ตอนที่ 3 คู่กัด

1069 คำ
ทว่าบทสนทนาง่ายๆ นั้นกลับกระทบใจของคณานางค์เข้าอย่างจัง เพราะหากว่าเมธาวินชอบพิมพ์ดาว ก็แปลว่าเธอคงจะต้องอกหักทั้งที่ยังไม่ได้สารภาพรักกับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว หญิงสาวหันไปมองทางร้านไอศกรีมอย่างลืมตัว แล้วก็ต้องรีบหันกลับมาเมื่อเห็นว่าพวกเขาพูดคุยและส่งยิ้มให้กันอย่างสนิทสนม และนั่นก็ทำให้ขอบตาของเธอร้อนผ่าวราวกับว่าน้ำตามันกำลังจะไหลออกมา ไม่นะ อย่าร้องไห้ อย่าให้ใครรู้ว่าเธอชอบเขา ไม่อย่างนั้น...แม้แต่ความเป็นเพื่อนหรือน้องสาว เธอก็อาจจะไม่มีโอกาสได้เป็นอีก... “เป็นอะไรน่ะคะน้า ทำไมตาแดงๆ น้ำก๋วยเตี๋ยวเข้าตาเหรอ” กัญญาดาถามขึ้นอย่างสงสัย “เอ่อ...ค่ะ” “งั้นรีบไปล้างตาเลย ปะ เดี๋ยวพี่พาไป” กัญญาดารีบลุกขึ้น “ไม่เป็นไรค่ะ หนูดีขึ้นแล้ว” “แน่นะ” “ค่ะ ไม่เป็นไรจริงๆ” คณานางค์แกล้งยิ้มออกมาแม้จะแทบยิ้มไม่ออก “งั้นก็ตามใจ แต่ถ้าแสบขึ้นมาอย่าทิ้งไว้นะเดี๋ยวตาอักเสบ” “ค่ะพี่กุ้ง ขอบคุณมากนะคะที่เป็นห่วง” “โอะ...โอ๊ย...โอ๊ย...” เสียงวฤทธิ์ดังขึ้น กัญญาดาเลยหันไปมอง “เป็นอะไร ใครเหยียบหาง?” คีตกาลถึงกับหลุดขำเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ไม่ได้มีใครเหยียบหาง แต่ว่ามีอะไรเข้าตาผัวอยู่น่ะ เมียช่วยมาดูให้หน่อยสิ” “ก็ดีแล้วนี่ ให้ตาบอดไปเลยยิ่งดี” “ไม่บอดหรอก เพราะสิ่งเดียวที่จะทำให้ผัวตาบอดได้ก็คือความรักของเราไงจ๊ะ” “แหวะ จะอ้วก” “หูย...มองตากันแป๊บเดียวก็จะท้องแล้วเหรอเนี่ย” กัญญาดาได้แต่กลอกตามองบนและคร้านจะเถียงกับคนโรคจิต เธอจึงได้นั่งลงแล้วสนใจก๋วยเตี๋ยวที่เหลืออยู่อีกไม่มากต่อไป “กลับมาแล้วเหรอพ่อคนเสน่ห์แรง” คีตกาลเอ่ยเย้าเพื่อนรักที่เดินกลับมาพร้อมกับไอศกรีมในมืออีกหลายถ้วย “อืม เอานี่ ซื้อมาฝากทุกคนเลยนะ” เขาวางไอศกรีมทั้งหมดลงบนโต๊ะให้ทุกคนหยิบกันเอง เว้นถ้วยหนึ่งที่เขาหยิบขึ้นมาวางตรงหน้าคณานางค์ “นี่ของคะน้าครับ พี่จำได้ว่าเราชอบรสกะทิใช่รึเปล่า” “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างที่เขาจำรสชาติไอศกรีมที่เธอชอบได้ ทั้งที่เธอก็ไม่ได้กินให้เขาดูบ่อยๆ แต่เมธาวินก็เป็นแบบนี้ ใส่ใจทุกคน ดีกับทุกคนอย่างเท่าเทียมไม่ใช่แค่เธอคนเดียว “เดี๋ยวสอบเสร็จมึงจะกลับเลยมั้ยไอ้โดม” วฤทธิ์ถามขึ้นขณะหยิบไอศกรีมรสช็อกโกแลตไปให้กัญญาดา เช่นเดียวกับของตัวเองซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ปฏิเสธเพราะชอบกินรสนี้อยู่แล้ว ที่เหลือก็เป็นรสวนิลลาของคีตกาล “ก็ว่าจะกลับไปอ่านหนังสือต่อน่ะ ทำไม? มึงจะชวนกูไปไหนอีก” “ไปบ้านกูนี่แหละ ขี้เกียจเข้าไปคนเดียว เดี๋ยวแม่ก็คะยั้นคะยอให้ค้างอีก” “แล้วมึงจะไปทำอะไรล่ะ” “ไปเอากีตาร์ ตัวใหม่ที่ซื้อมาเล่นไม่เข้ามือเท่าไหร่ ไม่เหมือนตัวเก่าว่ะ เลยว่าจะให้มึงไปบ้านเป็นเพื่อนหน่อยน่ะ” “แล้วไอ้โน้ตล่ะ” เมธาวินหันไปถามเพื่อนอีกคนหนึ่ง “กูต้องไปซ้อมมวย วันนี้ซ้อมกับครูหน่อด้วยขาดไม่ได้เลย มะรืนก็จะขึ้นชกแล้ว” คีตกาลบอกอย่างอารมณ์ดี “มึงจะชกอีกแล้วเหรอ ร้อนเงินหรือไงวะ เอาของกูก่อนมั้ยกูมีเยอะ” วฤทธิ์บอกเพราะครอบครัวของเขามีธุรกิจค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ แต่ลูกชายคนเล็กคนนี้กลับไม่สนใจจะรับช่วงต่อและอยากเป็นวิศวกรโยธามากกว่า เขาจึงได้ผิดใจกับบิดาเรื่อยมาทำให้ไม่อยากกลับบ้านและพักที่คอนโดหรูใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัย แม้มารดาจะอยากให้เขากลับบ้านบ่อยๆ ก็ตาม “กูไม่ได้ร้อนเงิน แค่ชอบความท้าทายน่ะ” หนุ่มเซอร์บอกยิ้มๆ บ้านของเขาก็ใช่ว่าจะยากจนหรือขัดสนเรื่องเงินทอง แต่เขาชอบชกมวยมากและมักจะขึ้นสังเวียนหารายได้บ่อยๆ จนเพื่อนๆ พากันคิดว่าเด็กต่างจังหวัดอย่างเขามีฐานะไม่ค่อยดีนัก ซึ่งเขาก็ไม่ได้บอกใครว่าครอบครัวทำกิจการอะไรอยู่ที่ชลบุรีในตอนนี้ “งั้นก็เหลือแต่มึงแล้วไอ้โดม ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยนะ” “เออๆ ไปก็ไป แล้วไปส่งกูกลับบ้านด้วยล่ะ” “ได้คร้าบ” วฤทธิ์ลากเสียงยาวแล้วพวกเขาก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อเพราะใกล้จะถึงเวลาเข้าห้องสอบแล้ว หลังจากกินไอศกรีมจนหมดจึงได้พากันกลับไปที่ตึกคณะวิศวกรรมที่อยู่ห่างไปไกลพอสมควร โดยกัญญาดานั่งมินิคูเปอร์สีชมพูของคณานางค์ไปเหมือนตอนขามา ส่วนเมธาวินและคีตกาลก็นั่งรถแอสตันมาร์ตินของวฤทธิ์กลับไปเช่นกัน คฤหาสน์ธาราบดินทร์ ทันทีที่ได้ยินเสียงรถของบุตรชาย อรัญญา ที่กำลังนั่งจัดดอกไม้อยู่ตรงห้องรับแขกก็รีบชะเง้อมองไปออกที่นอกหน้าต่างก่อนใบหน้าสวยของสาวใหญ่วัยห้าสิบจะคลี่ยิ้มออกมา เธอรีบวางดอกไม้ในมือแล้วเดินออกไปจากห้องรับแขกและได้พบกับบุตรชายคนเล็กที่ตรงหน้าตูทางเข้านั่นเอง “สวัสดีครับแม่” วฤทธิ์ยกมือไหว้มารดา “สวัสดีครับคุณป้า” เมธาวินก็ยกมือไหว้อีกฝ่ายเช่นกัน “สวัสดีจ้ะเด็กๆ วันนี้ลมอะไรหอบลูกชายแม่ให้กลับมาที่บ้านได้จ๊ะ” “ผมมาเอากีตาร์น่ะครับแม่ ก็เลยชวนไอ้โดมมาด้วย ว่าจะฝากท้องมื้อเย็นกับแม่สักมื้อ” “ได้สิจ๊ะ อาหารน่าจะใกล้เสร็จแล้วล่ะ แล้วโดมเป็นไงบ้างลูก เทอมนี้จะเอาเอทุกตัวเหมือนเดิมมั้ยจ๊ะ” เพราะรู้ว่าเพื่อนของลูกชายคนนี้เป็นเด็กเรียนท่านจึงได้ให้ความเอ็นดูเหมือนเป็นลูกชายอีกคน ส่วนกับคีตกาลท่านก็เอ็นดูเช่นกันเพราะแม้รายนั้นจะออกแนวสายบู๊หน่อยแต่ก็ขี้อ้อนมากกว่าบุตรชายของท่านเสียอีก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม