ลดาละมัยในวัยยี่สิบเอ็ดปี เธอกลับมาที่หมู่บ้านอีกครั้งในวันนี้ หลังจากเดินทางไปร่ำเรียนมัธยมปลายและเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ร่วมเจ็ดปีเต็ม
“สวัสดี...ฉันกลับมาแล้วนะ !”
“เนื้อคู่ของหนูมี 3 คนนะ”
“ว๊าว 3 คนเลยเหรอคะ” เธอล่ะตลก มองไม่เห็นว่ามันจะเป็นไปได้ “แสดงว่าหนูก็มีตั้ง 3ช๊อยน่ะสิ งั้นหนูจะเลือกใครก็ได้ใช่มั้ย”
“เข้าใจผิดแล้ว หนูไม่มีสิทธิ์เลือกด้วยซ้ำ จากพื้นเพดวงชะตาของหนู...หนูเป็นผู้ถูกเลือกต่างหาก”
“ถูกเลือก??? หมายถึงคลุมถุงชนหรือคะ คือยังไงคะ หนูไม่เข้าใจ”
“ยายก็...ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
“อ้าว”
“แต่ 3 คน ชัดมาก”
“หมายถึงหนูจะแต่งงาน 3 ครั้งอย่างนั้นเหรอ?”
“จากดวงชะตาของหนู...หนูจะไม่ได้แต่งงาน”
“อ้าว อะไรกันเนี่ย???”
เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ตอนที่เธอกับเพื่อนไปไหว้พระกันที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอยุธยา เธอได้เจอกับยายอายุเกือบ 100 ปีคนหนึ่งที่ประตูโบสถ์
คุณยายท่านนั้นจับมือเธอแน่น จ้องมองเธอด้วยสายตาประหลาด แล้วพูดย้ำกับเธอหลายรอบมาก...
“ฉันเนี่ยนะ...มีเนื้อคู่สามคน ตั้งแต่เกิดมาจนโตเป็นควายขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่มีผู้ชายมาจีบแม้แต่คนเดียว ชิ! เนื้อคู่หรือศัตรูกันแน่...ทำไมมีแต่ศัตรู !”
เมื่อรถเก๋งคันเล็กจอดสนิทที่หน้าบ้านหลังใหญ่ และสองเท้าเหยียบย่างลงบนแผ่นดินเกิดอีกครั้ง
ลดาละมัยก็รู้สึกถึงอ้อมกอดของขุนเขาพญาไพร และเสียงกระซิบแผ่วเบาจากที่แสนไกล...
“อือ...ทำไมรู้สึกอบอุ่นจัง” มันเป็นความรู้สึกที่บางเบาเหมือนสายลม อ่อนโยนเหมือนขนนก แต่ก็อบอุ่นคุ้นเคยอย่างประหลาดล้ำ
“ยัยลดา!”
เสียงผู้ใหญ่บุญแสนดังลั่นมาแต่ไกล ก่อนจะเดินหน้าถมึงทึงมาต้อนรับลูกสาวคนเล็กถึงรถเก๋ง ส่วนสาทินีผู้เป็นเมียนั้นก็รีบตามติด ด้วยหวั่นกลัวว่าผัวจะฟาดลูกสาวด้วยไม้เรียว
“กลับมาทำไมวะ!”
“อ้าว พ่อก็” ลดาละมัยหน้าเหวอ ก่อนจะหัวเราะคิก “นี่มันบ้านหนูนะ และอีกอย่าง หนูเรียนจบแล้วจ้ะ”
“บอกแล้วไงว่าให้อยู่ที่โน่น”
“ใจเย็น ๆ พี่บุญ คุยกับลูกดี ๆ”
“กลับไปเลยไป๊” ผู้ใหญ่บุญแสนพยายามจะยัดลูกสาววัยยี่สิบเอ็ดกลับเข้าไปในรถ แต่สาวเจ้าเบี่ยงตัวรอดใต้จั๊กแร้พ่อแล้ววิ่งเข้าบ้านอย่างเร็ว
“ยัยลดา! ไอ้ลูกคนนี้นี่!”
“พอเถอะพี่ ลูกไปเรียนที่กรุงเทพฯ ตั้งเจ็ดปี แทนที่จะดีใจที่ลูกกลับมาเยี่ยมบ้าน กลับไล่ตะเพิดซะงั้น”
สาทินีส่ายหน้าระอาใจให้กับความหมกมุ่นครุ่นเครียดจนเกินเหตุของผัว จนทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับกระสับกระส่ายมาทั้งปี