ไม่ลืม
“นายกับคุณชาไม่ได้คิดอะไรกันจริง ๆ เหรอ หรือนายไม่คิดจะจีบคุณชาแบบจริง ๆ จัง ๆ เลยหรือไง เท่าที่ฉันเห็นและเท่าที่ฟังจากปลื้ม ฉันคิดว่าเธอโอเคมาก ๆ เลยนะเว้ย ดีกับปลื้มทุกอย่าง เข้ากับปลื้มได้ แล้วปลื้มก็เหมือนจะรักคุณชาเหมือนแม่จริง ๆ”
“ปลื้มรักคุณชาจริง ๆ แล้วคุณชาก็รักปลื้มมากด้วย” สุดโปรดยืนยันว่าสิ่งที่พี่ชายคิดนั้นเป็นเรื่องจริง ณิชาเข้ามาทำงานกับเขาตั้งแต่ปลื้มอายุยังไม่ถึงขวบ ได้เจอกันเกือบทุกวัน ก็ต้องมีความรักความผูกพันเกิดขึ้นเป็นธรรมดา “จริง ๆ ผู้หญิงดี ๆ และเข้ากับปลื้มได้แบบคุณชาหายาก” ชายหนุ่มพูดต่อตามความรู้สึก
“ใช่ไง ฉันถึงได้สงสัยว่าทำไมนายไม่คิดจีบ”
“ฉันเคยคิดนะ แล้วก็เคยถามเธอแล้วด้วยว่าอยากมาเป็นแม่ของปลื้มจริง ๆ ไหม แต่เธอปฏิเสธ”
“อ้าว สรุปคือนายจีบแล้ว แต่ไม่ติดว่างั้น ?”
“อือ”
“แล้วยังไงต่อ พอเธอปฏิเสธแล้วนายก็หยุดจีบเลยอะนะ ?” สุดเขตถามต่อด้วยความสงสัยปนอยากรู้
“ใช่ ก็เธอไม่ได้คิดอะไรกับฉันมากกว่าเจ้านาย แล้วเธอก็ดูออกว่าที่ฉันถามแบบนั้นไม่ใช่เพราะฉันรู้สึกพิเศษกับเธอจริง ๆ หรอก ฉันแค่รู้สึกว่าเธอเข้ากับปลื้มได้ และปลื้มก็รักเธอเท่านั้น ซึ่งก็จริง” สุดโปรดเล่าด้วยน้ำเสียงเรียบเอื่อย ไม่ได้เสียใจเลยที่โดนปฏิเสธในครั้งนั้น
“เอ้า สรุปคือนายไม่ได้ชอบเขา แต่ไปจีบเขาเพราะเห็นว่าเขาเข้ากับลูกตัวเองได้” คนเป็นพี่ขมวดคิ้วอย่างงวยงง
“ก็ใช่ อีกอย่างตอนนั้นฉันเห็นว่าคุณชาเธอยังว่าง แล้วฉันเองก็ไม่ได้มีใคร เลยลองถามดู” ที่จริงสุดโปรดไม่ได้รู้สึกกับณิชามากกว่าเจ้านายกับลูกน้องเลยด้วยซ้ำ แต่กลับจะดึงเธอมาไว้ข้างกายเพียงเพราะเธอเข้ากับลูกชายของตนเองได้ดี พอมองย้อนกลับไป ชายหนุ่มคิดว่าตัวเองเห็นแก่ตัวมากที่มีความคิดเช่นนั้น และก็ถือว่าโชคดีที่วันนั้นเธอปฏิเสธเขา
“คือที่ผ่านมาไม่ได้จีบ แต่อยู่ ๆ วันหนึ่งก็เดินเข้าไปถามเขาโต้ง ๆ ว่าอยากมาเป็นแม่ของเจ้าปลื้มไหมเลยอะนะ ?” แพทย์หนุ่มไม่อยากจะเชื่อว่าน้องชายของตนจะซื่อบื้อในเรื่องการจีบสาวเช่นนี้
“จะให้เอาเวลาที่ไหนไปจีบ แค่ทำงานชีวิตก็ยุ่งจนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นแล้ว ไหนจะต้องเลี้ยงลูกอีก อีกอย่างถึงฉันจีบก็ไม่ติดหรอก คุณชาเธอยังไม่ลืมอดีตน่ะ เธอไม่เปิดใจให้ฉันหรอก”
“ฉันว่าไม่ใช่แค่คุณชาหรอกที่ไม่ลืม นายเองก็ไม่ลืมเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นนายคงเปิดรับคนอื่นมากกว่านี้”
