ฟ้าใกล้สว่างสำหรับคนตื่นเช้าเพื่อออกไปทำงานเป็นประจำทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน น้ำค้างขยับบิดตัวขี้คร้านไปมา อีกมือบางลูบไล้หมอนข้างที่นอนกอดกลมกันทั้งคืน ลูบไล้ลงลึกไปอีกกลับแตะบางอย่างที่แข็งสู้กลับ อะไรแข็งๆ มาดันตัวเธอ เพื่อให้หายสงสัยตาคู่สวยจึงเปิดเปลือกตาขึ้น
ไอ้ที่คิดว่าเป็นหมอนข้าง กลับเป็นร่างสูงของสามีตัวเอง แสดงว่าเมื่อคืนเธอนอนกอดกับเขาน่ะสิ!
“คุณเจมส์! คุณเข้ามานอนในห้องนี้ได้ยังไง” คว้าผ้าห่มอยู่ใกล้ตัวรีบปกปิดส่วนร่างกายของเธอไว้ ก้มมองดูตัวเองพบว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบทุกชิ้น
ไหนบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงจืดชืดไง?
“ทีสามีมานอนทำเป็นสะดีดสะดิ้ง หรือว่าเธอต้องการให้ไอ้หน้าตี๋ภรุจนั่นทำมากกว่ากอดล่ะ เธอถึงจะยอมด้วยความเต็มใจ” ว่าแล้วมือหนาจับข้อมือเล็กดึงตัวภรรยาจำใจยอมแต่งเข้ามาใกล้ เธอตกใจกลัวรีบเอามือดันอกกว้างเขาเอาไว้ไม่ให้ใกล้ชิดกัน
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอลืมใส่แว่นกันสายตาเจ้าชู้ของเขาหรือเปล่า อีกคนถึงตามวอแวไม่เลิก คิดแล้วมือเล็กเผลอแตะขอบตาตัวเองด้วยความลืมตัว
“คุณลืมคำพูดตัวเองแล้วเหรอว่าจะไม่แตะต้องตัว ไม่อยากได้น้ำค้างมาเป็นเมีย หรือว่าคุณเจมส์สนใจผู้หญิงจืดชืด ไม่มีอะไรดีเหรอคะ”
“แค่จับมือเองก็ทำเป็นหวงตัว? ฉันเองก็ไม่อยากจับหรอก กลัวเชื้อโรคของผู้หญิงหน้าเงินติดมาด้วย”
เหมือนเธอเข้าไปนั่งอยู่ในใจเขา เพราะทันทีที่พูดจบ เจมส์รีบสะบัดมือเธอออกราวกับว่าน้ำค้างเป็นตัวนำเชื้อโรคมาสู่เขา
“ถ้าคุณจะพูดแบบนั้นก็เชิญพูดตามสบาย เพราะฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว”
ก็ใช่อย่างที่เจมส์ต่อว่า น้ำค้างกลายเป็นผู้หญิงหน้าเงินจริง เขาไม่เคยรู้หรอกว่าการแต่งงานเงียบๆ ลับๆ นั้น เธอได้ยินเสียงแขกของเหล่าญาติๆ ฝั่งชายแอบซุบซิบนินทาว่าเสือผู้หญิงไม่มีทางเอาผู้หญิงจืดชืดทำเมีย
ถ้าไม่มีเงื่อนไขแต่งหนึ่งปีแล้วค่อยหย่า ป่านนี้เขาคงรีบแจ้นเร่งรัดเธอยิกๆ ให้หย่าตั้งแต่คืนเข้าหอแล้วละ!
