เสียงหัวเราะขบขันแต่ยังแฝงความมีอำนาจของคู่สนทนาสองคนเปล่งดังอยู่ภายในห้องโทนมืด รอยยิ้มเผยขึ้นอยู่เป็นระยะเมื่อพูดคุยกันตามประสาเพื่อน
"ก็ไม่เลวนะ"
"มึงติดใจล่ะสิ" ศิลาลอบยิ้มพูดหยอกเย้าเพื่อนของตน แล้วเอื้อมมือหยิบซองบุหรี่ที่วางไว้บนโต๊ะกระจกเบื้องหน้าขึ้นมา
"ก็ไม่เชิง แค่มันรู้สึกดีกว่าเวลานอนกับคนที่ผ่าน ๆ มา" คำพูดหาเหตุผลของเพลิงเพื่อนสนิททำเอาศิลาหัวเราะร่า
"นั่นแหละที่เรียกว่าติดใจ" ศิลาหยิบบุหรี่คาบไว้ในปากหยักได้รูปก่อนจะยกไฟแช็กจุดไฟ
ควันสีขาวพร้อมกลิ่นบุหรี่ฟุ้งไปทั่วบริเวณห้อง ล่องลอยออกไปทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้สู่บรรยากาศแสนดึกดื่น
"ระวังจะติดหญิงจนเสียระบบแล้วกันไอ้เพลิง" ก็แค่เตือน ๆ ไว้ กลัวว่าเสือผู้หญิงอย่างมันจะไม่พ้นตกม้าตายเพราะผู้หญิง
"หึ" เพลิงแค่นหัวเราะเล็กน้อยแล้วส่ายหน้า "กูคงไม่ขนาดนั้น ทำตัวดี ๆ รู้ที่รู้ทางกูก็เลี้ยงไว้ แต่ถ้างี่เง่าเรียกร้องมากกูคงไม่เอาไว้"
"ก็ดูกันไป กูภาวนาว่ามึงจะไม่ทำให้กูหัวเราะทีหลัง" ศิลาแค่นหัวเราะพลางสูดกลิ่นไอเข้าปอด
"ว่าแต่มึงเหอะไอ้ศิลา เมื่อไรจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน" การเปลี่ยนเรื่องของเพื่อนกลับทำให้ศิลานิ่งไปพักหนึ่ง ใบหน้าหล่อคล้ายครุ่นคิดบางอย่างในใจ แต่ก็ส่ายหน้าแล้วแค่นหัวเราะพร้อมเอ่ยตอบไป
"ไอ้สัสมึงเล่นกูแทนเหรอ"
"ก็ทีกูบ้างไง" เพลิงหัวเราะ เขารู้ดีว่าศิลาก็ไม่ต่างจากเขานัก นอกจากดูแลธุรกิจคาสิโนและคลับต่าง ๆ ในสังกัดแล้ว เรื่องผู้หญิงก็เน้นกินไปวัน ๆ
เข้าระบบน้ำแตกแล้วแยกทาง ไม่มีเลี้ยงดู ไม่มีระยะยาว ไม่มีความวุ่นวายน่าปวดหัวเข้ามาในชีวิต ถึงแม้จะเห็น ๆ อยู่ว่าสาวน้อยสาวใหญ่ทั่วท้องถนนอยากเข้ามาอยู่ในสายตาและหัวใจของมันใจจะขาด แต่ศิลาไม่แม้แต่จะคิดทำให้ความสัมพันธ์ไปไกลกว่านั้น
"ก็เหมือนเดิม อย่างเดิม ๆ แบบทุกวัน" ศิลาตอบพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนัก "กูไม่อยากปวดหัว"
"เออตามแต่มึงเถอะ กูก็จะรอดูว่ามึงจะเหมือนเดิมแบบนี้ไปจนตายเลยหรือเปล่า" เพลิงยิ้มพลางยกแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นดื่ม
ในขณะเดียวกันเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นจากคนด้านนอก ศิลาที่นั่งอยู่ไม่ได้หันไปมอง เพียงแต่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยสีหน้าราบเรียบ เมื่อมองเวลาในนาฬิกาก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นได้พอดี
