“รุ่นพี่...มีอะไรคะ” เมริษาที่เห็นหน้าตาแตกตื่นของรุ่นพี่แล้วเธอก็ตกใจ ทั้งเอี้ยวตัวไปมองที่หน้าประตู ทำไมรุ่นพี่ถึงไม่เปิดประตูให้คนเข้ามา
“เอ่อ...เมย์ไปหลบก่อนตรงข้างระเบียงตรงโน้น” เขารีบดึงเธอเข้ามาแล้วดึงม่านปิดไว้ ยกมือปาดเหงื่อราวกับแอบซ่อนชู้ไว้ในห้อง
เขารีบไปเปิดประตูให้กับเขมจิราที่ยืนรออยู่สักพักแล้ว
“เขม...ขอโทษทีวินเข้าห้องน้ำอยู่”
“ไม่เป็นไร”
มาวินดึงเธอเข้ามาในห้องที่จัดการทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ด้วยฝีมือของเหล่ารุ่นน้องจอมแสบ แต่ไม่รู้หายหัวไปไหนเหลือเพียงแต่เมริษาเพียงคนเดียว
“เป็นยังไงเรือนหอของเรา วินตั้งใจมากเลยนะ” มาวินตั้งใจพาเธอเดินดูรอบ ๆ ด้วยความภาคภูมิใจ ยิ่งเป็นห้องนอนที่เขาตั้งใจเป็นพิเศษ
“ก็ดี แต่ว่า...วิน” เขมจิราพยายามหาช่องเพื่อบอกบางอย่าง ตลอดเวลาที่ห่างกันเธอไม่รู้สึกว่าเขาพิเศษอีกแล้ว
“เขมดูนี่สิวิวด้านนอกสวยไหม มองจากมุมนี้เห็นไปถึงแม่น้ำตรงโน้นเลยนะ มีสะพาน...แล้ว...”
“วิน...วินหยุด...ฟังเขมก่อน” เมื่อเขาไม่ตั้งใจฟังเธอ ทำให้เธอต้องใช้เสียงที่ดังขึ้นเพื่อดึงความสนใจจากเขา
“ครับเขม” วินที่กำลังพรีเซนต์เรือนหอของเขากับเขมก็สงบลงแล้วเปลี่ยนเป็นฟังคนรักแทนด้วยแววตาเป็นประกาย
“เขมว่าเราไม่เหมาะสมกัน เรายกเลิกงานแต่งไปเถอะ”
มาวินได้ฟังถึงกับช็อก เขากำลังจะแต่งงาน โดยที่แม่อยากเห็นเขาเป็นฝั่งเป็นฝา เพื่อจะได้สบายใจ แต่ว่าเขมจิรากลับมาล้มงานแต่ง
“เขมมีปัญหาอะไร เราค่อย ๆ คิดค่อยแก้ก็ได้ ถ้าเป็นเวลาวินจะพยายามหาเวลาอยู่กับเขม”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นวิน เขมแค่ไปรักคนอื่นแล้ว”
เมื่อสิ้นเสียงของคนรักมาวินถึงกับช็อก เขาไม่คิดว่างานแต่งอีกสองเดือนนั้นจะถูกยกเลิกเพราะว่าเขมรักคนอื่นไปแล้ว
เขายืนตัวนิ่งงันรู้สึกไปไม่เป็น ไม่รู้จะจัดการอารมณ์ตอนนี้อย่างไรดี จนต้องยกมือกุมที่ขมับ
คนที่แอบอยู่นอกระเบียงทำตัวเหมือนเป็นอากาศไร้ตัวตนอย่างเมริษานั้นได้ยินชัดเต็มสองหู เธอยืนจนแน่ใจว่าการเคลื่อนไหวในห้องสงบลงแล้ว จึงค่อย ๆ ย่องออกมาถอดผ้ากันเปื้อน แล้วก็เดินไปหยิบกระเป๋า โดยไม่สบตาคนที่ยืนเอามือเท้ากับไอแลนด์ตรงส่วนกลางก้มหน้าด้วยความเคร่งเครียด
“กลับก่อนนะคะรุ่นพี่” เธอว่าก่อนจะรีบวิ่งแจ้นออกไป ไม่ควรเลยจริง ๆ ที่จะมาอยู่ในวันนี้
เมริษาไม่ได้กลับออกไปอย่างที่คิด เธอยืนพิงกำแพงอยู่หน้าห้อง เท้าเธอไม่อยากก้าวไปเสียอย่างนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร
เธอสาบานว่าไม่ดีใจเลยสักนิด เพราะรู้ดีว่าสายตาที่เขามองเขมจิราคือสายตาดั่งคนที่รักกัน
“พี่วินคงเจ็บปวดมากเลยสินะ” ความรู้สึกนี้เธอเข้าใจดี ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ในเมื่อตัวเองก็เป็นอยู่
การได้รักคนที่เขาไม่ได้รัก มันย่อมเจ็บปวด ตอนนี้สถานะของมาวินในใจเขมจิราเป็นเพียงคนเคยรัก แต่สถานะมาวินในใจเมริษา คือ ต้องตัดใจ แล้วเธอจะตัดใจจากเขาได้อย่างไรในเมื่อเขาถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง
ปึง...!
ร่างของเมริษาสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเสียงประตูดังขึ้น เธอหลบไปอีกฝั่งแล้วก็ทำให้เขาไม่เห็นเธอ
มาวินเดินลิ่วออกจากห้องไปที่ลิฟต์ เธอก็แอบตามไปแล้วกดลิฟต์ฝั่งตรงข้ามเมื่อเขาลับตาไปแล้ว
“จะไปไหนนะ” เธอรำพันเบา ๆ คนเดียว เมื่อคนที่อกหักออกไปข้างนอกเขาจะไปไหนกัน
มาวินเดินตรงไปขึ้นรถแล้วก็ขับออกไป เมริษาก็เดินออกจากคอนโดของเขา แล้วเรียกแท็กซี่ให้ตามไปเช่นกัน เมื่อเห็นจุดหมายของมาวิน เธอก็ถอนหายใจ
เห้อ...!
“เหล้ากับคนอกหักนี่ของคู่กันสิคะ” เมริษาเข้าไปสั่งเครื่องดื่ม แต่ไม่ได้แตะมัน เธอนั่งมองเขาที่นั่งกระดกเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าเข้าปาก
สุดท้ายเธอก็ต้องเข้าไปพยุงเขา
“พี่วิน...กลับได้แล้วดึกแล้ว” เธอเช็คบิลแทนเขาแล้วก็แบกร่างของเขาไปขึ้นรถ แล้วขับไปส่งที่คอนโด
“หนักชะมัด” เธอบ่นไปก็แบกไป แต่คนที่อกหักเอาแต่พูดคำเดียว
“กลับไปเหมือนเดิมได้ไหมเขม”
คำพูดเขาเหมือนเธอโดนเข็มร้อย ๆ เล่มแทงเข้ามา แต่ก็ต้องกลั้นใจทำภาระกิจแบกเขาขึ้นคอนโดให้เสร็จ
ดีที่เขาให้รหัสผ่านของห้องกับพวกเธอแล้วทำให้เธอแบกร่างของเขาเข้าไปในห้องได้โดยไม่ต้องนอนอยู่หน้าห้อง
พอคิดย้อนมาถึงตอนนี้เธอก็ถอนหายใจ กับอดีตที่ผ่านมาของตัวเอง อดีตที่เป็นเพียงความฝันของผู้หญิงคนหนึ่งที่รักผู้ชายคนหนึ่งด้วยความโง่ คิดว่าจะแทนที่ใครบางคนในใจของเขาได้
แต่มันไม่ใช่เลย เขาไม่เคยรักเธอ เพียงแค่สงสารที่เธอรักเขาเท่านั้น ตลอดเวลาเขาทำหน้าเครียดยามอยู่ใกล้เธอ แต่ทำหน้าระรื่นเวลาอยู่กับเพื่อน
หญิงสาวที่เป็นเหมือนส่วนเกินในชีวิตจึงตัดสินใจเดินออกมา เพราะฝืนยื้อต่อไปก็คงไม่ไหว จนเธอได้ทุนวิจัยไปเรียนต่อของโรงพยาบาล DK และหลังจากนั้นก็ไม่เคยรับรู้เรื่องราวความเคลื่อนไหวของเขาเลยตลอด 5 ปีหลังหย่ากัน
มาวินได้ยินเสียงเธอพ่นลมหายใจอยู่ข้างหูก็รำคาญขึ้นมา ที่เธอไม่ยอมพักผ่อน เพราะเดี๋ยวจะมีงานที่หนักยิ่งกว่ารออยู่เบื้องหน้า
“เป็นอะไร คิดถึงอดีตอยู่หรือไง”
สายตาที่มองมาวินขณะหลับตาอยู่ดึงกลับมาหันไปมองด้านหน้าแทน
‘เขารู้ว่าเธอคิดอะไร แต่ทำไมเธอไม่เห็นจะรู้ว่าเขาคิดอะไรเลย’
“ใช่” เธอตอบไปตามตรง
“ตอนไหน” เขาพยายามบังคับตัวเองไม่ให้ยกยิ้ม เมื่อเธอคิดถึงอดีต นั่นหมายความว่าเขายังมีพื้นที่ในหัวใจของเธอ
“ตอนหย่า”