ตกเย็นของวันเดียวกัน ปณิตากลับมาถึงบ้านก่อนเวลา 17:00 น. แต่ภายในบริเวณบ้านกลับมีรถของภูวินและรถยนต์อีกสองคันจอดต่อท้ายกันอยู่ก่อนแล้ว
หญิงสาวจับจูงมือลูกสาวเดินเข้าบ้าน สองแม่ลูกพูดคุยกันเจื้อยแจ้วมาตามทาง ก่อนจะพบเข้ากับภูวินที่กำลังนั่งพูดคุยอยู่กับพลอยไพลินพร้อมด้วยใครอีกคนที่กำลังหลังให้กันอยู่
"พ่อมาแล้ว พ่อกลับมาแล้ว"
หนูน้อยฟ้าใสรีบวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นพ่อด้วยความดีใจจนภูวินต้องรีบยกตัวลูกสาวขึ้นนั่งบนตัก
"ไปไหนมาครับลูกสาวคนสวยของพ่อ"
"ไปหาโตโน่มาค่ะ"
"เหรอครับ สนุกไหมครับ?"
"หนุกมากเลย หนุกที่สุด"
"สวัสดีน้าพลอยกับน้ากฤษณ์หรือยังครับ?"
หนูน้อยมองหน้าคนทั้งคู่ที่นั่งอยู่ ก่อนจะยกมือไหว้ตามคำบอกของผู้เป็นพ่อ
กฤษณะหันหลังกลับก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้าง ตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาคุ้นยืนอยู่ไม่ไกล
"โห ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่ารุ่นน้องที่มหาลัยคนสนิทจะเป็นภรรยาของคุณภู"
กฤษณะพูดขึ้น ทำให้ทั้งพลอยไพลินและภูวินต่างหันไปมองจ้องหน้ากฤษณะอย่างพร้อมเพรียง
"คุณกฤษณ์รู้จักคุณโรสด้วยเหรอคะ เนี่ย โลกช่างกลมจริง ๆ"
พลอยไพลินถามขึ้น กฤษณะพยักหน้าตอบรับพร้อมกับรีบลุกขึ้น ก่อนจะเดินไปทักทายปณิตาที่กำลังเดินยิ้มเข้ามาหาและยกมือขึ้นไหว้อย่างเช่นที่เคยทำ
"พี่กฤษณ์มาได้ไงคะเนี่ย เซอร์ไพรส์มาก"
"สวัสดีครับโรส ไม่เจอกันตั้งหลายปี โรสยังสวยและน่ารักเหมือนเดิมเลยนะครับ"
"ยังปากหวาน ชวนให้สาว ๆ ใจละลายตลอดเลยนะคะ"
"ดูคุณโรสกับคุณกฤษณ์เขาจะสนิทกันมากเลยนะคะภู พลอยไม่รู้มาก่อนว่าผู้ช่วยที่พลอยมีจะรู้จักกับเมียภูด้วย แบบนี้คงทำงานง่ายขึ้นเยอะเลยล่ะ"
พลอยไพลินพูดคุยกับภูวินเบา ๆ ชายหนุ่มหันไปมองจ้องคนทั้งคู่เพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาสนใจลูกสาวที่นั่งอยู่บนตัก
"พี่กฤษณ์กลับมาจากลอนดอนเมื่อไหร่กันคะ ไม่เห็นอรเล่าให้ฟังเลย"
"พอดีพี่เพิ่งกลับมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ยายอรก็ยังไม่ได้เจอพี่เหมือนกัน บังเอิญกว่านั้นพี่ก็ได้เข้าทำงานบริษัทคุณภูพอดีเลย ดีใจมากจริง ๆ ที่ได้เจอโรส โรสแต่งงานกับคุณภูตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไม่เห็นจะร่อนการ์ดเชิญให้พี่ได้รู้ข่าวบ้างเลย"
ปณิตายิ้มเจื่อนส่งให้ จะร่อนการ์ดเชิญใครได้ก็ในเมื่อไม่ได้มีงานแต่งเลยสักครั้ง ก่อนจะชะโงกหน้าไปมองลูกสาวและภูวินที่หยอกล้อเล่นกันอยู่ พร้อมกับเอ่ยทักทายหญิงสาวอีกคนอย่างไม่ให้เสียมารยาท
"สวัสดีค่ะคุณพลอย เจอกันอีกแล้วนะคะ"
"สวัสดีค่ะคุณโรส มานั่งด้วยกันสิคะ พอดีเรากำลังคุยกันเรื่องรีโนเวทบ้านใหม่กันอยู่ รวมไปถึงห้องนอนของคุณกับภูด้วยนะ จะได้ถามความเห็นจากคุณโรสเลยว่าต้องการปรับเปลี่ยนอะไรข้างในนั้นบ้าง ลำพังถามภูนะคะเขาก็บอกให้ตามใจพลอย ตามใจพลอยได้ยังไงพลอยไม่ใช่คนอยู่จริงไหมคะ มาค่ะมามานั่งตรงนี้ใกล้ ๆ พลอยเลย วันนี้พลอยเอาแคตตาล็อกเฟอร์นิเจอร์มาให้เลือกดูด้วยนะคะ"
หญิงสาวเดินตรงไปยังโซฟานั่งลงเคียงข้างกับภูวินและลูกสาว กฤษณะกลับมานั่งเคียงข้างกับพลอยไพลินอีกครั้ง
ภูวินที่ไม่ได้พูดคุยกับปณิตามานานหลายวันได้แค่ปรายสายตาหันไปมองเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจเล่นกับลูกสาวต่อ
"อันนี้เป็นดีเทลของสีผนังห้องนอนห้องน้ำนะคะ เชิญคุณโรสเลือกเลยค่ะว่าอยากได้แบบไหน พอดีวันนี้พลอยพกผู้ช่วยมาด้วย เขาจะได้จดรายละเอียดทั้งหมดที่เจ้าของบ้านต้องการปรับเปลี่ยน ประมาณเดือนหน้าจะได้เริ่มทำงานกันเลยดีไหมคะ คุณโรสมานั่งตรงนี้ก็ได้ จะได้คุยกับคุณกฤษณ์ได้ถนัด ๆ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวโรสเลือกตรงนี้ก็ได้ นั่งตรงไหนก็คุยกันสะดวกทั้งนั้นแหละค่ะ"
น้ำเสียงของหญิงสาวแปรเปลี่ยน เพราะนึกถึงคำพูดของกนกอรที่ทำให้ชวนคิดว่าพลอยไพลินอาจจะน่ากลัวมากกว่าที่เธอคิดและเห็นอยู่
"ถ้าที่เตรียมมายังไม่มีแบบที่โรสถูกใจเดี๋ยวพี่จะส่งไฟล์เข้าอีเมลล์ให้โรสเลือก มีอีกเยอะเลยนะครับ โรสใช้อีเมลล์เดิมใช่ไหม?"
"ขอบคุณนะพี่กฤษณ์ เดี๋ยวโรสขอดูในนี้ก่อนก็แล้วกันค่ะ"
ปณิตาส่งยิ้มให้อย่างน่ารัก ก่อนจะก้มลงไปมองสิ่งที่อยู่ในมือของตน เปิดดูทีละหน้าก็พบเข้ากับสีที่ถูกใจ จึงหันไปมองหน้าภูวินอีกครั้งพร้อมกับยื่นส่งให้เขาได้ดูด้วยกัน
"สีนี้สวยนะคะ เป็นสีที่พี่ภูชอบด้วย"
"พี่เคยชอบ แต่ตอนนี้มันดูจืดชืดน่าเบื่อแล้ว พี่ว่าเลือกสีใหม่เถอะ เอาสีที่มองแล้วไม่เบื่อง่าย"
เสียงทุ้มตอบกลับอย่างไม่คิดในทันที แต่คำพูดจากปากของชายหนุ่มทำให้ปณิตารู้สึกว่าเขาอาจจะไม่ได้หมายถึงเพียงแค่สีที่กำลังเลือกอยู่หรือเปล่าหรือเธอคิดมากกับคำพูดนั้นของเขาเอง
"ภูเขาชอบโทนสีน้ำตาลเข้ม พลอยว่าสีนี้สวยนะคะคุณโรส ถ้ามันดูเข้มเกินไปปรับให้สว่างขึ้นอีกนิดก็ได้ค่ะ จะได้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่ภูเลือกเอาไว้ก่อนหน้านี้ด้วย"
"งั้นก็เอาแบบที่พี่ภูชอบเถอะค่ะ คงไม่ต้องถามความเห็นของโรส โรสยังไงก็ได้เพราะโรสไม่ใช่เจ้าของบ้านนี่คะ"
ปณิตาพับเก็บแคตตาล็อกในมือวางลงบนโต๊ะ พร้อมกับรีบอุ้มเอาลูกสาวมาจากคนเป็นพ่อ เดินจ้ำอ้าวหายขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านโดยไม่สนใจใครอีกเลย
"คุณโรสโกรธอะไรพลอยหรือเปล่าคะภู ทำไมดูคุณโรสไม่ชอบหน้าพลอยเอาเสียเลย"
"ขอตัวสักครู่เดี๋ยวผมมานะพลอย คุณกฤษณ์"
ภูวินรู้สึกว่าตัวเองเสียหน้าที่ปณิตาแสดงออกต่อคนอื่นแบบนั้น ขาสูงยาวรีบก้าวเดินตามหลังสองแม่ลูกขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านทันที
ปณิตากำลังยืนโอบกอดลูกสาวอยู่ถึงกับต้องรีบหันหน้ากลับมาเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดกว้าง พร้อมกับฝีเท้าหนัก ๆ ที่เดินเข้ามาประชิดตัว
"ทำไมไม่มีมารยาทต่อหน้าคนอื่นแบบนี้นะโรส เป็นอะไรอีกหะ!?"
"ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ โรสคงไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ตรงนั้นอีกแล้ว"
"แล้วทำไมต้องพูดจาออกมาแบบนั้น พลอยกับคุณกฤษณ์เขาจะคิดยังไง"
"คิดยังไงก็เรื่องของเขาสิ ทำไมโรสต้องสน ทำไมโรสต้องแคร์ บ้านพี่ภูนี่คะ อยากทำอะไรก็ทำไปสิ ไม่ต้องมาให้โรสออกความเห็น ไปให้คุณพลอยเขาช่วยคิดช่วยทำ ยังดีกว่ามาถามความคิดเห็นจากโรส"
"งี่เง่าไม่เข้าเรื่อง พี่แค่บอกไม่ชอบโรสก็แค่เลือกสีใหม่มันยากตรงไหนวะ ทำไมต้องทำให้มีปัญหา"
"ใครมีปัญหาเหรอคะ มีแค่พี่ภูนั่นล่ะที่มีปัญหากับทุกอย่าง โรสพูดอะไร ทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจ ไม่เคยเข้าหู ไม่ชวนให้น่าฟังทั้งนั้นล่ะ แล้วจะมาถามโรสทำไม ไม่ไปถามความเห็นจากคุณพลอยเธอโน่น"
"นี่โรสจะงี่เง่าใส่พี่ให้ได้เลยใช่ไหม จะชวนพี่ทะเลาะทุกครั้งที่พูดกันเลยใช่ไหม จะพูดกันดี ๆ ไม่ได้แล้วใช่ไหม?"
เสียงที่ดังเกินปกติจะคอกใส่อย่างไม่สบอารมณ์เช่นกัน ทำเอาลูกสาวที่อยู่ในอ้อมอกแม่มองหน้าพ่อกับแม่สลับกันไปมา
"โรสไม่ใช่คนเริ่มก่อน ถ้าคำพูดโรสไม่เข้าหูพี่ภู มันคงเป็นที่พี่ภูไม่ใช่ความผิดโรส พี่ภูออกไปเถอะค่ะ อย่ามาทะเลาะกันต่อหน้าฟ้าใสเลย โรสขอล่ะนะ ไม่เห็นแก่โรสก็ขอให้พี่ภูเห็นแก่ลูกด้วย"
ปณิตาจ้องมองหน้าพ่อของลูกด้วยดวงตาที่ล้นเอ่อ ทำไมเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ภูวินถึงได้โมโหถึงกับขึ้นเสียงใส่กันต่อหน้าลูกแบบนี้ เธอกลายเป็นคนผิดกับทุกเรื่องไปแล้วหรืออย่างไร เธอไม่มีสิทธิ์พูดหรือออกความคิดเห็นอะไรแล้วสิใช่ไหม นี่เขาคิดว่าเธอไม่มีหัวใจ ไม่มีความรู้สึก ไม่เคยเสียใจกับการกระทำหรือคำพูดของใครเลยหรืออย่างไร
ภูวินถึงกับต้องรีบถอยหลังเดินจากลา เมื่อจ้องมองหน้าลูกสาวที่ดูเหมือนตกใจจวนจะร้องไห้ออกมาให้ได้เห็น ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง ปณิตาได้แต่กอดกระชับลูกน้อยน้ำตาร่วงหล่นบนชุดสวยของลูกสาวอย่างอดไม่ไหว หลายสิ่งหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้รู้สึกว่าไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว....