นอกจากความหล่อเหลาคมคายไร้ที่ติของคนสูงแกร่งตรงหน้า ก็มีเพียงสีหน้านิ่งเรียบแข็งกร้าวและเยือกเย็นแสดงออกมา เขาเหมือนพญาเหยี่ยวที่รอตะครุบเหยื่ออย่างสงบนิ่งแต่แฝงความร้ายกาจไว้
อันดามองเขาตาไม่กะพริบท่ามกลางความเงียบในชั่วขณะหนึ่ง สิ่งที่เธอคาดเดาผิดไปโดยสิ้นเชิงก็คือรูปลักษณ์ของเขานี่แหละ ไม่คิดเหมือนกันว่าเจ้าหนี้ที่เป็นเจ้าของกาสิโนรายใหญ่ที่ใคร ๆ ต่างก็เกรงกลัวจะยังหนุ่มแน่นดูสมบูรณ์แบบและหน้าตาดีขนาดนี้
ถ้าน้ำหวานรู้ว่าเจ้าหนี้คือคนแบบเขาไม่ใช่เสี่ยแก่ ๆ อย่างที่คิด หล่อนคงจะเสียดายแน่นอน
"สามล้าน" เสียงทุ้มต่ำแต่ดุดันเอ่ยพูดขึ้นทำลายความเงียบที่กำลังก่อตัว ศิลาล้วงมือในกระเป๋ากางเกงและจดจ้องเธอด้วยแววตาที่คาดคั้นเล็กน้อย
อันดารีบหลบตาเขาอีกครั้งเมื่อได้สติ
"ฉะ...ฉันหาไม่ได้ค่ะ" อันดาสารภาพตามตรง ถ้าเธอหาได้ก็คงไม่มายืนอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้หรอก
"งั้นก็ตามฉันบอกไว้" ศิลามองหน้าด้วยปลายสายตาแสนดูแคลน ความเย็นชายังคงแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา
"ถ้าไม่ชดใช้ด้วยเงิน... งั้นเธอก็เอาชีวิตมาแลกซะ"
หญิงสาวนิ่งไปแต่เธอเตรียมใจมาหมดแล้ว
"ฉันทราบค่ะ" พูดเหมือนรู้ดีแต่นั่นกลับทำให้ศิลาแค่นหัวเราะในลำคอ
"นี่ แม่สาวน้อยอวดเก่ง..." ว่าพลางยกมือไปจับปลายคางสาวอย่างถือวิสาสะ สายตาสีเทาเข้มมองเธออย่างดุดันระคนเยือกเย็น
อันดาตกใจแต่ก็เชิดหน้าขึ้นมองชายหนุ่มตามแรงจับของเขาอย่างขัดขืนไม่ได้ ร่างกายของเธอเคลื่อนไหวไม่ออกเลย ยิ่งเจอสายตาของคนตรงหน้าเธอก็แทบบังคับตัวเองไม่ได้ หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ
"เธอรู้ไหมว่าการชดใช้ด้วยชีวิตของฉันหมายถึงอะไร" ชายหนุ่มกดยิ้มที่มุมปาก มองดูหญิงสาวตรงหน้าที่กระพริบตากลมโตถี่ ๆ และหายใจรัวเร็ว
ร่างแกร่งปล่อยปลายคางมนของเธอลง มือหนาสองข้างยกขึ้นจับไหล่ของเธอไว้ แล้วโน้มตัวลงมาแนบใบหน้าคมลงไปใกล้ใบหูอ่อนของหญิงสาว
"ชดใช้ในแบบของฉัน คือต้องสนองตามที่ฉันต้องการ" เสียงกระซิบแหบพร่ารดอุ่นใกล้ใบหูจนทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัว
"สนองแบบไหนคะ" เสียงสั่นเอ่ยถามแม้จะรู้อยู่แก่ใจ
ศิลาผละตัวออกมาแล้วแค่นหัวเราะเล็กน้อย เขาเลื่อนมือมาช้อนไว้หลังศีรษะของอันดา จดจ้องเธอไม่วางตาด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนไว้
"พูดเหมือนใสซื่อโลกสวย เธอไม่รู้จริงเหรอว่าเดินมาหาเจ้าหนี้ตามข้อแลกเปลี่ยนแบบนี้ มันจะหมายถึงอะไรได้"
"..." อันดาพยายามหลบตาเขาเมื่อถูกพูดต้อน
"แต่ถามแล้วก็จะบอกให้ ก็แค่..." มาเฟียหนุ่มมองเธอไล่ตั้งแต่สายตาจนถึงปลายเท้า
"สนองด้วยกายหอม ๆ ของเธอ...บนเตียงของฉันไง"
"แต่คือฉัน..." อันดาอึกอักใจสั่นหวั่นเกรงไปไกลเมื่อเขาตอบตรง ๆ แบบนั้น
"ฉันไม่... ฉันไม่ดีพอจะนอนกับคุณหรอกค่ะ" พูดไปแบบนั้นเผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ
"งั้นเหรอ" เขาเลิกคิ้วขึ้นเหมือนประชดเชื่อที่เธอบอก หากแต่เสือแบบเขาไม่ปล่อยเหยื่อที่เดินเข้ามาเป็นอาหารถึงปากอยู่แล้วให้จากไปหรอก
เธอประเมินเขาต่ำไป...
"ก็ต้องลองเทสดูก่อน"
"..."
ศิลาบังคับน้ำหนักฝ่ามือแกร่งที่ช้อนท้ายทอยของอันดาอยู่ ส่งผลให้หญิงสาวถูกดันตัวเข้าหากายแกร่งกำยำ
คนตัวสูงใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที ก้มตัวโน้มใบหน้าคมของตนประทับริมฝีปากแนบลงไปกับความนุ่มนิ่มของริมฝีปากหญิงสาว เขาฉกชิงจูบของเธอไปได้อย่างง่ายดายโดยที่ร่างบางไม่ทันตั้งตัว
"อื้อ..." เสียงอื้ออึงในลำคอของผู้หญิงที่ยังจูบไม่เก่งยิ่งเร่งเร้าให้คนแข็งแกร่งกว่าเพิ่มรสจูบแนบแน่นเข้าไปอีก
อันดาทำอะไรไปไม่ได้นอกจากหลับตากับสถานการณ์ตรงหน้า รับรู้ได้เพียงแต่รสขมปร่าแสนแปลกและกลิ่นบุหรี่ที่เจือปนอยู่ในโพรงปาก มือเรียวจับขยุ้มเสื้อของเขาไว้เพราะไม่มีที่ยืดเหนี่ยว และค่อย ๆ ปลดปล่อยแรงบีบจับเมื่อเขาค่อย ๆ ถอนจูบออก
"ก็ไม่แย่นี่" ศิลายิ้มมุมปากพลางใช้นิ้วโป้งเช็ดริมฝีปากของตนด้วยท่าทางพอใจ
ส่วนอันดาได้แต่ก้มหน้ายกมือปิดริมฝีปากไว้ เหมือนตัวเองถูกขโมยของรักของหวง จะดุจะต่อว่าอะไรเขาก็ไม่ได้ เพราะสถานะของเธอและเขาในตอนนี้เรียกได้ว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว
"คุณเอาเปรียบ"
"แน่ใจ? ถ้าเทียบกับสิ่งที่เธอฉกฉวยฉันไปสามล้าน เรื่องแค่นี้มันโคตรจะน้อยนิดนะ"
อันดาพูดไม่ออกและนั่นคือความจริง
"ฉันเป็นเจ้าหนี้และคงไม่ได้ใจดีเหมือนคนทั่วไปที่เธอเจอหรอกนะ" เสียงของเขาเข้มและดูน่ากลัวขึ้นจนอันดานิ่งชะงักงัน หัวใจเริ่มหวั่นกลัวอีกครั้งเมื่อสายตาคมของเขาจริงจังขึ้น
"กล้าเอาตัวเข้ามาชดใช้ ก็ช่วยทำตามข้อตกลงของฉันด้วย ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน"
ร่างบางถอยหลังหนีเขาสองสามก้าวเมื่อศิลาเดินเข้ามาประชิดเธอ จนในที่สุดหลังของหญิงสาวก็แนบชิดติดผนังห้องจนไปไหนไม่ได้
ปึก!
แขนแกร่งยกขึ้นเท้าไว้กับผนังห้องกักขังเธอ ดวงหน้าสดสวยแต่แฝงความประหม่ากำลังทำให้เขาสนุกมากขึ้น
ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนวิ่งหนีเขาหรือไม่อยากนอนกับเขาแบบนี้มาก่อน เธอเหมือนผีเสื้อตัวน้อยที่พยายามโบยบินเพื่อหนีปีศาจร้ายอย่างเขา ในขณะเดียวกันเขาก็อยากจะไล่ตามจนเธอหมดแรงอยู่แนบกายเขาแต่โดยดี
"ต่อไปนี้..."
"..."
"เธอต้องคอยสนองทุกความต้องการของฉัน"
อันดากลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก นี่สินะสิ่งที่เธอต้องยอมรับและรับผิดชอบมัน เพื่อไม่ให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเธอต้องทำมันให้ได้
"ฉันต้องอยู่กับคุณตอนไหนบ้าง"
พูดแบบนี้แปลว่ายอมจำนนแต่โดยดีแล้วสินะ ศิลายิ้มมุมปากแต่แววตากลับแฝงความร้ายกาจมากกว่านั้นหลายเท่า
"ทุกเมื่อหากฉันต้องการ"
"คุณ..."
"หรือเธอมีปัญหา?"
อันดาเงียบเมื่อเจอเขาไล่ต้อน เธอไม่มีสิทธิ์อะไรตั้งแต่ไม่มีปัญญาจ่ายหนี้แล้ว สุดท้ายหญิงสาวก็ทำได้แต่เพียงส่ายหน้าว่าไม่มีปัญหาอะไร
"ก็ดี" ศิลาผละตัวออกมาปลดปล่อยวงแขนที่กักขังเธอไว้ เขาเดินมาที่โต๊ะแล้วหยิบยกแก้วใบเดิมขึ้นมา เหวี่ยงวนมันเล็กน้อยแล้วกระดกดื่มด้วยอารมณ์พึงพอใจ
"แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอกอันดา ฉันจะเรียกใช้เธอให้เงียบที่สุด อยู่ต่อหน้าคนอื่นฉันจะทำเหมือนว่าไม่มีอะไร และเธอเองก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรหรือสถานะอะไรทั้งนั้น" พูดแล้วตวัดสายตาคมมองสังเกตเธอ
อันดาเม้มริมฝีปากตนเองแน่น มีใครอยากจะเรียกร้องสถานะกับเขากัน
"ฉันก็แค่เป็นผู้หญิงลับ ๆ ของคุณแค่นั้นใช่ไหม หน้าที่ของฉันมีแค่นี้ใช่ไหมคะ" พูดให้ชัด ๆ ก็คือเป็นนางบำเรอเวลาอยู่บนเตียงกับเขานั่นแหละ ไม่มีสถานะ ไม่มีบ่วงติดพันใด ๆ
"นานแค่ไหนคะกว่าฉันจะไถ่หนี้ทั้งหมดนี้ได้" คำถามดังกล่าวกระตุกมุมปากของเขาในทันที
ศิลามองเธออย่างสงสัย ยังไม่ทันจะบริการใด ๆ หรือชดใช้อะไรก็เตรียมตัวหนีแล้วเหรอ
น่าขำ!
"จนกว่าจะมีเงินสามล้านมาให้ฉัน ถ้าไม่มีก็นอนทำงานบนเตียงจนกว่าจะครบหนึ่งปี"
"..."
"อ่อ ลืมบอกเธออีกอย่าง" ศิลากระดกเหล้าที่เหลือจนหมดในอึกเดียวแล้ววางแก้วลง ก่อนจะเดินมาหาอันดาที่ยังยืนนิ่งพิงอยู่ที่ผนังห้อง
เขาจับใบหน้ามนและกดริมฝีปากอวบอิ่มด้วยนิ้วโป้งเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว
"อย่าลืมไปฉีดยาคุม"
"..."
"เพื่อตัวของเธอเองถ้าไม่อยากพลาด" พูดไปแบบนั้นทั้งที่ในใจของศิลารู้ดีว่า...ก็เพื่อเขาตัวเองด้วย
ก็แค่...อยากสัมผัสของเล่นแบบถึงใจชัด ๆ เน้น ๆ ต่างหาก