"นายครับ" ลูกน้องด้านนอกเอ่ยขึ้นเป็นเชิงขออนุญาต
"เข้ามาได้" เขาตอบรับกลับไปเสียงเรียบ
"ใครวะ" เพลิงกระซิบถามเพื่อนเมื่อคิดว่าจะมีแขกเข้ามาเพิ่ม แต่ใครจะมาดึกป่านนี้วะ "มึงนัดใครไว้ไอ้ศิลา"
ศิลายิ้มมุมปากแล้วพ่นควันฟอดสุดท้ายออกไป ก่อนจะบดขยี้บุหรี่ลงภาชนะรองข้าง ๆ อย่างใจเย็น
"สินค้าชดใช้หนี้"
"ฮะ?" เพลิงเอียงหน้าถามออกไปอีกรอบ เหมือนจะได้ยินผิดหรือมันพูดไม่ชัดกันนะ
แต่ยังไม่ทันที่เพลิงจะได้ถามอะไรต่อ ประตูห้องสีดำทำจากวัสดุราคาแพงก็เปิดออก พร้อมด้วยร่างของหญิงสาวตัวเล็กแต่มีน้ำมีนวลน่าจับน่าจ้องเดินตามลูกน้องของศิลาเข้ามา
"มาแล้วครับนาย" ลูกน้องกล่าวบอกเจ้านายและไม่นานก็ออกจากห้องไปเมื่อศิลาปัดมือเป็นสัญญาน เหลือทิ้งไว้แต่ร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งให้ยืนอยู่
เพลิงมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังศิลาก่อนจะสลับมามองหน้าเพื่อนตัวดีของเขา ที่ตอนนี้มันเอาแต่สนใจแก้วเหล้าอย่างใจเย็น โดยไม่ยอมหันไปมองร่างบางที่ยืนประหม่าอยู่
"เด็กมึงอ่อ" เพลิงถามเสียงเบา
"ใครบอกมึง"
"แล้ว..."
"ก็แค่ลูกหนี้" มาเฟียหนุ่มตอบเสียงเรียบ
ศิลาตวัดตามองเพื่อนแล้วกระดกเหล้าเล็กน้อย เหล้าเข้มขมในลำคอแต่รู้สึกกำลังดีสำหรับเขา ศิลาดูสนใจสิ่งอื่นมากกว่าใครบางคนที่เข้ามาในห้องเสียอีก
"อ่า กูพอเข้าใจ" เพลิงรู้ว่าธุรกิจอย่างคาสิโนของศิลามีเรื่องการติดหนี้สิน การหนีหนี้ ตามหนี้อะไรแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ก็เพิ่งเคยเห็นมันเรียกผู้หญิงมาใช้หนี้ครั้งแรกนี่แหละ
เพลิงจินตนาการแล้วก็แอบยิ้มเยาะในใจ คนเป็นผู้ชายเหมือน ๆ กันรู้กันดีว่าการทำแบบนี้หมายถึงอะไร
"งั้นกูว่ากูกลับก่อนดีกว่าว่ะ" เพื่อนตัวดีเหยียดตัวลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมพาดบ่าไว้ เขาเองก็มาหาศิลาตั้งแต่หัวค่ำแล้ว ก็คงถึงเวลากลับพอดี
ศิลาไม่ขัดเพื่อน เขาเองก็ไม่คิดจะให้เพื่อนอยู่ต่อเพื่อเห็นเขาขู่เข็ญลูกหนี้สักเท่าไร ถึงแม้นิสัยทั้งคู่จะมีความดิบความเลวนิสัยสีเทา ๆ ไม่ต่างกันนักก็ตาม
เพลิงลากับชายหนุ่มเรียบร้อย แล้วเดินผ่านร่างเล็กในชุดธรรมดาอย่างเสื้อยืดกางเกงยีนส์ เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาจนมองเห็นเจ้าของใบหน้าเรียวไม่ชัด แต่ถึงอย่างนั้นความสาวสวยดูดียังอุตส่าห์เผยออกมาจนเขาเผลอหลุดปากชม
"ของมึงนี่...แจ่มอยู่นะไอ้ศิลา" เพื่อนรักทิ้งท้ายไว้แบบนั้นแล้วเดินออกจากห้องไป
กึก!
แต่ไอ้ประโยคเมื่อครู่กลับทำให้แก้วใบใสในมือของชายหนุ่มกระแทกวางกับโต๊ะอย่างแรง เขาสะดุดกับคำชมแบบนั้นของเพื่อน จากที่ไม่ใส่ใจนักจึงค่อย ๆ หันใบหน้าคมคายมาทางหญิงสาวที่ยืนสงบเสงี่ยมด้านหลัง
แจ่มที่ว่ามันคือยังไงวะ...
เมื่อสายตาคมสีเทาไล่มองหญิงสาวขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้า เรียวขาที่โผล่พ้นกางเกงขาสั้น ไล่ขึ้นมาอีกจนถึงเอวและเนินอกที่ถูกปกปิดด้วยเสื้อยืิดพอดีตัว เลือดในกายของเขาก็ดูจะไหลเวียนได้มากขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ
"เธอ...คือคนที่มาใช้หนี้แทนพี่ชายใช่ไหม" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม
ความเยือกเย็นที่แผ่ซ่านทำเอาอันดาที่ยืนอยู่สะดุ้งเฮือกจนแทบลืมหายใจ เธอยังคงก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตาแต่ยอมพยักหน้าเป็นคำตอบ
"ฉันไม่ชอบคนที่ถามแล้วเงียบ" แต่เท่านั้นดูจะไม่เพียงพอสำหรับคนมีอำนาจแบบเขา "เงยหน้าแล้วตอบ"
อันดาเม้มริมฝีปากแน่นจนชาไปหมด หญิงสาวกำข้อมือตนเองที่ประสานกันไว้เบื้องล่าง รวบรวมความกล้าของตนเองและค่อย ๆ เงยหน้าเรียวของตนเองขึ้นก่อนจะตอบรับด้วยเสียงหวานระคนสั่นกลัว
"ชะ...ใช่ค่ะ ฉันชื่ออันดา มาชดใช้ทุกอย่างแทนพี่ชายค่ะ"
"..." แววตาสีเทาของศิลาจดจ้องเธอด้วยความหมายที่คาดเดาไม่ได้ แม้มันจะวูบไหวไปในวินาทีแรกแต่ก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นราบเรียบเย็นชาในท้ายสุด
เนิ่นนานที่สายตาของเขายังคงฉายภาพของหญิงสาวตรงหน้าตาไม่กระพริบ สายตาของทั้งคู่จดจ้องกันอยู่สักพักท่ามกลางความเงียบ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจถามอีกครั้ง
"เธอชื่อว่าอะไรนะ" เขาย่างก้าวเข้าไปใกล้เธออีกนิด ความสูงของเขามากกว่าเธอจนทำให้คนตัวเล็กต้องเงยหน้าขึ้นสบตา
หญิงสาวหายใจติดขัดเมื่อโดนถามย้ำอีกครั้งจากเจ้าของคำถาม เธอแอบเหลือบมองรอยสักรูปไม้กางเขนพันด้วยกุหลาบบริเวณต้นคอซึ่งโผล่พ้นคอเสื้อออกมาอย่างหวั่นเกรง หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะจนได้ยินเสียงตึกตัก
"ชะ...ชื่อ...อันดาค่ะ"