ไม่เหลือศักดิ์ศรี...1

1261 คำ
ภีมก้าวเข้ามาอีกก้าวหนึ่ง มือหนึ่งถือแฟ้มเอกสาร สายตาของเขาเย็นเยียบเหมือนน้ำแข็ง “เพียงฟ้า…ถ้าอยากได้บ้านหลังนี้คืน เธอมีเวลาเจ็ดวันในการหาเงินจำนวนทั้งหมดมาชำระหนี้ให้ฉัน” เขาพูดเสียงเรียบ แต่คำพูดเต็มไปด้วยแรงกดดัน “ถ้าไม่ทัน…ของทุกชิ้น รวมถึงบ้านหลังนี้…ก็จะถูกยึดไปตามกฎหมาย” เพียงฟ้าก้มหน้าลงอีกครั้ง ใบหน้าซีดเผือด ความรู้สึกเจ็บปวดกระแทกเข้าที่อกอย่างรุนแรง “เจ็ดวัน…เจ็ดวันเองเหรอ…?” เธอพึมพำเบาๆ เสียงแทบขาดเป็นเสี่ยงๆ น้ำตาไหลรินลงมาพร้อมกับหัวใจที่แทบแตกสลาย เธอคิดถึงบ้านหลังนี้…ที่พ่อสร้างด้วยมือของเขาเอง…ภาพความทรงจำวัยเด็กที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรัก แต่ตอนนี้ ทุกอย่างถูกแปรสภาพเป็นภาระหนักและเกมทรมานทั้งร่างกายและจิตใจของชายตรงหน้า “นี่มัน…บ้าไปแล้วสินะ…ฉันจะไปหาเงินจากที่ไหน? ฉันมีงานเพียงไม่กี่อย่าง เงินทุกบาททุกสตางค์ก็เอาไปใช้จ่ายเพื่อเลี้ยงแม่และตัวเองแล้ว แบบนี้…มันเหมือนเขาต้องการแกล้งฉันให้เจ็บชัดๆ” เพียงฟ้าโวยวายออกมาด้วยความรู้ดีว่าเธอไม่สามารถทำได้แน่ๆ เพียงฟ้านั่งลงกับพื้น ลูบหน้าตัวเองด้วยมือที่สั่น เธอรู้สึกสิ้นหวังที่สุดตั้งแต่เกิดมา การกราบครั้งนั้น…ไม่ได้ทำให้ภีมใจอ่อน ไม่ได้ทำให้เธอได้โอกาส แต่กลับเป็นการกดดันให้เธอเจ็บปวดมากขึ้น ความโกรธและความสิ้นหวังผสมกันจนแทบจะทำให้เธอร้องไห้ลั่น แต่ลึกๆ ในใจ เธอรู้ว่า…ถ้าเธอยอมแพ้ บ้านหลังนี้ก็จะหายไปตลอดกาล “ฉัน…ฉันจะต้องทำให้ได้…ไม่ว่าจะต้องเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม” เธอกระซิบตัวเองเบาๆ น้ำตาไหลพราก แต่สายตายังคงเปล่งประกายความมุ่งมั่น ส่วนภีมเขาก็มองไปที่หญิงสาวด้วยแววตายิ้มหยัน ไม่เสียแรงที่เขาเฝ้ารอดูวันนี้ วันนี้เธอเจ็บปวดที่สุด ในที่สุดเขาก็ได้เห็นมัน "ถ้าไม่รับก็บอกฉันได้นะฉันจะได้ยึดวันนี้ให้มันจบๆ จะทิ้งความเมตตาเดียวที่ฉันมีให้ไหมล่ะ" ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างเลือดเย็น คำพูดมันให้โอกาสแต่สิ่งที่เขาทำมันเลือดเย็นไม่ต่างจากคำพูดของเขาสักนิด เพียงฟ้าได้แต่มองหน้าเขาด้วยความเจ็บปวด หากเธอไม่รับเธอก็จะถูกยึดบ้านทันที แต่ถ้าหากเธอรับเงื่อนไขของเขา อย่างน้อยเธอก็สามารถประวิงเวลาได้ถึงเจ็ดวัน "ไม่ว่าเงื่อนไข มันจะเลวร้ายแค่ไหนฉันก็ต้องรับค่ะ ฉันไม่มีทางเสียบ้านหลังนี้ไปแน่ๆ" เพียงฟ้าตอบออกมาเสียงเครียด นั่นทำให้ภีมตัดสินใจหมุนตัวเดินไปจากบ้านเธอ อีกเจ็ดวันข้างหน้า ค่อยมาเล่นสนุกอีกครั้ง ส่วนเพียงฟ้าก็มองตามเขาด้วยความเจ็บปวด เธอจะไปหาหนทางที่ไหน เธอจึงจะรักษาบ้านหลังนี้ไว้ได้ คุณเพ็ญพรที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ก็มองบุตรสาวด้วยความสงสาร ท่านสำนึกผิดจริงๆ แล้ว สำนึกผิดที่ทำให้บุตรสาวต้องลำบากขนาดนี้ เช้าวันต่อมา... เพียงฟ้าเดินออกจากบ้านในเช้าวันถัดมา สายตายังเต็มไปด้วยรอยบวมแดงจากการร้องไห้ทั้งคืน มือบางกำแฟ้มเอกสารแน่น ราวกับเป็นเส้นทางรอดเดียวของเธอในตอนนี้ “ต้องหาให้ได้…ต้องทำให้ได้…” เธอบอกตัวเองซ้ำๆ น้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกลัวว่าความหวังนั้นจะสลายไป เธอตัดสินใจที่จะไปยื่นกู้ที่ธนาคาร คงเป็นทางเดียวที่เธอสามารถทำได้ แต่ใครเล่าจะให้คนที่อายุงานแค่สองปียังเธอยื่นกู้ ถึงห้าล้านบาทแต่การไม่เสี่ยง หรือไม่ทำอะไรเลย เธอทำแบบนั้นไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็คงต้องขอลองก่อน กู้ได้หรือไม่ได้ก็แค่ต้องทำใจยอมรับผลของมัน ธนาคารแห่งแรก…เธอยื่นเอกสารครบทุกอย่าง ใบรับรองเงินเดือน ใบรับรองงานที่เพิ่งได้ทำ แต่พนักงานเพียงแค่ยิ้มจางๆ ก่อนจะส่ายหน้า “ขอโทษนะคะคุณเพียงฟ้า วงเงินขนาดนี้เราไม่สามารถอนุมัติให้ลูกค้าที่เพิ่งเริ่มทำงานได้ค่ะ…” คำพูดนั้นเหมือนคมมีดกรีดซ้ำบนแผลในใจเธอ เธอพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะหอบแฟ้มออกมาโดยไม่พูดอะไร ธนาคารแห่งที่สอง…คำตอบเหมือนเดิม ธนาคารแห่งที่สาม…พนักงานเพียงแค่ดูเอกสารแค่ครู่ก็ส่งกลับมาด้วยสายตาเห็นใจ แต่ไม่มีทางเลือกอื่นให้ “มันไม่มีประโยชน์เลย…นักศึกษาจบใหม่ เงินเดือนหมื่นกว่าบาทแบบฉัน…ใครจะให้กู้ห้าล้าน…” เธอพึมพำกับตัวเองขณะเดินออกมาจากธนาคารที่สี่ ดวงตาเริ่มพร่าด้วยน้ำตา ทุกครั้งที่ถูกปฏิเสธ ความสิ้นหวังยิ่งก่อตัวขึ้นในใจเธอ มันเหมือนกับกำแพงสูงที่ไม่มีวันปีนข้ามได้ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังเดินต่อไป ไม่ยอมให้ขาตัวเองหยุด เพียงฟ้าเดินจนถึงหน้าธนาคารแห่งสุดท้าย เหงื่อไหลตามกรอบหน้า เธอกำแฟ้มเอกสารแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ลมหายใจถี่ขึ้น แต่ในแววตายังคงมีประกายของความไม่ยอมแพ้ “ไม่ว่าจะถูกปฏิเสธอีกกี่ครั้ง…ฉันก็ต้องหาทาง…” เธอพูดเสียงแผ่วกับตัวเอง ริมฝีปากสั่นเทา คุณเพ็ญพรที่รออยู่ที่บ้านไม่รู้เลยว่าลูกสาวกำลังวิ่งวุ่นหาทางช่วยครอบครัวอย่างสิ้นหวัง สิ่งเดียวที่ท่านทำได้ตอนนี้ นั่นก็คือรอบุตรสาวกลับมาเท่านั้น คุณเพ็ญพรไม่ได้รู้เลยว่าบุตรสาวของท่านเจ็บปวดมากเพียงใด ในใจของเพียงฟ้าตอนนี้ เธอรู้ว่าถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ทำอะไร บ้านหลังนี้คงไม่เหลืออีกแล้ว และนั่นคือสิ่งที่เธอไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น ทรงรบลูกน้องคนสนิทของภีม ยืนรออยู่ในสำนักงานเพื่อรายงานเรื่องนี้กับเจ้านาย เมื่อได้โอกาสก็รีบรายงานเจ้านายทันที “เจ้านายครับ ผมตามข่าวของคุณเพียงฟ้ามาตลอด… ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่สองวัน แต่เธอยังไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารที่ไหนได้เลยครับ” ภีมนั่งหลังตรง สายตาคมกริบมองไปยังหน้าต่างราวกับมองภาพในหัวของเขาเอง รอยยิ้มเย็นๆ เริ่มปรากฏบนริมฝีปาก “ฮึ…สองวันเองหรือ?” เขากระตุกยิ้มอย่างสะใจ ความคิดในหัวชัดเจนราวกับภาพวาดที่ถูกวางไว้เรียบร้อย “เธอคิดว่าเธอจะรอด… แต่ความจริงคือ เธอไม่มีวันหาเงินได้ทันเวลา และเธอก็รู้ดีว่าฉันไม่ใช่คนที่จะใจอ่อน” ทรงรบพยักหน้าเงียบๆ ไม่กล้าสบสายตาเจ้านาย ความตึงเครียดในอากาศเหมือนจะกัดกินทุกลมหายใจ ภีมหันไปมองแฟ้มเอกสารที่ทรงรบนำมาให้ พลิกดูชื่อธนาคารและสถานะการกู้เงินของเพียงฟ้า “ไม่มีใครอนุมัติให้เธอเลยสินะ… ฮ่า… ดีมาก” เขากระซิบอย่างพึงพอใจ สายตายังคงจับจ้องไปยังภาพของเพียงฟ้าในจิตนาการ “ทรงรบ…คอยติดตามทุกก้าวของเธอ อย่าให้เธอมีเวลาหาทางแก้ไขได้ง่ายๆ” ทรงรบก้มรับคำสั่งด้วยความเคารพ “ครับนาย ผมจะเฝ้ารายงานทุกความเคลื่อนไหวครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม