแทน
“เรียบร้อยดีครับ เออว่าแต่เฮียอารมณ์เสียอะไรมา ทำไมถึงมาแม่นปืนแต่เช้า”
โจฮันยังถามสิ่งที่อยากรู้ต่อ
“ไม่ใช่เรื่องของนาย ”
เขาตอบเสียงนิ่งและเดินหนีไป แต่โจฮันไม่ได้โกรธหรอก เพราะพี่ชายเขาก็แบบนี้แหละ
“ที่คาซิโนเป็นไงบ้าง”
โจเซฟเดินกลับเข้ามาในบ้าน แฟร้งเฟิร์ตก็ถามขึ้น หลังจากที่ปล่อยให้ลูกชายบริหาร เขาก็ไม่ได้ยุ่งอีกเลย
“ก็ดีครับ ได้ลูกหนี้รายใหญ่เพิ่มอีกหลายราย ”
เขาตอบผู้เป็นพ่อ แล้วนั่งลงจิบกาแฟที่โซฟาอีกตัว
“อืม..ดีมาก..”
กาแฟถูกยกขึ้นจิบอีกครั้ง
“แล้วไอ้วินเซนต์ละ ..”
วินเซนต์คือศัตรูคู่อริ ที่แก่งแย่งกันขยายอิทธิพลมานานหลายปี แต่ก็ไม่เคยสู้ตระกูลคาร์เนอร์ได้เลย หลายครั้งที่วินเซนต์ใช้วิธีสกปรกเพื่อทำลาย แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ
“ยังไม่มีความเคลื่อนไหว แต่คาดว่าอีกไม่นาน
สายของเรารายงานว่า มันกำลังซุ่มผลิตยาอันตรายบางอย่าง”
แฟร้งค์เฟิร์ตได้แต่นิ่งฟัง เรื่องของกลุ่มมาเฟียคู่แข่ง สำหรับเขามันเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว นั่งจิบกาแฟคุยกับป๊าแค่ไม่กี่คำ เขาก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมไปทำงานที่คาซิโน
คาสิโนตระกูลคาร์เนอร์
ตึก ตึก ตึก
ฝีเท้าหนักแน่นสวมรองเท้าสีดำมันวาว พร้อมร่างใหญ่ในชุดสูทเรียบกริบน่าเกรงขาม เดินย่างสามขุมเข้ามาในห้องทำงาน บนชั้นสูงสุดของคาซิโนแห่งนี้ ลูกน้องยืนเรียงแถวแล้วโค้งคำนับ เขาแทบไม่มองพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้หนังสีดำ แล้วหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาดู
“เทย์เลอร์”
คิ้วหนาขมวดมุ่น เรียกลูกน้องคนสนิทเสียงดัง
“ครับนาย”
เทย์เลอร์รีบเดินเข้ามาใกล้ ยืนก้มหน้ารอรับคำสั่ง
“ไปตามธนามา”
เขาสั่งลูกน้องเสียงเข้ม เมื่อพบสิ่งผิดปกที่เกิดขึ้น
“ครับนาย”
ลูกน้องรับคำแล้วถอยออกจากห้องไป เขายังคงจ้องที่เอกสารเพื่อความแน่ใจ รอธนาที่เป็นผู้จัดการขึ้นมาชี้แจง
ก๊อกๆๆ
“ขออนุญาตครับนาย คุณธนามาแล้ว”
“เข้ามา”
เสียงเข้มอนุญาต พร้อมกับผู้จัดการร้านที่เดินเข้ามา
ปึ้ง!!
“เกิดอะไรขึ้น ! ทำไมลูกค้าหายไปเกือบ20%”
เอกสารถูกวางบนโต๊ะอย่างแรง พร้อมตาคมที่จ้องผู้จัดการอย่างน่ากลัว
“ยังไม่ทราบสาเหตุครับนาย แต่ที่คาสิโนของไอ้วินเซนต์คนเพิ่มเยอะมาก ผมกำลังให้คนไปสืบ ”
คิ้วหนาขมวดเล็กน้อย ว่าแล้วทำไมช่วงนี้ไอ้วิลเซนต์เงียบแปลกๆ
“ได้เรื่องยังไงรีบมารายงานผมด้วย ผมขอคำตอบวันนี้”
โจเซฟบอกผู้จัดการร้าน คนอย่างเขาเกลียดที่สุดคือการต้องรออะไรนานๆ
“ครับนาย งั้นผมขอตัวก่อน”
ผู้จัดการคาสิโนออกไปแล้ว เขานั่งเอานิ้วเคาะโต๊ะเบาๆเหมือนคนกำลังใช้ความคิด ทั้งวันเขาวุ่นกับการทำงาน กว่าจะกลับก็ตี1ตี2ทุกวัน
“เฮ้ย!!”
บนรถในขณะเดินทางกลับเพนท์เฮ้าท์ โจเซฟใช้มือเพียงข้างเดียวนวดที่ขมับ เป็นมาเฟียไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด สารพัดปัญหาที่วิ่งมาให้ปวดหัว
“นายครับ ให้ผมดีลผู้หญิงให้ไหมครับ”
เทย์เลอร์ถามอย่างรู้ใจเจ้านาย
“ไม่ต้อง ไอ้เฟยกลับมารึยัง”
เขาตอบลูกน้องเสียงเข้ม แล้วถามถึงเฟยคนที่ทำงานผิดพลาด แล้วโดนไล่ไปตามหาผู้หญิงคนนั้นให้เจอ
“ยังเลยครับนาย เดี๋ยวผมโทรตามครับ”
เทย์เลอร์ตอบผู้เป็นนาย
“ไม่ต้อง ถ้าพรุ่งนี้มันยังหาไม่เจอ ให้มันย้ายตำแหน่งไปเป็นคนขับรถแทน”
“ครับนาย”
เทย์เลอร์ไม่กล้าถามอะไรต่อ ได้แต่รับคำแล้วนั่งเงียบ
อีกด้าน คชากรุ๊ป
หลังพักผ่อนหย่อนใจหลายวัน อลิชาก็กลับมาเซอร์ไพรส์ที่บ้าน ทันทีที่รถจอดหน้าบ้านหลังใหญ่
เธอก็ยิ้มกว้างดีใจ เพราะไม่ได้กลับมาหลายปี
“ป้าสายสวัสดีค่ะ”
ร่างบางในชุดเดรสสีดำ แหวกขึ้นจนเห็นเรียวขาอ่อน เรียกป้าสายคนงานเก่าแก่ที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน ป้าสายขยับแว่นตาเล็กน้อย แล้วเพ่งดูคนที่ยืนเรียก
“คุณพอร์ช !!ว้ายทูนหัวของป้า”
ป้าสายรีบวางสายยาง แล้วเดินดุ่มๆเข้าไปหา
“พ่อกับแม่ละคะ”
เธอรีบถามหาพ่อกับแม่อย่างคิดถึง
“นายท่านเข้าบริษัทค่ะ ส่วนคุณหญิงอยู่ในบ้าน เข้าบ้านกันเถอะค่ะ คุณหญิงคงดีใจมากแน่ๆ มาเร็วใครอยู่แถวนี้บ้างมาช่วยคุณพอร์ชหิวกระเป๋าหน่อย”
ป้าสายเรียกคนงานในบ้านมาช่วยถือของวุ่นวายไปหมด