“น้ำค้าง! อย่าหาเรื่องใส่ตัว เช้าๆ อย่างนี้ฉันไม่อยากมีปัญหากับคนที่พูดจาไม่รู้เรื่อง”
“โอเคค่ะ ต่อไปฉันจะไม่พูดกับคุณเจมส์แล้ว”
เจมส์ถอนใจหนักๆ กับเรือนร่างที่ชุดนอนเบาบางแนบลู่เนื้อตัวเห็นทุกสัดส่วนวิ่งหายเข้าห้องน้ำ เขาตกตะลึงตาค้างชั่วขณะ เพื่อความชัวร์จึงขยี้ตาตัวเองอีกครั้ง ยัยป้าเฉิ่มเบอะกลับซุกซ่อนความสวยงามเอาไว้ด้านใน รำพันไม่อยากจะเชื่อ
ที่ผ่านมาน้ำค้างเลือกจะใส่เสื้อโคร่งตัวใหญ่ แม้แต่ชุดทำงานเลขาของพ่อเขาก็ยังสวมใส่ไซซ์ใหญ่สุด เจมส์สลัดศีรษะแรงๆ ทำไมสนใจยัยเลขาจืดชืด แว่นหนาเตอะคนนั้นด้วย
ดึงความรู้สึกตัวเองกลับมาที่เดิม
“สวยก็ไม่สวย แค่ฉันยอมลดตัวมาแต่งงานก็สะอิดสะเอียนเต็มทนแล้ว” ว่าแล้วร่างสูงตวัดขายาวเดินออกจากห้อง แอบหงุดหงิดตัวเองที่เผลอสูดดมกลิ่นจากตัวภรรยาที่เขาเกลียด
แต่กลิ่นของน้ำค้างในตอนหลับช่างหอมเย้ายวนเหลือเกิน ทำให้เขาต้องรีบกลับมาช่วยตัวเอง เพียงได้กลิ่น น้องชายก็แข็งตัวทันที ทั้งๆ ที่แต่ก่อนจะเรียกผู้หญิงขายบริการมาก็ได้
แต่ทว่าพักนี้เขากลับเบื่อผู้หญิงคนอื่นง่ายดาย!
……
ด้วยความที่เกรงใจสามีตัวเอง คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จหมาดๆ พร้อมได้กลิ่นหอมมินต์เย็นๆ สวมทับเพียงผ้าคลุมอาบน้ำที่มีแค่ปกปิดขาอ่อนเล็กน้อยเท่านั้น ไม่กล้าเดินออกจากห้องในสภาพนี้
ไม่ใช่เพราะไม่ไว้วางใจเขา แต่เพียงแค่ไม่อยากถูกสายตาสมเพชมองดูเท่านั้น เธอไม่ได้เข็มแข็งตลอดทุกเรื่องซะหน่อย
“คุณเจมส์” โพล่งปากเรียกสามีนิตินัย ในขณะที่เธอยื่นหน้าออกจากหน้าประตูเพื่อให้เขาหันหน้ามาหาต้นเสียง
“มีอะไร” ตอบเสียงห้วนสั้นออกจะรำคาญนิดๆ
“คือคุณช่วยพาฉันกลับบ้านได้มั้ย...คือชุดทำงานอยู่ที่นั่นหมด...”
“เธอก็ใส่ชุดเดิมสิ” ไม่ทันที่น้ำค้างจะบอกจนจบ อีกคนกลับโพล่งปากเอ่ยแทรกขึ้นมาโดยไม่ทันได้คิดนาน
“คุณเจมส์!”
แหวลั่นใส่สามีเลิกคิ้วยียวน จะให้เธอแต่งตัวชุดเก่าออกไปทำงาน มีหวังสายตาเมียงมองนับสิบของพนักงานคงได้กลิ่นตุๆ จากตัวเธอแน่
“ถ้าเธอไม่อยากใส่ก็ไม่ต้องออกไปทำงานก็ได้ แต่งงานเป็นเมียฉันแล้ว เธอก็ควรดีใจ ใช้มารยาอ้อนคนเป็นสามีตัวเองสิ เป็นงานถนัดของเธอนักเนี่ย” เขาพูดประชดประชันเธอ ทำไมจะไม่รู้สันดานของผู้ชายเจ้าชู้
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว!”
น้ำค้างเอาตัวเองเข้ามาหลบข้างในพร้อมลงกลอนประตูปิดแน่น ก็ดี! ขาดงานสักวัน คนอย่างเขาไม่มีวันล้มละลายหรอก
บริษัท JKL Group
สุดท้ายสิ่งที่น้ำค้างคิดไว้ตั้งแต่แรกกลับไม่เป็นความจริง เจมส์โทรสั่งป้าญาวี ซึ่งเป็นแม่บ้านใหญ่ของบ้านจรูญเพทาย เอาชุดทำงานเลขาของเธอฝากไว้กับเรเปล คนสนิทที่ซื่อสัตย์และได้รับไว้วางใจมาก ให้เข้ามาส่งถึงที่คอนโดฯ
ถึงเจมส์จะปากร้ายกับเธอ แต่ลึกๆ แล้วก็แฝงความจริงใจ ใจดีกับคนเป็นเมียอยู่ไม่น้อย...
“ลงมา”
น้ำค้างส่ายหน้าพัลวัน นั่งทำตัวลีบหลบซ่อนภายในรถสปอร์ตที่จอดอยู่ตรงหน้าบริษัท เขาจะทำให้เธออับอาย ตกเป็นขี้ปากของเหล่าพนักงานเลยหรืออย่างไรกัน
ให้ตาย...เธอไม่ลงไปเด็ดขาด
“คิดจะลองดีกับสามีตัวเองเหรอ”
เกือบจะสำลักคำพูดที่เอื้อนเอ่ยออกจากปากคนที่ไม่อยากแต่งงานกับเธอตั้งแต่แรก ตอนนี้เขากลับแสดงสิทธิ์ว่าเป็นสามี สามีที่ถูกบังคับแต่งน่ะหรือ!
น่าขำนะว่าไหม ทีแรกบอกว่าไม่แต่งแล้วคิดอยากจะหย่ากับเธอ พอมาวันนี้คิดอยากจะล้อเล่นความรู้สึก อ้างสิทธิ์สามี เป็นเจ้าของชีวิตเธอ
“ก็แค่สามีในนาม” เธอไม่ได้โกหก เขากับเธอไม่มีอะไรลึกซึ้งกัน และอาจจะไม่มีวันนั้น
“น้ำค้าง อย่าให้ฉันต้องอารมณ์เสียแต่เช้า”
“คุณก็ไม่อย่ามายุ่งกับฉันสิค่ะท่านรองฯ”
อยู่ที่ทำงานเดียวกันเรียกว่าเจ้านายกับลูกน้อง เวลาอยู่บ้านค่อยเป็นสามีภรรยากัน คำพูดคืนเข้าหอคืนแรก น้ำค้างยังฝเบลึกจำมันไว้ข้างในใจ
“อยากทำงานมากใช่มั้ย? ได้! เดี๋ยวฉันจัดให้”
ว่าแล้วร่างสูงของท่านรองประธานคนใหม่ย่างก้าวเดินเข้าสู่ข้างในบริษัท ผ่านไปสักพัก เสียงไลน์ของเขากลับเด้งมาหารัวๆ
James : ฉันให้เวลาเธอสิบนาทีนะน้ำค้าง งานเลขาของเธอมีตั้งมากมาย เวลาของฉันมีค่ามากแค่ไหน รู้มั้ย?
Nakhang : ค่ะท่านรอง!
James : ส่งสติกเกอร์รูปแมวทำหน้าหงุดหงิด
“สั่งได้สั่งดี!” กระแทกก้นลงมาก้าวจากรถสปอร์ตของท่านรองประธาน น้ำค้างชินชาแล้วกับการที่เป็นจุดเด่นความสงสัยสายตานับสิบของเหล่าพนักงาน
เลขาสาวแว่นที่ถูกลดตำแหน่งกลายมาเป็นเลขาของรองประธานตามความต้องการ แต่เธอไม่เห็นพนักงานฝ่ายขาย ภรุจอีกเลย หรือว่าเป็นเพราะเมื่อวาน
“คุณน้ำค้างครับ ท่านประธานเรียกเข้าไปพบครับ”
ทว่า...ขาเรียวยาวข้างหนึ่งไม่ทันจะก้าวเข้าไปข้างในลิฟต์ เลขาชายคนใหม่ของท่านประธานเจต์เข้ามาบอกเธอเสียก่อน
“แต่ว่าฉันต้องไป...”
งานของเธอยังรออยู่ ยังไม่รู้เลยว่าจะรับมือกับเจ้านายโมโหร้ายได้แค่ไหน อยู่กับเขาเพียงสองวันก็ทำเอาเธอเหนื่อยล้าทั้งร่างกายทั้งหัวใจ
“มีคนไปช่วยงานแทนแล้วครับ คุณน้ำค้างไม่ต้องเป็นห่วง”
จะมีใครบ้างที่รู้เรื่องเธอกับเจมส์ เรื่องงานแต่งงานเงียบๆ น้ำค้างเชื่อว่าเลขาคนใหม่ของท่านประธานเจต์คงยังไม่รู้ เลขาสาวแว่นถอนหายใจหนักก่อนจะเดินตามเข้าไปที่ห้องเขียนป้ายชื่อว่า เจต์ จรูญเพทาย ผู้บริหารสูงสุด
“ออกไปก่อน” สั่งเลขาหนุ่มทั้งๆ ที่ไม่หันมามอง
“ครับท่านประธาน”
เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพัง น้ำค้างกระสับกระส่ายลุ้นระทึกกลัวว่าท่านประธานที่มีศักดิ์เป็นพ่อสามีเธอ สายตาตำหนิว่าทำหน้าที่ลูกสะใภ้ไม่ดี ซึ่งเลขาสาวแว่นแอบคิดไปไกล ซึ่งนั่นแตกต่างจากความจริง
“ลูกชายป๊าทำให้หนูน้ำค้างอึดอัดใจหรือเปล่า”
ได้ยินคำถามน้ำค้างเลือกจะเงยหน้าขึ้นมาตอบ
“ไม่ค่ะคุณเจต์ แต่เป็นหนูมากกว่าที่ทำให้เขาต้องอึดอัดใจ”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ เมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้น”
“คุณเจต์รู้เหรอคะ ว่าหนูค้างคอนโดกับเขา?”
ท่านประธานเจต์มีหรือจะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับลูกชายส่ำส่อนของท่าน ซึ่งคนเป็นพ่อปล่อยให้สองหนุ่มสาวได้เรียนรู้กันและกัน และเขามองหญิงสาวไม่ผิด ส่งน้ำค้างมาแต่งงานสยบเพลย์บอยตัวร้าย
“....” ไม่ตอบแสดงว่ารู้เรื่องหมดทุกอย่าง
“แต่ว่าเมื่อคืนหนูกับเขาไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่คุณเจต์คิดนะคะ คุณเจมส์เกลียดหนูจะตายไป ไม่มีทางแตะต้องตัวน้ำค้างหรอกค่ะ” แค่เกือบๆ แต่ก็เอาตัวรอดมาได้
“เป็นเรื่องส่วนตัวของหนูกับเจมส์....ที่ฉันเรียกหนูน้ำค้างมาก็เพราะว่าอยากฝากลูกชายส่ำสอนคนนี้ให้หนูช่วยดูแลมันให้เพลาๆ เรื่องผู้หญิง และฉันเชื่อว่าหนูน้ำค้างทำได้”
“น้ำค้าง...” จะให้เขาหันมารักเธอตอบคงเป็นไปได้ยาก
ซึ่งนั่นแทบจะไม่มีเลย...เพราะหัวใจเขาไม่เคยมีเธออยู่ข้างในนั้นสักเสี้ยวหนึ่ง!