ปัญหาชีวิตคู่ของภูวินและปณิตาเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นพายุลูกใหญ่ จากไม่พูดคุยกันหนึ่งอาทิตย์ ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งเดือนเข้าไปแล้ว หลังจากเลิกงานภูวินที่เคร่งเครียดกับชีวิตในช่วงนี้ ทั้งงานและเรื่องส่วนตัวมีแต่เรื่องให้ต้องขบคิดและทำให้ปวดหัว พลอยไพลินจึงถือโอกาสชักชวนให้มานั่งดื่มนั่งชิลล์ด้วยกันในค่ำคืนนี้
"ไม่ได้ออกมาเที่ยวแบบนี้นานมากแล้ว แสงสีเมืองกรุงเปลี่ยนไปมากเลยเนอะว่าไหม?"
"พักนี้ภูดูมีแต่เรื่องกลุ้มนะคะ ไม่เห็นจะเล่าอะไรให้พลอยฟังบ้างเลย ภูก็รู้ว่าพลอยสามารถรับฟังปัญหาของภูได้ทุกเรื่อง"
"เกรงใจน่ะสิ พลอยไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์นะ ภูไม่อยากเอาเรื่องเครียด เอาปัญหามาเล่าบอกให้พลอยฟังหรอก แค่เท่าที่ผ่านมาพลอยก็รับฟังภูมามากพอแล้ว"
พลอยชมพูยื่นฝ่ามือไปกอบกุมมือของภูวินเอาไว้ ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างส่งให้อย่างน่ารักอีกครั้ง ภูวินจ้องมองหน้าเห็นแบบนี้ทีไรเขากลับรู้สึกดีขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อเลย
"พลอยบอกแล้วไงว่าเราเป็นเพื่อนกัน ภูปรับทุกข์กับพลอยได้ทุกเรื่องและทุกอย่างไม่ต้องเกรงใจ"
"ขอบคุณนะพลอย ถ้าเมื่อก่อนเราสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่องแบบนี้ เราสองคนคงไม่ต้องเลิกลากัน"
"นั่นสินะ แต่ถึงวันนี้พลอยก็ยังโสดเหมือนเดิมอยู่ แต่ภูนี่สิไปไกลไม่รอพลอยเลย"
ดวงตากลมโตคู่สวย จับจ้องมองใบหน้าของอดีตคนเคยรักอย่างอาลัยอาวรณ์ เหมือนความรู้สึกยังคงอยากหวนกลับถ้าจะมีโอกาสนั้นให้ได้หวนคืน
ภูวินที่ยังคงรู้สึกดีกับพลอยไพลิน เขายกฝ่ามือขึ้นลูบแก้มนุ่มสัมผัสไปมาเบา ๆ
"เพราะภูไม่คิดว่าพลอยจะกลับมานี่นา พลอยรังเกียจภูไหม?" หญิงสาวส่ายหน้าไปมาเบา ๆ
"พลอย ภูรู้สึกดีกับพลอยมากกว่าเมื่อก่อนนะรู้ไหม?"
"แล้วยังไงคะ ภูก็ไม่ใช่หนุ่มโสดที่พลอยจะคิดไปไกลได้ด้วยแล้วเหมือนกัน"
"ภูไม่รู้ว่าภูกับโรสจะไปกันรอดไหม"
"ทำไมคะ ภูจะอยากพูดให้พลอยมีความหวังงั้นสิ?"
"พูดอย่างไม่อ้อมค้อมเลยนะ ภูอยากให้เราลองกลับมาคบกันอีกสักครั้ง"
"ภูจะให้โรสเป็นเมียน้อยของภูหรือไงล่ะ ตลกแล้ว ไม่เอาหรอกมันบาป"
"พลอย พลอยก็รู้สึกแบบที่ภูรู้สึกใช่ไหม เอาความจริงอย่าโกหก"
สองสายตาจ้องมองหน้าซึ่งกันและกัน พลอยไพลินไม่อาจปฏิเสธความจริงนี้ไปได้ เพราะที่เลือกกลับมาทำงานใกล้ชิดเขาเธอยังคงคิดอยากกลับมาสานสัมพันธ์ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขาเป็นคนมีพันธะในชีวิตไปแล้วแบบนี้
"ถ้าใช่ล่ะ ภูจะโกรธพลอยหรือเปล่า?"
ภูวินใช้นิ้วโป้งหนาลูบสัมผัสแก้มนวลไปมาเบา ๆ ใบหน้าหล่อส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับส่งยิ้มให้
"คุณภู คุณพลอย บังเอิญจังเลยนะครับที่มาเจอกันที่นี่"
เสียงทักทายที่คุ้นหู ทำเอาคนทั้งคู่ต้องรีบผละออกห่างจากกันอย่างเร็ว
"คุณกฤษณ์" ภูวินยิ้มทักทายทันทีที่สติกลับคืนมาได้
"มาเที่ยวเหมือนกันเหรอครับ เชิญนั่งด้วยกันสิครับ"
"งั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะ ผมมาคนเดียวด้วย นั่งหลาย ๆ คนน่าจะสนุกมากกว่า" กฤษณะรีบนั่งลงเคียงข้างกับเจ้านายหนุ่มในทันที
"คุณพลอยกับคุณภูมานานหรือยังครับ ไม่คิดเลยว่าจะเจอคุณสองคนที่นี่ด้วย แหมคืนวันศุกร์แอบหนีเมียที่บ้านเที่ยวสินะครับ ฮ่า ๆ ๆ"
"อย่าเรียกว่าหนีสิครับ ผมแค่แวะมาดื่มแก้เซ็ง อีกสักพักก็กลับบ้านแล้วล่ะครับ คุณจะดื่มอะไรสั่งมาสิเดี๋ยวผมเลี้ยง"
"อืม...งั้นเดี๋ยวผมเดินไปสั่งมาให้คุณภูกับคุณพลอยด้วยดีกว่านะครับ ของคุณสองคนก็หมดแล้วพอดี คงไม่รีบกลับกันตอนนี้หรอกใช่ไหม?"
"ไม่หรอกค่ะ พลอยไม่มีใครรออยู่ที่บ้าน พลอยไม่รีบหรอก ของพลอยเอาเหมือนเดิมนะคะ" หญิงสาวยิ้มพร้อมกับยกแก้วที่เหลือเครื่องดื่มเพียงน้อยนิดขึ้นจิบเบา ๆ
"ผมขอเบียร์สักแก้วก็แล้วกัน"
"โอเค เดี๋ยวผมมานะครับ เชิญคุณสองคนคุยกันไปก่อนเลย"
กฤษณะลุกขึ้นจากโต๊ะที่นั่งอยู่ เดินตรงไปที่บาร์เทนเดอร์ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น เขายังหันกลับไปจ้องมองเจ้านายกับหัวหน้าสาวที่บังเอิญมาพบอย่างคลางแคลงใจ เหมือนเมื่อครู่จะไม่ได้ตาฝาดกับสิ่งที่เห็นหรือเขาคิดมากไปเองจนรู้สึกเป็นห่วงปณิตากับหลานสาวขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ภูวินคงไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้นหรอกใช่ไหม เขาคงไม่คิดจะทำอะไรไม่ดีลับหลังภรรยาที่บ้านหรอกใช่หรือเปล่า
"พลอย ที่ภูพูดเมื่อกี้ภูพูดจริง ๆ นะ"
ภูวินยังคงอยากสานต่อเรื่องราวที่คั่งค้าง จนต้องเอ่ยปากพูดทันทีที่กฤษณะลุกจากไป
"ภูเมาหรือเปล่า อย่าพูดอีกเลยนะ พลอยก็แค่ล้อเล่น"
"ไม่ใช่หรอกภูไม่เมา พลอยเองก็ไม่ได้พูดเล่น สายตาพลอยมันไม่โกหกความรู้สึกหรอกจริงไหม?"
"ภู..."
"เดี๋ยวภูแวะไปหาคอนโด พลอยคงต้อนรับภูเสมอใช่ไหม?"
ไม่ทันที่จะได้คำตอบ ก้างขวางคอชิ้นใหญ่ก็เดินกลับมาสมทบเสียงั้น แต่พลอยไพลินกลับยิ้มให้พร้อมกับพยักหน้าสองสามที เข้าใจกันอยู่สองคน
"นี่ครับของคุณภู ส่วนนี่ของคุณพลอยครับ"
"ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ"
สองหนุ่มสาวพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ก่อนที่ทั้งสามจะยกแก้วขึ้นกระทบกันเบา ๆ
"Cheers!! ครับทุกคน"
ภูวินนั่งจิบแก้วเบียร์มือ ดวงตายังคงจับจ้องมองพลอยไพลินอยู่บ่อยครั้ง เขารู้สึกว่าเธอน่าค้นหาและชวนให้ทำเรื่องท้าทายกับสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำลับหลังปณิตาเลย