“ทำไมตอนนั้น...พวกเขาไม่เอาเธอไปนะ?”
สิบปีมานี้ แม้เธอจะไม่มีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหนเลย แต่กลับรู้สึกเหมือนเสียตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
โดยเฉพาะในคืนพระจันทร์เต็มดวง ยามค่ำคืนถูกอาบไปด้วยแสงจันทร์กระจ่าง ความฝันอันหวามหวานสะกดอารมณ์และความรู้สึกให้จมดิ่งลงไปในความรัญจวนชวนลุ่มหลงอันลึกลับ
“อ่า...” ร่างกายของเธอเร่าร้อนในทุกอณู โดยเฉพาะเนินสวาทแสนบริสุทธิ์ พรหมจรรย์สดสาวในช่องรักราวกับโดนไฟเผา
“อือออ...อือออ...” ความรู้สึกกระสันซ่านวาบหวิวครอบงำจิตวิญญาณของเธออย่างหนักหน่วงแน่นหนา รั้งรัดมัดร่างกายเธอไว้อย่างแข็งแรง จนไม่สามารถดิ้นหลุดออกจากพันธนาการเร้นลับนั้นได้
“ซี๊ดส์...อือ..” เธอร้องครางแผ่วเบาราวแมวน้อย ยามเสียวสยิวในช่องรักนุ่มหยุ่น ราวกับโดนเลียไล้ด้วยปลายลิ้นอุ่น
“โอววว...” เธอรู้สึกเหมือนร่างกายโดนปลายลิ้นสากเลียไล้ตั้งแต่หัวจดเท้า รู้สึกถึงการบุกรุกของท่อนเนื้อแข็งคัดที่กระแทกกระทั้นเข้ามาไม่หยุดยั้ง
“อ๊า...” รู้สึกถึงปากลิ้นที่ชโลมลงบนทรวงอกราวกับฝีแปรงของจิตกร รู้สึกถึงปลายลิ้นนุ่มเย็นที่ระบัดระบายในซอกคออย่างเย้ายวน
โอววว...ลมหายใจรุนแรงกระหน่ำลงมาอย่างกระหืดกระหาย ไม่ขาดสาย ปรนเปรอความเสียวสยิวอย่างชำนาญจนร่องรักแสนบริสุทธิ์ กระสันซ่านฉีดน้ำสวาทหลั่งรินย้อยเยิ้มจนชุ่มฉ่ำ
“อูวววว....” ในค่ำคืนที่แสนหวามหวิว...
ทว่า...การลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้าของคืนรัญจวนนั้น หาได้พบร่องรอยการเสพสังวาสตามร่องรักไม่ เพียงแต่บนที่นอนนั้นกลับเนืองนองไปด้วยน้ำรัก
“อือ...มันเป็นแค่ความฝัน”
ถึงร่างกายของเธอจะรู้สึกถึงรสสวาทอย่างแรงกล้า แต่เธอก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น ความฝันในวัยแรกแย้ม ที่ชโลมหัวใจของเด็กสาวให้ปรารถนาถึงความเป็นชาย
เธอคงไม่อาจฝืนธรรมชาติของร่างกายนั่นล่ะ ร่างกายที่กำลังโหยหาและร่ำร้องถึงการร่วมรัก
“ถ้าเรารักใครสักคนก็คงดี”
หากหัวใจของเธอได้เรียนรู้ที่จะรักใครได้สักคน บางทีเธออาจจะเลิกรอคอยใครบางคน และเลิกเฝ้ารอให้วันพระจันทร์สีเลือดมาถึง...
“อีก 3 วันเท่านั้น!”
ลดาละมัยพึมพำกับตัวเอง ขณะถอดเสื้อผ้าออกจากกายจนหมด เดินเปลือยเปล่าล่อนจ้อนลงไปในแอ่งน้ำใต้เพิงถ้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ลับกลางหุบเขาใกล้น้ำตกที่มีแค่เธอเท่านั้นที่รู้จัก...เธอค้นพบเส้นทางเข้าสรวงสวรรค์แห่งนี้มาตั้งแต่สิบเอ็ดขวบแล้ว
“อ่า...ดีจัง น้ำอุ่นชะมัดเลย” ร่างกายสวยงามสมสัดส่วนราวกับนางกินรีในวรรณคดี
สองเต้ากลมโตอวดยอดถันสีชมพูระเรื่อ เนินสวาทอิ่มอูมแต้มไรขนอ่อนพองามแสนเย้ายวน
สองขาขาวเรียว ตีน้ำแหวกว่ายวนเวียนในแอ่งน้ำอุ่นอย่างมีความสุข
“อืมม...เวลายิ่งใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว”
เธอจับจี้หินสีนิลที่ห้อยคอไว้ตลอดเวลาด้วยแววตาสงสัยปนหวาดหวั่น ความรู้สึกในวินาทีนี้มันบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้