สุดโปรดหน้านิ่ว คิ้วขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อได้ยินพี่ชายสวนกลับมาอย่างนั้น ชายหนุ่มรู้สึกไม่ถูกใจสิ่งที่ผู้เป็นพี่พูดออกมา จึงถามกลับไปด้วยน้ำเสียงตึง ๆ
“อะไร”
คนอย่างเขานี่หรือจะไม่ลืมอดีต เรื่องมันผ่านมาถึงหกปีกว่าแล้ว เขาลืมมันไปตั้งนานแล้วต่างหาก
“เท่าที่ฉันฟังนายเล่ามาเมื่อกี้ ฉันรู้สึกว่านายแค่ทำเพื่อลูก นายอยากให้ลูกมีแม่เหมือนเด็กคนอื่น ๆ ก็เลยพูดกับคุณชาแบบนั้น แต่ตัวนายเองจะมีหรือไม่มีก็ได้”
สุดโปรดไม่เถียงข้อเท็จจริงที่ผู้เป็นพี่เพิ่งพูดออกมา เพราะตั้งแต่ตัดสินใจหย่ากับแม่ของลูก เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากมีใคร ทว่าที่เขาไม่เข้าใจตอนนี้คือพี่ชายเขาจะเอ่ยโยงไปถึงคนในอดีตของเขาทำไมกัน “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่ฉันจะลืมหรือไม่ลืมอดีต”
“ก็เพราะว่านายยังไม่ลืมเอยไง นายถึงไม่พยายามที่จะดึงคุณชาเข้ามาในชีวิตมากกว่านี้”
หัวใจที่เกือบจะด้านชาของสุดโปรดรู้สึกเหมือนถูกเขย่าอย่างรุนแรงภายในเสี้ยววินาที พร้อมกับใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวคนหนึ่งที่เขายังจำได้ดีฉายแวบเข้ามาในหัว หลังจากได้ยินชื่อผู้หญิงที่ชื่อ ‘เอย’ ที่พี่ชายเอ่ยออกมาเมื่อครู่
“…” คนที่คิดว่าตัวเองลืมอดีตได้แล้วเบือนหน้าออกไปมองบ่อปลาคราฟ เพื่อหลบสายตาคู่คมของพี่ชายที่กำลังมองมาที่เขาอย่างสังเกต หรือเรียกอีกอย่างว่าจับผิดปฏิกิริยาของเขา
“ฉันว่าฉันดูนายออกนะโปรด” สุดเขตเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปสักพัก กับน้องชายที่โตมาด้วยกัน มีเรื่องอะไรก็ปรึกษาและเล่าให้กันฟังตลอด เรื่องแค่นี้มีหรือที่เขาจะดูไม่ออก เพราะปกติสุดโปรดจะเป็นคนที่ควบคุมสติตัวเองได้ดีไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ทว่าเมื่อสักครู่นี้เพียงแค่เขาเอ่ยชื่อของผู้หญิงที่เป็นอดีตออกไป คนเป็นน้องถึงกับออกอาการและรีบหลบสายตา ซึ่งถือว่าเป็นคำตอบที่ชัดเจนมาก ๆ “แล้วทางเอยได้ติดต่อหานายบ้างไหม”
“ไม่” สุดโปรดตอบเสียงแข็งทั้งที่ยังจดจ่ออยู่กับบ่อปลาคราฟ หากสายตาไม่ได้จดจ้องที่ปลาตัวไหนเลย
“ไม่เลยเหรอ” สุดเขตถามย้ำ หัวคิ้วขมวดเข้ามากันด้วยความสงสัย ด้วยไม่อยากเชื่อว่าสุพรรณวดีจะไม่ติดต่อไปเพื่อขอเจอลูกเลย
หากคนน้องก็ตอบย้ำคำเดิม “ไม่เลย”
“แล้วนายล่ะ ไม่ได้ติดต่อหาเอยบ้างเลยเหรอ”
“ไม่” คราวนี้สุดโปรดดึงสายตาออกจากบ่อปลาหันกลับไปมองคู่สนทนา น้ำเสียงเขาแข็งขึ้นจากเดิม ด้วยอารมณ์ในอกคุกรุ่น “แล้วมีเหตุผลอะไร ทำไมฉันต้องติดต่อไปก่อน ขนาดปลื้มเป็นลูกแท้ ๆ เขายังไม่คิดจะติดต่อมาหาเลย”
“…” สุดเขตพยักหน้ารับรู้ ไม่ถามต่อในประเด็นนี้ เพราะรู้ว่าถ้าถามออกไปก็คงไม่พ้นเป็นการสุมไฟในใจของน้องชาย เขาคิดว่าลึก ๆ ในใจสุดโปรดก็ยังหวังให้แม่ของลูกติดต่อไปหาบ้าง ทว่าอีกฝ่ายกลับเงียบหายไปเลย...ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสงสัย เพราะตอนนั้น...
แพทย์หนุ่มกำลังจะพูดถึงประเด็นที่ตนสงสัย หากคนเป็นน้องกลับพูดขึ้นมาเสียก่อน
“คงมีครอบครัวใหม่ไปแล้วมั้ง ถึงได้ลืมลูกแท้ ๆ ของตัวเอง” สุดโปรดเอ่ยด้วยน้ำเสียงฮึดฮัดเล็กน้อย ก่อนจะทำเสียงหึในลำคอ อาการนี้ของเขาสร้างความสงสัยให้คนเป็นพี่อีกครั้ง
“เอยมีครอบครัวใหม่แล้วเหรอ ไหนว่าไม่ได้ติดต่อกันไง แล้วนายรู้ได้ยังไง เห็นเหรอ ?”
“ไม่เห็นฉันคงไม่กล้าพูด” ไหน ๆ ก็ปิดบังกันไม่ได้อยู่แล้ว สุดโปรดจึงตัดสินใจเล่าสิ่งที่เขาเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้คนเป็นพี่ฟัง
วันนั้นเขามีประชุมกับบริษัทพาร์ตเนอร์ที่กำลังจะร่วมลงทุนด้วยกัน ซึ่งเป็นการประชุมที่ลากยาวจนถึงดึกดื่น พอประชุมเสร็จ ระหว่างที่เขากำลังจะเดินออกไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าตึกเพื่อจะกลับบ้าน เขาก็ได้บังเอิญเห็นอดีตภรรยาที่ไม่ได้เจอกันนานถึงหกปี
หัวใจเขาเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งในวินาทีแรกที่เห็นใบหน้าสวยของคนที่เคยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทว่าไม่กี่วินาทีต่อมาก้อนเนื้อในอกของเขามันก็เริ่มเต้นช้าลง จนมีความรู้สึกจุกนิด ๆ แทรกเข้ามาในอกอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อเห็นเด็กชายและชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ด้วยกันกับเธอ
ตอนนั้นสมองเขาพยายามคิดอย่างโลกสวยว่าคงไม่ใช่อย่างที่คิด ทว่าพอได้ยืนมองนาน ๆ เห็นท่าทีที่สนิทสนม กอปรกับสายตาของผู้ชายคนนั้นที่มองเธอ ก็ทำให้เขาได้ทุกคำตอบที่เคยตั้งคำถามกับตัวเองมาตลอดหกปีกว่า เพราะสาเหตุนี้เองที่ทำให้อดีตภรรยาของเขาถึงไม่เคยติดต่อไปหาลูกเลยสักครั้ง
...เพราะเธอมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว