หลายวันผ่านมาแล้ว ตั้งแต่ที่มีปากเสียงกลางดึกคืนวันนั้น ภูวินก็ยังคงนิ่งเฉยไม่งอนง้อหรือคิดจะขอโทษปณิตาเลยแม้แต่คำเดียว แทบจะเรียกได้ว่าเขาหนีหน้าเธอเพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอกัน ทำให้ความสัมพันธ์ยิ่งดูแย่มากขึ้นกว่าเดิม
ปณิตานอนร้องไห้กอดลูกสาวมานานหลายคืนแล้ว คำพูดของภูวินยังคงเป็นสิ่งที่หญิงสาวเก็บมาขบคิด ความผิดอาจจะอยู่ที่เธอจริง ๆ เพราะตั้งแต่มีลูกเธอก็สนใจพ่อของลูกลดน้อยลงตามที่ภูวินกล่าวอ้าง จนเธอเริ่มคิดที่จะปรับจูนชีวิตให้เดินเคียงคู่ไปกับภูวินได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะเธอยังคงรักและยังอยากที่จะยืนอยู่เคียงข้างเขาไปอีกนาน ๆ
วันนี้ปณิตาพาลูกสาวออกมาพบปะเพื่อนรักที่มีลูกชายอายุรุ่นแล้วคราวเดียวกับฟ้าใส กนกอรเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่ยังคงคบหา ไปมาหาสู่กันจนถึงทุกวันนี้ แม้ต่างคนต่างจะมีลูกและครอบครัว แต่ก็ยังคงพูดคุยและปรึกษาหารือกันเรื่องลูกมาตลอด
สีหน้าของปณิตาที่แสดงออกทำให้กนกอรต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เพ่งมองจ้องดวงตาของเพื่อนรัก จนปณิตาสะดุ้งตื่นจากภวังค์
"อะไร ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทำไมขนาดนี้นะอร"
"แกเป็นอะไรมากหรือเปล่าโรส ฉันเห็นแกนั่งเหม่อแบบนี้ตั้งแต่มาถึงแล้วนะเว้ย แกมีอะไรจะเล่าให้ฉันฟังหรือเปล่า?"
"ไม่มีหรอก ฉันก็แค่คิดอะไรไปเรื่อย"
"แกแน่ใจเหรอ สีหน้าแกมันเหมือนคนอมทุกข์กับชีวิตมากเลยนะเว้ย แกมีปัญหากับผัวที่บ้านหรือเปล่า?"
ปณิตาจ้องมองหน้าของเพื่อนสาว ลังเลอยู่ว่าควรจะเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับเพื่อนได้รับรู้หรือไม่ แม้จะคุยกันได้ทุกเรื่องแต่ก็ใช่ว่าอยากจะพูดเรื่องส่วนตัวแบบนี้ให้กับเพื่อนได้รับฟัง แต่สุดท้ายปณิตาก็เลือกที่จะเล่าเพราะอาจจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง
"ฉันกับพี่ภูทะเลาะกัน ตอนนี้พี่ภูไม่คุยกับฉันไม่มองหน้าฉันมานานหลายวันแล้ว"
"เรื่องอะไร? เรื่องผู้หญิงงี้เหรอ?"
"ฉันก็ไม่รู้ ความผิดมันอาจจะอยู่ที่ฉันจริง ๆ ก็ได้อร เพราะตั้งแต่ฉันคลอดฟ้าใสฉันก็หลงลืมพี่ภูไปมากจริง ๆ แต่มันก็แค่เรื่องบนเตียงนะเว้ย เรื่องอื่นฉันก็ไม่คิดว่าฉันมีอะไรให้บกพร่อง"
"แล้วพี่ภูของแกก็แอบไปมีอีหนูอย่างนี้หรือเปล่า?"
"มันยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกมั้งอร แต่เมื่อวันก่อนแฟนเก่าของพี่ภูที่เคยคบหากันมานานหลายปีก่อนจะมาเจอฉัน พี่ภูพาเขามาที่บ้าน ความรู้สึกของฉันมันเหมือนกับว่าพี่ภูยังอยากกลับไปหาผู้หญิงคนนั้นอยู่"
"อะไรนะ พาแฟนเก่าเข้าบ้าน โอ้มายก๊อด!! มันหมายความว่ายังไง แกอย่าไว้ใจเชียวนะโรส!"
"คุณพลอยเป็นมัณฑนากรที่บริษัทพี่ภูจ้างมาทำงานประจำอยู่ พี่ภูเคยบอกว่าอยากรีโนเวทบ้านมานานแล้วเขาก็เลยพาผู้หญิงคนนั้นมาดู"
"มันใช่เหรอวะที่จะให้แฟนเก่ามาอยู่ใกล้ป้วนเปี้ยนกับสามี ขึ้นชื่อว่าแฟนเก่านะเว้ยมันจะไว้ใจกันได้เหรอ จะสปาร์กกันติดตอนไหนเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วแม่นั่นมันแต่งงานมีลูกมีผัวหรือยังอ่ะแก?"
"เท่าที่รู้ก็ยังเป็นโสดนะ เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกก็เลยมาทำงานให้กับบริษัทพี่ภู"
"แล้วทีท่าผัวแกล่ะ เขาอยากจะเลิกกับแกเพื่อกลับไปหาแม่นั่นหรือยังไง?"
ปณิตาถึงกับทำหน้าเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน วันหนึ่งข้างหน้าถ้าหากชีวิตปรับจูนกันไม่ได้ขึ้นมาจริง ๆ ก็คงจะมีแนวโน้มให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแน่ ๆ
"นี่แกอย่าบอกนะว่าอีตาพี่ภูของแก มันอยากจะกลับไปกินของเก่าของเดิมที่เคยเลิกลาจากกันมาก่อน เลว!!! เป็นผู้ชายที่เลวมาก แย่มาก!"
"ฉันควรทำยังไงดีนะอร ฉันควรทำตัวเป็นเมียที่หึงหวงผัวหรือเปล่า?"
"ถ้าผู้หญิงคนนั้นมันคิดไม่ซื่อกับผัวแก แกก็ควรจะเป็นนางมารไม่ใช่แม่พระที่จะถวายผัวให้กับใครนะโรส แกหึงหวงผัวมันไม่ผิด ของใครใครก็ต้องหวงหรือเปล่าวะ?"
"แต่ฉันไม่เคยทำตัวแบบนั้นเลยนะอร ที่ผ่านมาฉันกับพี่ภูก็ต่างให้อิสระซึ่งกันและกัน ไม่เคยได้ก้าวก่าย ไม่เคยต้องตีกรอบให้ใครต้องมาอยู่ในพื้นที่ที่ตัวเองจัดตั้งเอาไว้ แล้วถ้าฉันทำแบบนั้นพี่ภูเขาจะไม่ยิ่งเบื่อหรือรู้สึกรำคาญฉันมากกว่านี้อีกหรือไง?"
"หรือว่าแกอยากจะให้แม่นั่นเข้ามาเป็นมือที่ 3 ทำลายชีวิตครอบครัวของแกล่ะโรส ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมตอนนี้มันก็ดีกว่าที่แกจะให้มันเผาบ้านจนมอดไหม้ไม่ใช่เหรอวะ ฉันไม่อยากให้ฟ้าใสต้องเป็นเด็กที่กำพร้าขาดคนใดคนหนึ่งในวันข้างหน้าหรอกนะโรส ฉันรู้ว่าแกเป็นผู้หญิงที่ดีมาก เป็นเมียและแม่ที่ดีที่สุด แต่ผู้หญิงทุกวันนี้มันน่ากลัวนะเว้ย ถ้ามันจะเอามันไม่คิดหรอกว่าผู้ชายจะมีลูกหรือมีเมียหรือเปล่า ยิ่งขึ้นชื่อว่าแฟนเก่า เป็นฉันฉันจะไม่ให้มันเข้ามาเฉียดแม้แต่เงาของผัวฉันเลย"
ปณิตาจ้องมองหน้าเพื่อนสาวก่อนจะหันไปจับจ้องมองลูกสาวที่กำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานกับเพื่อนอยู่ไม่ไกลนัก ถ้าวันหนึ่งครอบครัวต้องแตกแยกขึ้นมาจริง ๆ ลูกสาวที่แสนน่ารักจะยังคงยิ้มและหัวเราะได้อย่างตอนนี้ที่เป็นอยู่หรือเปล่านะ....