วันต่อมา
“เมื่อคืนนอนดึกเหรอคะพี่กุ้ง ทำไมนั่งหาวหวอดๆ แบบนั้นล่ะ นี่ค่ะน้ำมะนาว เผื่อจะสดชื่นขึ้น”
คณานางค์ส่งเครื่องดื่มให้เพื่อนรุ่นพี่ก่อนจะนั่งลงข้างกันขณะที่พวกเธอมากินมื้อเที่ยงที่โรงอาหารของคณะ ส่วนสามหนุ่มช่วยอาจารย์ขนการบ้านไปส่งที่โต๊ะ อีกเดี๋ยวน่าจะตามมา
“อือ พี่รับจ๊อบเสริมมาน่ะเลยง่วงนิดหน่อย เดี๋ยวเรียนคาบบ่ายเสร็จแล้วว่าจะกลับไปนอนต่อ”
“แล้วการบ้านที่อาจารย์อรรณพสั่งเมื่อสองอาทิตย์ก่อนเสร็จแล้วเหรอคะ กำหนดส่งพรุ่งนี้แล้วนะ”
“จริงด้วยสิ พี่ลืมไปสนิทเลย เฮ้อ...ขี้เกียจเป็นบ้า แล้วคะน้าทำเสร็จยังขอลอกหน่อยสิ”
“เสร็จแล้วค่ะ หนูเอามาด้วยเพราะกลัวพี่ลืมทำนั่นแหละ นี่ค่ะ”
เธอเปิดกระเป๋าผ้าใบใหญ่ก่อนจะยื่นสมุดการบ้านให้อีกฝ่าย กัญญาดาจึงรีบรับมาด้วยความเต็มใจ
“น่ารักที่สุด พรุ่งนี้พี่เอามาคืนให้นะน้องเลิฟ”
“ได้ค่ะ”
“คุยอะไรกันจ๊ะสาวๆ ขอพี่ฤทธิ์สุดหล่อคุยด้วยคนสิ”
หนุ่มอารมณ์ดีทรุดตัวลงนั่งข้างกัญญาดา ส่วนเมธาวินก็นั่งข้างคณานางค์แล้วปล่อยให้คีตกาลนั่งถัดเขาไป
“คุยเรื่องการบ้านของอาจารย์อรรณพค่ะ พี่กุ้งเค้าลืมทำหนูเลยเอามาให้ลอกค่ะ”
“เฮ้ย! จริงดิ พี่ก็ลืมทำเหมือนกัน กุ้งขอลอกมั่งดิ” วฤทธิ์รีบหันมาบอกคนข้างๆ
“เรื่องอะไรยะ นายก็ไปลอกโดมเค้าสิ รายนั้นคงทำเสร็จแล้วเหมือนกันนั่นแหละ ใช่มั้ยโดม” กัญญาดาถามคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกันเพราะเธอกับคณานางค์ไม่ได้นั่งข้างกันแต่แรกอยู่แล้ว
“เราทำเสร็จแล้วแต่ไม่ได้เอามาด้วยน่ะสิ เธอก็แบ่งให้ไอ้ฤทธิ์มันลอกละกัน” เมธาวินบอกยิ้มๆ
“แต่กุ้งไม่ได้เอาสมุดมา นี่ก็กะจะเอาของคะน้าไปทำที่ห้องหลังเลิกเรียนอยู่เนี่ย”
“งั้นไปด้วยสิ” วฤทธิ์รีบพูดขึ้นมาทันที
“ไปไหนยะ”
“ก็ไปทำการบ้านด้วยไง ไอ้โน้ตมึงทำเสร็จยัง ไปด้วยกันป่าว”
“ทำเสร็จตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่ไม่ได้เอามา”
“โหย ทำไมมีแต่คนขยันวะ เหลือเราขี้เกียจอยู่สองคนเห็นมั้ยเมียจ๋า” วฤทธิ์หันมายิ้มอ้อนกัญญาดาแต่เธอกลับกลอกตามองบนอย่างอ่อนใจ
“จะไม่ให้ไปทำด้วยก็เพราะเรียกเมียจ๋านี่แหละ”
“กุ้งจ๋า ขอฤทธิ์ไปทำด้วยนะจ๊ะ ถือว่าเมตตาเพื่อนร่วมโลกเถอะนะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีส่งชีวิตเพื่อนคนนี้บรรลัยแน่นอน” เขากอดแขนเธอแน่นแล้วใช้ศีรษะถูไถกับไหล่เล็กอย่างออดอ้อน เธอจึงต้องรีบดันตัวเขาออกอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องมาอ้อน จะไปก็ไป ซื้อข้าวไปกินด้วยล่ะ”
“เย่! ได้เลยจ้ะ กุ้งอยากกินอะไรเฮียฤทธิ์จัดให้ทุกอย่างอยู่แล้ว” วฤทธิ์บอกอย่างอารมณ์ดี
“เอาพิซซ่าสองถาด เคเอฟซีถังใหญ่แล้วก็...”
“เดี๋ยวๆ แม่คุณแน่ใจนะว่าจะกินหมด”
“ไหนบอกจัดให้ทุกอย่าง”
“ก็...เออๆ จัดให้ทุกอย่างนั่นแหละ แต่กลัวกินไม่หมดไง”
“ไม่หมดก็ใส่ตู้เย็นไว้ไม่เห็นมีปัญหาตรงไหนเลย”
“จ้าๆ ไม่มีก็ไม่มี” วฤทธิ์แกล้งทำเป็นหงอ ทั้งที่ทุกคนดูออกว่าเขาไม่ได้กลัวกัญญาดาเลยสักนิด
“เปลี่ยนรองเท้าด้วย”
กัญญาดาหยิบรองเท้าแตะลายหมีหัวโตให้เขาหลังจากที่เธอใส่ลายคิตตี้สีชมพูหวานไปแล้ว ซึ่งหลังจากเลิกเรียนเธอก็ให้เขาขับรถตามมาที่คอนโดเพราะขี้เกียจขับไปส่ง จนตอนนี้เขาก็มาอยู่ในคอนโดของเธอเรียบร้อย
“จะให้สั่งพิซซ่าเลยมั้ย” เขาถามหลังจากเปลี่ยนรองเท้าแล้ว
“เอาสิ กินไปทำไปจะได้ไม่ต้องห่วงว่าจะเหลือ เดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ”
“แล้วจะนั่งทำตรงไหน”
“โต๊ะกินข้าวละกันสะดวกดี”
“โอเค งั้นขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“ตามสบาย”
บอกแล้วเธอก็เดินเข้าไปในห้องนอน ส่วนวฤทธิ์ก็เดินไปเข้าห้องน้ำ หลังจากนั้นเขาก็โทรไปสั่งอาหาร ไม่นานเธอก็ออกมาจากห้องพร้อมกับเสื้อยืดตัวหลวมกางเกงขาสั้นอวดเรียวขาขาวผ่องและนวลเนียนไม่มีริ้วรอยใดๆ ให้ระคายสายตา
“มองไรยะ” กัญญาดาถลึงตาใส่ไอ้คนหื่นที่เอาแต่มองขาของเธอตลอดชนิดที่เรียกว่ามองให้รู้ว่ามองกันไปเลย
“มองขาอ่อนเธอไง ตั้งใจโชว์ไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่มองก็เสียความตั้งใจแย่น่ะสิ” เขาบอกพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ใครตั้งใจโชว์นายกันล่ะ ปกติฉันก็แต่งแบบนี้อยู่ห้องอยู่แล้ว และการที่นายมาที่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องแต่งตัวให้มิดชิดขึ้นหรอกนะ เพราะนี่มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ เข้าใจ๊”
“เข้าใจครับเมีย”
“ไอ้ฤทธิ์!”
“เสียงดังทำไมเนี่ย หูจะแตกอยู่แล้ว”
“บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเรียกเมีย เดี๋ยวแม่ก็เอาขวดเป๊บซี่ฟาดหัวซะเลย”
“ดุเหลือเกินนะแม่คุณ ดุแบบนี้ระวังจะหาผัวไม่ได้”
“ก็ไม่ได้อยากหานี่ มีผัวไม่ดี สู้ไม่ต้องมีเลยดีกว่า”
“พูดเหมือนเคยมีนะ ไอ้ผัวที่ไม่ดีน่ะ”
กัญญาดาชะงักไปครู่หนึ่ง และแววตาที่เปลี่ยนไปของเธอก็ทำให้เขายิ่งนึกสงสัยเข้าไปอีก
“สรุปว่าเคยมีแล้วเหรอ”
“อะไร?” เธอถามเสียงห้วน
“ก็ผัวที่ไม่ดีไง”
“ไม่มีโว้ย! จะผัวดีหรือไม่ดีก็ไม่เคยมีทั้งนั้นแหละ เลิกพูดเรื่องผัวๆ เมียๆ แล้วรีบลอกการบ้านให้เสร็จเถอะ นายจะได้รีบกลับซะที เหม็นขี้หน้าจะแย่อยู่แล้วเนี่ย”