บทที่2 ยังไงแกก็ต้องแต่ง!

1718 คำ
การที่ถูกพ่อเขาเรียกตัวเข้ามาที่ห้องทำงานพร้อมกับเลขาสาวสุดเฉิ่มเบอะของป๊าก็คงไม่พ้นเรื่องเดิม เจมส์หันหน้าหนีทางอื่น ไม่ต้องการมองหน้าคู่หมั้นคู่หมาย ก็ไม่เชิงว่าเกลียด เพียงแค่คนอย่างเขาไม่ชอบใครมาบังคับหรือบงการชีวิต เรื่องงานแต่ง...เจมส์ขอตัดสินใจเอง! “หนูน้ำค้างลงไปช่วยป้าญาวีเอาชาร้อนและขนม ยกขึ้นมาให้ลุงกินหน่อย” ท่านประธานเจต์หันไปเอ่ยคำสั่งเลขารุ่นลูก ดีกว่าต้องมานั่งหน้าไม่ติดกันกับลูกชายของท่าน “ค่ะ” อย่างน้อยน้ำค้างก็ขอออกไปสูดลมหายใจด้านนอก ดีกว่าต้องมานั่งอึดอัดกับสายตาคมเข้มของใครบางคนแอบตวัดขุ่นเคืองมาทางเธอบ่อยๆ “ป๊ามีอะไรจะคุยกับผม ถึงต้องให้เลขาเฉิ่ม แต่งตัวอย่างกับแม่ชีโทรไปหาคนของผมได้ แต่ถ้าจะมาคุยเรื่องเดิมๆ ผมขอยืนยันว่าจะไม่แต่งกับยัยเด็กแก่แดดนั่น” มองเธอที่เดินหลีกออกจากห้องทำงานส่วนตัวผ่านไปเลยแล้วนั้น “แกไม่แต่งกับหนูน้ำค้างเพราะอะไร เอาเหตุผลที่ฉันพอจะเชื่อแกได้ หรือว่าแกมีคนรักอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว?” จากนั้นคนเป็นพ่อกลับหรี่ตามองลูกชาย แต่ก็ถูกแก้เผ็ดกลับด้วยเบี่ยงหน้าหนีออกทางนอกหน้าต่างเช่นเดิม “ผมยังไม่มีคนรักหรือเมียหรอกครับป๊า” พูดทั้งๆ ที่สายตาเหลือบมองร่างเพรียวระหงแต่งตัวชุดอย่างกับป้าแม่ชี “แต่ผมจะไม่แต่งงานกับเธอเด็ดขาด ป๊าก็รู้ว่าผมชอบผู้หญิงขาวๆ สวยๆ แต่ยัยเลขาหน้าเฉิ่มเบอะ ไม่สวยอีกต่างหาก อย่าหวังว่าผมจะแต่ง!” คำพูดปฏิเสธเด็ดขาดจากเสียงทุ้มต่ำกลับกระแทกหัวใจของคนที่เพิ่งยกถาดน้ำชาและถ้วยขนมฟูขึ้นมาให้ น้ำค้างพอจะรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่มีทางถูกพ่อบังคับคลุมถุงชน หากเลือกได้...เธอก็จะไม่แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเธอเหมือนกัน “ไอ้เจมส์ ยังไงแกก็ต้องแต่ง! ฉันสั่งให้คนจัดเตรียมงานแต่งอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า เจ้าสาวของแกต้องเป็นหนูน้ำค้างคนเดียวเท่านั้น!” คนอย่างท่านประธานเจต์เด็ดขาด บอกว่าต้องแต่ง คนเป็นลูกชายไม่มีสิทธิ์คัดค้าน เจมส์โอดครวญ ต้นเหตุที่ทำให้เขาตกสภาพจนตรอกก็คือผู้หญิงตรงหน้า จากไม่เคยเกลียด...เอาเป็นว่าเขาจะเกลียดเธอตอนนี้นี่แหละ! “ถ้าจะให้ผมแต่งงานกับยัยเด็กเฉิ่ม แว่นหนาเตอะอะไรนั่น ผมขอกัดลิ้นตายดีกว่า!” “ถ้าไม่อยากแต่งงานกับน้ำค้าง ก็ไปบอกคุณลุงเจต์สิค่ะ ว่าให้ยกเลิกสัญญานั่น” แต่คนฟังตวัดสายตาขุ่นเคืองใส่คู่หมั้นหน้าเงิน เป็นเลขาพ่อเขาไม่พอ ยังจะหน้าด้านจับลูกทำสามีอีก คนอะไรไม่ละอายใจตัวเองบ้าง! “ผู้หญิงอย่างเธอ แค่ได้ฉันเป็นผัวก็ดีเท่าไหร่ พ่อเธอคงขายลูกสาวไม่ออกน่ะสิ ถึงได้มาประเคนให้ฉันถึงที่” “พี่เจมส์!” “ไม่ต้องเรียกฉันว่าพี่ เราไม่ได้สนิทกัน อ้อ พออยู่นอกบ้านเราเป็นแค่เจ้านายกับเลขา ส่วนในบ้านค่อยเป็นผัวเมีย ฉันอายที่ต้องแต่งงานกับเธอ จืดชืด ดูไม่ได้!” “ไอ้เจมส์ แกไปพูดกับหนูน้ำค้างได้ยังไง คนที่จะเป็นฝ่ายเสียหายคือหนูน้ำค้างไม่ใช่แก! ถ้าไม่มีพ่อของหนูน้ำค้างช่วยป๊า อย่าหวังว่าแกจะทำตัวลอยชาย มีเงินใช้ไปวัน ๆ” พันธะสัญญาการหมั้นหมายไว้ตั้งแต่เด็ก และเจต์ต้องยอมรับเงื่อนไขข้อเสนอของพ่อน้ำค้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิท รู้จักกันผ่านทางธุรกิจ ในช่วงที่บริษัทกำลังเข้าขั้นวิกฤตหนัก พ่อของน้ำค้างยื่นเข้ามาช่วย พอบริษัททำรายได้เกินทะลุเป้า จากนั้นพ่อของน้ำค้างแลกเปลี่ยนด้วยการหมายลูกสาวตัวเองให้กับลูกชายของเขา ซึ่งเจต์ไม่ติขัด เพราะเจมส์เคยเจอน้ำค้างตอนสมัยเด็ก ตอนนั้นเห็นเล่นด้วยกันดี ทว่าเกิดเรื่องอะไรไม่รู้ ลูกชายทำท่าทีขยะแขยง หวาดกลัว ไม่กล้าเข้าใกล้ยัยเด็กผู้หญิงใส่กรอบแว่นตาหนาเตอะ อ้างว่าไม่ชอบ พอพ่อของน้ำค้างเสียไปไม่นาน เจต์เห็นว่าเด็กสาวอายุสิบแปดปีเคว้งคว้าง ไม่มีที่พึ่ง แม่แท้ๆ ก็แต่งงานใหม่อยู่ต่างประเทศ จำเป็นต้องอุปการะคู่หมายของลูกชายย้ายเข้ามาอยู่ข้างในบ้านจรูญเพทาย เธอเป็นคนตั้งใจเรียน ขยันมาก กลับมาบ้านก็ช่วยทำอาหารหรือชงกาแฟดำหรือชงชาร้อนๆ จวบจนกระทั่งเรียนจนจบปริญญาตรี น้ำค้างตั้งใจแน่วแน่ว่าออกมาช่วยทำงานเพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณ และแล้วน้ำค้างก็ได้เข้ามาทำงานเป็นเลขาหน้าห้องของท่านประธานบริษัทJKL Group ตามที่ตั้งไว้ก่อนหน้านั้น ทำงานได้สองปีก็พอรู้ว่าตัวเองถูกฝ่ายผู้ใหญ่จับหมั้นหมายไว้ให้กับลูกชายท่าน พี่เจมส์...เด็กชายที่เธอเคยขโมยจูบแรกเขาไปน่ะเหรอ? “เพราะเธอคนเดียว!” เมื่อคัดค้านเสียงแข็งไม่ได้ เขาจึงหันมาทางคนใส่แว่นกรอบใสหนาเตอะ “อย่าหวังว่าเธอจะอยู่ที่นี่ได้อย่างสงบสุข!” กล่าวจบตวัดขายาวเดินย่ำปึงปังออกจากห้องทำงาน “น้ำค้างขอตัวก่อนนะคะคุณท่าน” อย่างไรน้ำค้างต้องลงไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง ทว่าพอไม่ทันจะพ้นขอบก้าวประตูกลับมีฝ่ามือคู่ใหญ่กว่าดึงกระชากร่างบางเข้ามาข้างในตัวเขา “พี่...คุณเจมส์!” เธอลนลานเขยิบถอยห่าง จำได้ว่าเขาไม่ชอบให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัว “ตามฉันมาทำไม! อ้อ คงอยากจะได้ฉันเป็นสามีมากสินะ ฉันล่ะเกลียดจริง พวกผู้หญิงหน้าเงิน” เผียะ! ฝ่ามือเรียวเล็กตวัดเข้าซีกแก้มสากระคายของคนกำลังอ้าปากพล่ามให้สงบปากสงบคำบ้าง “น้ำค้าง!” ยอมรับว่าฝ่ามือตบจากเธอมันทำให้เจมส์ทั้งเจ็บทั้งชาดิกไปเกือบครึ่งหน้า ตัวเล็กๆ แต่แรงตบเยอะจนเขาเกือบปากแตก “ที่ตบเพื่อเรียกสติของคุณกลับมาต่างหาก น้ำค้างเองก็ไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายปากหมาหรอก กลัวติดเชื้อพันธุ์หมาในปากคุณเจมส์ไปเสียก่อน” “นี่เธอ!” เขาแหกปาก จนพ่อเขาออกมาเห็นพอดี “มีอะไรกัน” เจต์ได้ยินเสียงโวยวายดังจากข้างนอกห้องทำงาน พลางถอนหายใจเหนื่อยหน่ายที่เป็นลูกชายทุกที กลายเป็นน้ำค้างส่งรอยยิ้มตอบแทน “เราก็แค่คุยกันเรื่องงานแต่งเฉยๆ ค่ะ คุณลุงไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” “อย่างนั้นเหรอ ลุงไม่รบกวนแล้ว” เจต์เดินผ่านพวกเธอสองคนไป เจมส์พอรู้ว่าสัญญาการแต่งงานระยะเวลาเพียงหนึ่งปีเพื่อแลกกับอิสระหนุ่มเพลย์บอย ทว่าหนึ่งปีมันนานเกินไป แค่เขายืนหายใจร่วมกับเธอหนึ่งคืน จะกลั้นใจตายเสียก่อน หนึ่งปี....นรกสำหรับเขาชัด ๆ! “คุณเจมส์ เดี๋ยวก่อนค่ะ” “อะไรอีก!” เขาแหวลั่น ทั้งที่ไม่หันมามองหน้าคู่หมั้นคู่หมายของตัวเอง “น้ำค้างจะบอกให้คุณเจมส์รู้ว่าน้ำค้างไม่เคยประจบประแจงหรืออยากแต่งงานกับคุณจนตัวสั่น แต่คุณก็รู้ว่าเป็นความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ถ้าคุณเจมส์ไม่อยากแต่งงานก็เข้าไปบอกคุณลุงเจต์สิค่ะ ว่าให้ยกเลิกสัญญานั่น” “เธอกล้าท้าทายฉันเหรอ น้ำค้าง!” เจมส์โพล่งปากทันควัน หันมาปะทะสายตาคู่สวยภายในแว่นตากรอบหนาเตอะที่ปกปิดพวกเสือผู้หญิง ถ้าหากเขาทำเหมือนที่เธออ้างว่า คงไม่ต้องรีบมาหาท่านประธานเจต์ ซึ่งเป็นพ่อของเจมส์เพื่อคัดค้านการแต่งงานหรอก แต่ทว่า....คำพูดนั้นทำเอาเขาเกลียดน้ำค้าง ‘แกจะให้ฉันยกเลิกงานแต่งได้ยังไงไอ้ลูกโง่ ปีนี้แกอายุสามสิบสี่ปี ควรจะหาเอาเมียได้แล้ว ฉันเตรียมงาน ลงทุนค่าสินสอดไปตั้งเยอะ อย่าให้ฉันกับภัทรต้องขายขี้หน้า’ ภัทรที่พ่อของเจมส์ว่าจบ ซึ่งก็เป็นพ่อของน้ำค้าง คู่หมายเชยเฉิ่ม ไม่มีอะไรดีแม้แต่หน้าตาจืดชืด ‘แต่ผมไม่ได้รักเธอนะครับ ป๊าจะมาบังคับผมแบบนี้ไม่ได้! ใครอยากแต่งก็แต่งไปสิ ทำไมต้องมาเจาะจงที่ผมด้วย?’ ‘แต่งกันไปเดี๋ยวก็รักกันเองนั่นแหละ หนูน้ำค้างมีดีพร้อมทุกอย่าง เหมาะสมที่จะเป็นเมียของแก อย่าให้ฉันต้องขายขี้หน้าในงานแต่งของแก!’ ‘ป๊า!’ ‘เอาน่า ถ้าแกบอกว่าไม่ชอบไม่รักหนูน้ำค้างจริงๆ พอครบหนึ่งปีที่แกแต่งงานแล้ว ยังเหมือนเดิม ฉันจะไม่ห้ามแก ถ้าแกจะหย่ากับหนูน้ำค้าง’ ‘ไม่ว่าหนึ่งปีข้างหน้าหรือวันนี้ ผมก็ไม่มีวันรักผู้หญิงหน้าเงินนั่นหรอกครับ!’ ‘ถ้าแกไม่แต่ง และไม่ยอมกลับเข้ามาบริหารบริษัท ฉันก็คงต้องยกบริษัทที่ฉันทุ่มเทสร้างมันเพื่อไว้ให้ลูกชายที่ไม่เอาการเอางาน หมกตัวแต่เรื่องผู้หญิง คงยกให้หนูน้ำค้างบริหารต่อจากป๊าแล้วละ’ ‘ป๊าพูดแบบนี้หมายความว่าไง?’ และพันธะสัญญาที่เพิ่มเงื่อนไขนั่นเอง เจมส์จำใจต้องแต่งงานกับน้ำค้าง ระยะเวลาเพียงหนึ่งปีเพื่อแลกกับการที่เขาจะไม่เสียบริษัทของครอบครัวตัวเองไปให้เธอชุบมือเปิบ “แค่หนึ่งปี....ฉันจะหย่ากับเธอแน่!” น้ำค้างก็ไม่ยอม ตอบโต้กลับอย่างดุเดือด “ขอให้คุณเจมส์รักษาคำพูดตลอดไปแล้วกัน น้ำค้างขอตัว” ทว่าทำไมคำพูดมั่นใจของน้ำค้างมันทำให้เจมส์กลับต้องหัวเสีย หงุดหงิด อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ยักรู้ว่าเลขาหน้าห้องเฉิ่มของพ่อปีกกล้าขาแข็ง จองหองใส่อีก ‘แล้วเธอจะได้รู้ว่าการเป็นเมียฉัน มันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิด!’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม