“ลินลดาเอ๊ย! ทำไมแกไม่หักห้ามใจตัวเองฟะ”
“อืม…” ลินลดารีบเอามือปิดปากตัวเองอย่างรวดเร็ว เพราะเกรงกลัวว่าเด็กหนุ่มจะตื่นขึ้นมา เธอยังไม่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ในตอนนี้ได้ หญิงสาวจึงเลือกที่จะไม่ปลุกเขา ก่อนจะค่อยๆ พาตัวเองลงมาจากเตียง ไล่เก็บเสื้อผ้าที่กระจายไปตามห้อง และหากระดาษมาเพื่อเขียนโน๊ตบอกอะไรเขาบ้างก็ดี พร้อมทั้งวางบัตรประจำตัวโรงพยาบาลคืนให้เขาไป แล้วจึงค่อยๆย่องออกจากห้องของเด็กหนุ่มไป โดยไม่ลืมลงกลอนล็อคประตูให้เขาอย่างเรียบร้อย
หญิงสาวขับรถออกมาจากหอของมาร์ติน โดยมุ่งหน้ากลับคอนโดของเธอเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย ก่อนจะแต่งตัวแล้วขับรถไปยังโรงพยาบาล ถึงจะรู้สึกเหนื่อยล้าแค่ไหน แต่งานก็สำคัญจนเธอไม่สามารถลาหยุดไปดื้อๆได้ หญิงสาวแวะซื้อกาแฟเพื่อเพิ่มความตื่นตัวให้ตนเอง ก่อนจะเข้าห้องตรวจเพื่อเข้าไปเยี่ยมคนไข้ของเธอ เหมือนที่ทำในทุกๆ เช้าด้วยความใส่ใจ
“อืมมม” มาร์ตินพลิกตัวไปมาเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้น เขาเอื้อมมือไปควานหาความอบอุ่นจากร่างบางของลินลดา ทำให้เด็กหนุ่มถึงกับต้องลืมตาขึ้นมา แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า หญิงสาวผู้พรากพรหมจรรย์ของเขาไปเมื่อวานได้หายออกจากห้องไปเรียบร้อยแล้ว
“นี่มันอะไรกัน…นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างหัวเสีย แต่ภายในใจกลับรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก เขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าถ้าตื่นมาเจอเธอนอนอยู่ข้างๆ จะต้องแสดงออกอย่างไร จะต่อว่าเธอแล้วไล่เธอออกไปจากห้อง หรือจะรีบลุกไปล้างเนื้อล้างตัวด้วยความรู้สึกรังเกียจ หรือจะส่งยิ้มให้เธออย่างงงๆ ซึ่งก็ไม่รู้จะยิ้มไปเพื่ออะไร
“โอ๊ย คิดมากปวดหัว อาบน้ำดีกว่า” มาร์ตินว่าก่อนที่จะลงมาจากเตียงแล้วบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยล้าออกไป แต่หางตากลับไปเห็นกระดาษโพสอิทสีเหลืองแปะอยู่บนโต๊ะวางของข้างเตียง พร้อมกับบัตรประจำตัวโรงพยาบาลที่เขาทำหายไปและไม่คิดว่าจะได้คืน
‘ขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อวาน ถ้าเธอไม่คิดอะไรมากก็ขอให้ลืมๆ มันไป
By ลินลดา’
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วจนเป็นปมหลังจากอ่านข้อความที่หญิงสาวทิ้งไว้ให้
“ถ้ามันลืมครั้งแรกได้อย่างที่คุณว่ามันก็ดีสิ ลดา…” มาร์ตินจัดการขยำกระดาษโพสอิทแผ่นนั้นแล้วโยนมันทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะรีบเข้าห้องน้ำทันทีเมื่อรู้สึกถึงความเหนียวเหน๊อะหนะจากร่างกายตัวเอง
ให้ตายเถอะ! เมื่อวานเขาไม่ได้อาบน้ำ แถมยังร่วมรักกับผู้หญิงที่ไม่ได้อาบน้ำเช่นเดียวกัน แค่คิดถึงจำนวนแบคทีเรียที่อาจแพร่กระจายในห้องและบนร่างของเขา ชายหนุ่มถึงกับขนลุก รีบฟอกสบู่และขัดตัวอย่างรวดเร็ว
หลังจากอาบน้ำเสร็จ มาร์ตินตัดสินใจใช้เวลาว่างทั้งวันไปกับการจัดการทำความสะอาดห้องให้สะอาดเอี่ยม แต่ไม่ว่าจะทำความสะอาดส่วนไหนในห้อง ก็ดูเหมือนจะเป็นจุดที่เขากับหญิงสาวคนนั้นทำอะไรต่อมิอะไรกัน เด็กหนุ่มถึงกับหน้าแดง ก่อนจะพยายามทำความสะอาดอย่างตั้งใจเหมือนต้องการลบทุกอย่างออกไปจากความทรงจำ
“ก็ดีเหมือนกัน เธอบอกให้ลืมเรื่องราวทั้งหมด ฉันก็จะทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เพราะยังไงเราคงไม่ได้เจอกันอีกแน่นอน!”
ครืด ครืด ครืด
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ช่วยเรียกสติของลินลดา ที่กำลังเหม่อลอยไปหาเด็กหนุ่มมาร์ตินให้กลับมา เมื่อเห็นว่าหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นเป็นชื่อของเพื่อนสาว ก็กดรับทันที
“ว่าไงซาร่า” ลินลดาถามทั้งๆ ที่รู้ว่าเพื่อนโทรมาเพราะเรื่องอะไร
“แก! เป็นไงบ้าง เมื่อวานกับพี่กรโอเคมั้ย” เสียงของซาร่ายังคงร่าเริงอยู่ ลินลดาเดาได้ว่าอีตาพี่กรอะไรนั่นคงไม่ได้มาฟ้องอะไรเพื่อนของเธอ
“ดีกับผีสิแก อีพี่กรแสนดีของแกทำฉันไว้แสบมาก!” ลินลดารู้สึกโกรธเมื่อนึกถึงตัวต้นเหตุ
“อะไร เขาทำอะไรแกลินลดา แกบอกฉันมา!!” ซาร่าเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“มันวางยาปลุกเซ็กส์ฉัน หวังจะอึบฉันโดยเฉพาะ”
“ห๊า อีพี่กรมันเลวขนาดนั้นเลยเหรอแก แล้วแกโดนเขาอึบปะวะ แกอาบน้ำไปยัง? เก็บอสุจิมันไว้ไปแจ้งความจับเลย” ซาร่าถึงกับเลือดขึ้นหน้าเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนเล่า ถึงเธออยากจะให้ลินลดามีแฟนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมาทำอะไรชั่วๆ กับเพื่อนของเธอได้
“ไม่แก ฉันหนีออกมาได้ก่อน เขาไม่ได้ทำอะไรฉัน” ลินลดารีบบอก
“โอ๊ย โชคดีจังที่แกหนีออกมาได้ แล้วพอยาออกฤทธิ์แล้วแกทำยังไงวะ…ลดา” ด้วยความขี้สงสัยของซาร่าเลยถามเพื่อนอย่างต่อเนื่อง
“เอ่อ...ฉันก็ช่วยตัวเองไงแก” ลินลดาเลือกที่จะโกหก เพราะไม่เห็นถึงประโยชน์ที่จะบอกซาร่าว่าเธอไปขโมยพรหมจรรย์ของคนไข้ตัวเองถึงหอพักของเขา!
“โอ๊ย ยัยลินลดา ทำไมแกไม่ไปซื้อผู้ชายหล่อๆ หุ่นล้ำๆ กินซะเลยล่ะ มาเสียเวลาช่วยตัวเองทำไมอีบ้า!” ซาร่าโล่งใจเมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อน แต่ก็มิวายอดด่าไม่ได้ ลินลดาก็ไม่ใช่เด็กอายุน้อยๆ ที่จะมานั่งหวงเยื่อบางๆ เธอค่อนข้างจะสนับสนุนให้เพื่อนหาความสุขให้ตัวเองด้วยซ้ำ
“เออ…เอาเถอะน่า แกนี่ถามมากจริง ฉันปลอดภัยแกก็ควรจะดีใจมั้ยว่ะ”
“ไอ้ดีใจน่ะมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ฉันก็อยากให้แกหาความสุขให้ตัวเองบ้างปะวะ” ลินลดาอยากจะตะโกนบอกเพื่อนแทบตายว่า หาสิวะ!! เมื่อวานหาความสุขถึงเช้าเลยด้วย! แต่ก็ทำเพียงเก็บมันเอาไว้ก่อนจะบอกลาเพื่อนเพื่อทำงานของตนเองต่อ
ลินลดาเลือกที่จะไม่ถือสาอะไรภากร ทั้งๆ ที่ซาร่าเสนอหนทางและเชียร์ให้เธอแจ้งความจับเขา ที่เธอเลือกที่จะไม่ทำอะไรเพราะสุดท้ายแล้วเธอไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้โดนชายหนุ่มแตะต้องเนื้อตัวด้วยซ้ำไป ลินลดาจึงเลือกจะเก็บมันไว้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญมากกว่า
“เฮ้อ ไม่รู้ป่านนี้เจ้าเด็กมาร์ตินจะตื่นขึ้นมาอ่านข้อความหรือยังนะ…” จริงๆ ตอนแรกเธอไม่ตั้งใจจะเขียนข้อความทิ้งไว้ให้เขาด้วยซ้ำไป แต่ถ้าเขาตื่นมาโดยไม่เห็นว่าเธอหายไปแล้วมันคงจะไม่ดีสักเท่าไร เธอหวังว่าเขาจะลืม เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในตอนที่เราเจอกันอีกครั้ง ในวันที่นัดดูอาการในเดือนหน้า มันคงจะดีและเธอคงจะทำตัวถูก ถ้าเขาลืมๆ มันไป