“คุยอะไรกันจ๊ะเมียจ๋า ท่าทางสนุกเชียว”
เพียงแค่ได้ยินเสียงของวฤทธิ์ รอยยิ้มขบขันของกัญญาดาก็แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงขึ้นมาทันที
“ไม่ใช่เรื่องของนาย”
“มึงเลิกแหย่ไอ้กุ้งได้แล้ว แล้วไอ้โน้ตไปไหน ไหงมึงกลับมาคนเดียว” เมธาวินถามอย่างสงสัย
“มันไปซื้อน้ำเลยให้กูเอาก๋วยเตี๋ยวมาให้มึงก่อน”
บอกแล้ววฤทธิ์ก็เลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งให้เพื่อนรัก
“นี่ป้าเค้าประชดกูเหรอวะถึงได้ให้ผักมาเต็มชามขนาดนี้น่ะ” เมธาวินมองชามที่เต็มไปด้วยผักจนมองไม่เห็นเส้นหรือลูกชิ้นเลยสักนิด
“ป้าเค้าไม่ได้ทำ นี่น้องเมย์หลานป้าเป็นคนทำ พอกูบอกว่าชามนี้เป็นของพี่โดมบอกว่าขอผักเยอะๆ น้องเค้าเลยจัดผักมาแทบหมดร้านเลย แล้วก็ฝากกูมาบอกมึงว่า ‘ขอให้พี่โดมกินให้อร่อยนะคะ’ แบบนี้น่ะ”
วฤทธิ์แกล้งบีบเสียงให้ดูเล็กลงเหมือนผู้หญิงจนกัญญาดาแทบสำลักน้ำที่กำลังดื่มเข้าไป เขาเลยได้หัวเราะร่วนก่อนจะลูบหลังเธอเหมือนห่วงใยนักหนา
“ค่อยๆ กินสิจ๊ะเมียจ๋า เดี๋ยวน้ำติดคอตายพอดี”
“ไม่ต้องมาแช่ง แล้วก็ไม่ต้องมาลูบด้วย ขนลุกเป็นบ้าเลย” เธอปัดมือเขาออกก่อนจะจัดการกับก๋วยเตี๋ยวของตัวเองต่อไป
“แล้วนี่จะคนได้มั้ยคะผักล้นชามขนาดนี้น่ะ” คณานางค์มองคนที่ไม่รู้จะจัดการกับผักพวกนี้ยังไงด้วยความสงสาร
“คะน้าแบ่งผักไปมั้ย เราก็ชอบกินผักไม่ใช่เหรอ”
“จะดีเหรอคะ น้องเค้าอุตส่าห์ทำมาให้พี่โดมเลยนะ”
“เค้าไม่รู้หรอก มานี่เอาชามคะน้ามาเดี๋ยวพี่แบ่งให้”
ว่าแล้วเขาก็ตักผักใส่ลงในชามก๋วยเตี๋ยวของเธอครึ่งหนึ่งทั้งยังใจดีแถมลูกชิ้นให้เธอด้วยเพราะไม่ใช่แค่ผักที่เขาได้มาเยอะเป็นพิเศษ ยังมีหมูสดกับลูกชิ้นที่ลอยอยู่เต็มชามจนนึกสงสารป้าเจ้าของร้านที่ดูจะขาดทุนกับชามนี้ไม่น้อยเลย
“พอแล้วค่ะ หนูกินไม่หมดหรอก” คณานางค์รีบดึงชามของตัวเองคืนมาก่อนที่เขาจะแบ่งให้เธอมากกว่านี้
“ขอลูกชิ้นสองลูกสิโดม” กัญญาดาเอื้อมมือไปกะจะคีบลูกชิ้นของเมธาวินมา แต่วฤทธิ์ก็รีบคว้ามือเธอไว้เสียก่อน
“ไม่ต้องไปแย่งไอ้โดมมันกินหรอกเมียจ๋า เอาของผัวไปดีกว่านะ เนี่ยลูกชิ้นเอ็นด้วย เอ็นอุ่นๆ เลยน้า...” เขาบอกพร้อมกับแววตาเจ้าเล่ห์
“ไอ้ทุเรศ! เก็บเอาไว้กินคนเดียวเลย! ฉันไม่กินหรอกเอ็นอุ่นๆ ของนายน่ะ แค่คิดก็จะอ้วกแล้ว” แล้วกัญญาดาก็ยกชามขึ้นมาก่อนจะลุกไปนั่งข้างๆ คณานางค์แทนเพราะตอนแรกเธอนั่งฝั่งตรงข้ามกัน
“อ้าวเมียจ๋า จะหนีไปไหนล่ะ” วฤทธิ์ลุกขึ้นเหมือนจะตามเธอไป ทว่าคีตกาลที่เพิ่งกลับมาก็กดไหล่เพื่อนรักให้กลับลงไปนั่งที่เดิม
“มึงเลิกยุ่งกับไอ้กุ้งสักห้านาทีเถอะ ขอพวกกูกินอย่างสงบๆ หน่อย มัวแต่เล่นกันอยู่นั่นเดี๋ยวก็ไปสอบภาคบ่ายไม่ทันพอดี อย่าลืมนะว่าเราสอบบ่ายโมงครึ่ง นี่มันจะบ่ายโมงแล้ว”
คีตกาลบอกก่อนจะตักข้าวกะเพราไข่ดาวของตัวเองกินอย่างรวดเร็วเพราะหิวจนไส้แทบขาดแล้ว
“ก็ได้วะ เมียจ๋า...”
“หุบปากเลยไอ้ฤทธิ์ ขืนนายเรียกฉันว่าเมียอีกคำ ฉันได้ลุกไปต่อยปากนายแน่” คราวนี้กัญญาดาดูจะโมโหเขาจริงๆ ชายหนุ่มจึงได้ยิ้มขันแล้วไม่พูดอะไรออกมาอีก
“เฮ้อ...ในที่สุดโลกก็สงบสุข” เมธาวินแกล้งถอนหายใจ แต่ยังไม่ทันได้กินคำแรกก็มีเสียงใครคนหนึ่งดังมาเสียก่อน
“ขอพิมพ์นั่งด้วยได้มั้ยคะโดม”
ทุกคนหันไปมองตามเสียงนั้น ทำให้คณานางค์เห็นว่าเจ้าของเสียงก็คือ พิมพ์ดาว หรือ พิมพ์ เป็นดาวคณะบริหารนั่นเอง
“เชิญครับพิมพ์” เมธาวินขยับไปทางคณานางค์จนชิด เธอจึงได้ขยับไปทางกัญญาดาต่อแต่กัญญาดาก็ไม่คิดจะขยับไปไหนและสนใจอาหารของตนต่อไป
ทำให้เมื่อเมธาวินขยับมาอีกคณานางค์จึงไม่ขยับตามตอนนี้เขากับเธอจึงได้นั่งชิดติดกัน ส่วนพิมพ์ดาวก็นั่งเว้นที่ว่างเอาไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ได้ยินเพื่อนๆ บอกว่าเห็นโดมมากินข้าวที่นี่ พิมพ์เลยแวะมาดูค่ะ แล้วนี่ใกล้อิ่มหรือยังคะ”
“ยังครับ ผมยังไม่ได้กินเลย พิมพ์มีธุระอะไรรึเปล่าครับ”
“พิมพ์ว่าจะชวนโดมไปซื้อไอติมตรงนั้นด้วยกันน่ะค่ะ แต่รอโดมกินอิ่มก่อนก็ได้ค่ะ”
“แล้วทำไมไม่ไปซื้อเองวะ” เสียงนั้นไม่ได้มาจากเมธาวินแต่เป็นกัญญาดาที่ดูจะคิดดังไปหน่อย เลยทำให้วฤทธิ์แทบจะหลุดขำออกมากับความกวนประสาทของคู่ปรับ
“พอดีว่าโดมเคยสัญญากับพิมพ์ว่าจะเลี้ยงไอติมพิมพ์ถ้ามากินข้าวที่นี่น่ะ วันนี้พิมพ์เลยมาทวงสัญญา จริงมั้ยคะโดม”
เธอไม่ถามเปล่ากลับเอื้อมมือมาจับแขนเขาอย่างสนิทสนมอีกด้วย
“อ๋อครับ ผมเกือบลืมไปแน่ะ งั้นไปซื้อก่อนได้นะ กว่าผมจะอิ่มคงอีกนาน อิ่มแล้วต้องรีบไปสอบต่อน่ะ”
“จะดีเหรอคะ พิมพ์เกรงใจจังเลย”
“ถ้าเกรงใจก็ไม่เห็นต้องทวงแต่แรก”
เป็นอีกครั้งที่เสียงของกัญญาดาลอยมา ทำให้พิมพ์ดาวอดที่จะหันไปมองตาขวางไม่ได้ แต่มีหรือที่กัญญาดาจะสนใจ
“ไม่เป็นไรครับ ไปเถอะ”
แล้วเมธาวินก็ลุกขึ้นเดินออกไปพร้อมกับพิมพ์ดาว วฤทธิ์จึงได้พูดขึ้นมา
“ดูท่าว่าข่าวลือจะเป็นจริงว่ะ”
“ข่าวลืออะไรของมึง” คีตกาลถามขึ้น
“ก็ที่ว่าสองคนนั้นกำลังคบกันไง มึงไม่รู้เหรอว่าพักหลังๆ มาเนี่ย ไอ้โดมมันไปแวะเวียนที่คณะบริหารบ่อยๆ แถมยังซื้อขนมไปด้วยนะ ดูท่าจะไปจีบสาวว่ะ”
“แล้วถ้าสองคนนั้นคบกันจริง มึงจะยุ่งอะไรด้วยล่ะ”
“กูก็ไม่ได้อยากยุ่ง แค่ไม่คิดว่าคนอย่างไอ้โดมจะชอบยัยพิมพ์ได้น่ะสิ”
“แล้วยัยพิมพ์เสียหายตรงไหนวะ คนหนึ่งสวย คนหนึ่งหล่อ แถมยังเป็นดาวกับเดือนคณะอีก ดูเหมาะสมกันจะตายไป”
“ก็...ช่างเถอะ เอาเป็นว่าถ้าสองคนนั้นคบกัน กูไม่อยากเชียร์ว่ะ แดกต่อเถอะ เดี๋ยวเมียอิ่มแล้วจะทิ้งกูอีก จริงมั้ยจ๊ะเมีย...”
วฤทธิ์จำต้องหุบปากฉับเมื่อเห็นว่ากัญญาดาจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง