“แม่คะ”
เสียงหวานเรียกแม่ แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดอย่างคิดถึง
“พอร์ช!!ไม่เห็นบอกแม่เลยว่าจะกลับมา”
พรพิมลเรียกชื่อลูกสาวเสียงดัง รีบกอดลูกสาวตอบอย่างดีใจ
“เซอร์ไพรส์ไงคะ แม่ไม่ดีใจเหรอ”
ร่างบางเอาแต่กอดอ้อนผู้เป็นแม่
“พ่อต้องดีใจมากแน่ๆเลย จะได้มีคนมาคอยช่วยงานแล้ว”
พรพิมลเอาแต่ยิ้มดีใจ มองลูกสาวคนเก่งอย่างชื่นชม
“หนูพร้อมช่วยงานที่บริษัทเต็มที่เลยค่ะ ”
หลังจากเรียนอย่างหนัก และได้เที่ยวพักผ่อนอย่างเต็มที่ เธอก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะตั้งใจช่วยงานที่บริษัท แบ่งเบาภาระของคชาผู้เป็นพ่อ
“ดีมากลูก มาเหนื่อยๆขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ ”
“ได้ค่ะ”
ร่างบางเดินเข้ามาในห้องนอน ทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ห้องนอนสะอาดสะอ้าน เพราะมีคนมาทำความสะอาดให้ทุกวัน
“อ้าวนั่นหนูจะไปไหนละลูก ”
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เธอก็หยิบกุญแจรถของที่บ้านเตรียมออกไปข้างนอก
“ไปหาพี่พิ้งค่ะ เดี๋ยวเย็นๆหนูกลับนะคะ”
ปากเล็กคลี่ยิ้มบอกผู้เป็นแม่อย่างน่าเอ็นดู
“อย่ากลับค่ำนักละ ”
พรพิมลบอกลูกสาวอย่างเป็นห่วง
“รับทราบค่า”
รับปากแม่เสร็จก็ขับรถออกจากบ้านไป
บ. บิวตี้ พิ้ง (บริษัทผลิตเครื่องสำอาง)
“มาพบคุณพิ้งคะ”
พอมาถึงที่บริษัทของพี่สาว พอร์ชก็แจ้งประชาสัมพันธ์ พิ้งคือลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมาแต่เด็ก อายุห่างกับเธอแค่2ปี
“นัดไว้มั้ยคะ”
“ไม่ได้นัดค่ะ”
“ให้แจ้งว่าชื่ออะไรคะ”
“อลิชาค่ะ”
หลังแจ้งชื่อเสียงเรียงนาม ยืนรอไม่นานประชาสัมพันธ์ก็บอกให้ขึ้นลิฟต์ไปได้
ติ้ง!!
“พี่พิ้ง/ยัยพอร์ช”
สองพี่น้องโผเข้ากอดกันอย่างดีใจ
“มาทำไมไม่บอกเนี่ย หืม”
พิ้งถามน้องสาวอย่างเอ็นดู จับดูมือไม้สำรวจดูตามเนื้อตามตัว
“เซอร์ไพรส์ไงคะ เย็นนี้ไปฉลองกันค่ะ”
พี่สาวพยักหน้ารัวๆ สองสาวพี่น้องคือสายดื่มอยู่แล้ว
“เดี๋ยวพี่เคลียร์งานแป๊บเดียว เราไปนั่งคาเฟ่กัน”
พิ้งบอกน้องสาว แล้วรีบกลับไปนั่งที่โต๊ะเพื่อเคลียร์งาน เสร็จแล้วทั้งสองคนก็มานั่งจิบกาแฟที่คาเฟ่
“คุณป้ากับคุณลุงเป็นไงบ้างคะ ท่านทั้งสองสบายดีรึเปล่า”
นั่งจิบกาแฟกันไป พอร์ชก็ถามถึงป้ากับลุงพ่อแม่ของพิ้ง ป้าลัดดาคือพี่สาวแท้ๆของคชาพ่อของเธอนั่นแหละ
“ก็สบายดีนะ แต่พี่ไม่ให้พวกท่านเข้าบริษัทแล้ว พี่ดูแลเองทั้งหมด เข้ามาบ้างตอนมีประชุมผู้ถือหุ้น”
พิ้งเล่าให้น้องสาวฟังอย่างสบายอารมณ์ ตอนนี้เธอเป็นผู้บริหารบริษัทเครื่องสำอางแบรนด์ดังอย่างเต็มตัว ในวัยเพียงแค่25ปี
“หนูอยากเก่งเหมือนพี่พิ้งบ้างค่ะ อยากให้พ่อพักผ่อนบ้าง พ่อเหนื่อยมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่จำความได้พ่อก็ทำงานหนักมาตลอด”
“เรียนจบบริหารจากต่างประเทศก็เก่งแล้ว ฝึกฝนสนามจริงอีกนิดหน่อย พี่เชื่อว่าน้องสาวพี่เก่งอยู่แล้ว”
พิ้งยิ้มกว้างพูดให้กำลังใจน้องสาว
“ขอบคุณนะคะ หนูจะตั้งใจเรียนรู้ให้เต็มที่เลยค่ะ”
หลังจิบกาแฟที่คาเฟ อลิชาก็รีบกลับบ้านเพราะคิดถึงพ่อใจจะขาด
“พ่อคะ”
พอร์ชรีบจอดรถ และรีบวิ่งมาหาพ่อที่ลานหน้าบ้าน คชาพึ่งลงรถเตรียมเดินเข้าบ้าน ได้ยินเสียงหวานคุ้นหูจึงรีบหันกลับไปมอง
“พอร์ช!ฮ่าๆๆๆกลับมาทำไม่บอกพ่อ
คชาอ้าแขนออกกว้างหัวเราะอย่างดีใจ รอกอดลูกสาวที่กำลังวิ่งเข้ามา ก่อนที่สองคนพ่อลูกจะโผกอดกันอย่างคิดถึง
“คิดถึงจังเลยค่ะ พ่อสบายดีนะคะ”
“พ่อสบายดี คิดถึงลูกมากเหมือนกัน”
สองพ่อลูกกอดกันพักนึง ก่อนที่คชาจะเดินกอดคอลูกสาว คุยกันจอแจเข้ามาในบ้าน
“ มากันแล้วหรอสองพ่อลูก แม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเสร็จพอดี เดี๋ยวเราทานข้าวกันเลยนะ”
พรพิมลยิ้มกว้าง วันนี้ได้อยู่พร้อมหน้ากันสักที
“หืม.. หอมจังเลยค่ะวันนี้ทำอะไรกินคะ”
ร่างบางเดินเข้าไปใกล้ แล้วทำจมูกหมูฟุดฟิดสูดดมกลิ่นอาหาร
“ ดูสิแม่ทำแต่ของชอบลูกทั้งนั้นเลย ”
พรพิมลบอกลูกสาวอย่างใจดี
“ ว้าว!!เดี๋ยวหนูจะกินให้พุงกางไปเลย”
อลิชารีบรับปากผู้เป็นแม่ แล้วจัดการกินอาหารที่แม่ทำให้จนอิ่มแปร้
“ เอาข้าวอีกไหมลูก กินเยอะๆนะดูสิผอมหมดแล้ว”
“ ไม่เอาแล้วค่ะ ผอมอะไรกันคะนี่เรียกหุ่นดี”
อลิชายังพูดแกล้งแม่ พร้อมยิ้มบางอย่างมีความสุข
“ พร้อมช่วยงานพ่อหรือยังฮึ!”
หลังทานมื้อเย็นเสร็จ เธอก็มานั่งคุยเล่นกันกับพ่อที่ห้องรับแขก
“ พร้อมแล้วค่ะ แต่หนูขอเวลาเตรียมตัวซักสองสามวันนะคะ ยังไม่มีชุดใส่ไปทำงานเลย ”
ที่จริงก็พร้อมนั่นแหละ แต่แค่ยังไม่มีเสื้อผ้าที่เหมาะจะใส่ไปทำงาน ส่วนมากจะเป็นชุดเซ็กซี่ซะมากกว่า
“ โอเคได้ สองสามวันเองหรอ พ่อนึกว่าจะขอพักสักสองสามเดือนซะอีก”
คชาพูดแซวลูกสาวอย่างอารมณ์ดี
“ ไม่ค่ะ สองสามวันก็เกินพอแล้ว เรียนตั้ง4ปีอยากกลับมาทำงานช่วยพ่อจะแย่”
คชายิ้มชอบใจ เอ็นดูลูกสาวที่อยากทำงานช่วยตัวเอง ทั้งที่ปีนี้ก็เพิ่งจะ 23 ปี
“ ขอบใจนะ เดี๋ยวพ่อจะสอนงานเต็มที่ไปเลยดีไหม”
คชาพูดพร้อมเอามือลูบหัวลูกสาวเบาๆ
“ โอเคค่ะ”
พอร์ชยิ้มกว้างเอาแต่กอดพ่อไม่หยุด
“ แม่คะ หนูไปเที่ยวกับพี่พิ้งนะคะ”
คุยกับพ่ออยู่นาน เธอก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมออกไปเที่ยวผับกับพี่พิ้งคืนนี้
“ ดูแลตัวเองดีๆนะลูก ไม่อยู่ตั้ง4ปีความจริงแม่ไม่อยากให้ไปเลย แต่เห็นว่าไปกับพิ้งหรอกนะถึงยอม”
พรพิมลพูดอย่างเป็นห่วง แต่ลูกสาวก็โตแล้ว
ถ้าห้ามเห็นทีจะไม่เหมาะ เพราะพอร์ชเป็นเด็กที่รู้จักคิด
“ แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะดูแลตัวเองให้ดีค่ะ”
พูดจบร่างเล็กในชุดมิดีเดรสสีแดงเพลิง ก็ตรงมายังรถแล้วขับไปยังผับที่นัดกันไว้
@ อีกด้าน
“ สรุป”
ปากหยักได้รูปเอ่ยถามลูกน้องเพียงสั้นๆ ยืนทอดสายตาออกไปยังนอกระเบียง ในมือยังคีบบุหรี่ไว้เหมือนเช่นทุกครั้ง มันเปรียบเหมือนสิ่งระบายความเครียดให้เขาอยู่ตลอด
“ ยังไม่เจอครับนาย ”
เฟยยืนก้มหน้า รีบรายงานผู้เป็นนาย
“ ไม่ได้เรื่อง แค่ผู้หญิงคนเดียวยังตามหาไม่เจอ
ต่อไปถ้ามีงานใหญ่ จะไว้ใจให้ทำได้ยังไง”
เมื่อได้ยินผู้เป็นนายตำหนิ เฟยได้แต่ยืนก้มหน้า
งานนี้เขาพลาดจริงๆ
“ ขอโทษครับนาย ผมจะพยายามตามหาให้ถึงที่สุด
ผมจะพาเธอกลับมาพบนายให้ได้ครับ”
ทางเดียวที่เขาจะรอด ก็คือต้องหาผู้หญิงคนนั้นให้เจอ ถ้าไม่อย่างนั้นไม่อยากจะคิด…
“ ไม่ต้อง ! ออกไปได้แล้ว เทย์เลอร์จะบอกตำแหน่งใหม่นายเอง”
เฟยไม่กล้าแม้จะขอร้องอะไร แค่ย้ายตำแหน่งถือเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ถูกสั่งปลดก็ดีแค่ไหน รีบเดินออกจากห้องเจ้านายเพื่อรับตำแหน่งใหม่ ที่ลูกน้องคนสนิทของเจ้านายจะสั่ง
ครืด ครืด
{อยู่ไหน ? ออกมาดื่มกันหน่อย พวกกูรออยู่ที่ผับไดจิ}
เสียงปลายสายคือเอริค เพื่อนสนิทของเขานั่นแหละ
“อืม..เดี๋ยวกูไป”
ติ้ด !!
เขาตอบเพื่อนสั้นๆก่อนวางสายไป
“ เทย์เลอร์เตรียมรถให้ด้วย”
“ครับนาย”
สั่งการลูกน้องเสร็จ ก็เข้าไปอาบน้ำ เสร็จก็ออกไปหาเพื่อนที่ผับของน้องเขย
เมอร์เรนด้า คลับ
ร่างหนาในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ แต่งตัวอย่างเนี๊ยบ แม้ในยามมาดื่มที่ผับ ทุกอย่างคือต้องเป๊ะ
“จองโต๊ะvipเหรอ”
เมื่อเดินมาถึงชั้น2โซนvip เขาก็ถามเพื่อนเสียงเรียบ มาเฟียอย่างเขาเคยแต่นั่งดื่มห้องลับvvip แต่เพื่อนเวร2ตัว ไม่รู้สรรหาทำอะไร พามานั่งโต๊ะvipคนก็เยอะ ไม่เข้ากับลุคของเขาเอาซะเลย
“เอาน่า! นั่งนี่ซักวันจะเป็นไรไป หัดทำตัวให้เหมือนคนปกติบ้าง ”
แพทริคเจ้าของสนามแข่งรถ เพื่อนอีกคนของเขาพูดขึ้น รู้ดีว่าโจเซฟมีโลกส่วนตัวสูงแค่ไหน
“เออ…นั่นดิ วันนี้อยากเปิดหูเปิดตามั่ง นั่งในห้องvvip ก็เห็นแต่คนเดิมๆ ไม่เบื่อบ้างรึไง ”
เอริคพูดอย่างไม่ใส่ใจ ตาคมจ้องไปด้านล่าง ที่มีสาวสวยโยกย้ายโชว์ลีลาอยู่หลายต่อหลายคน